สำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซียรายงานวันนี้ (20 มิ.ย.) อ้างแถลงการณ์กองกำลังร่วมนำโดยสหรัฐฯ ว่า โดรนสัญชาติอิหร่าน ถูกเครื่องบินรบ เอฟ 15 ของสหรัฐฯ สอยร่วงทางภาคใต้ของซีเรีย ใกล้เมืองอัตตอนฟ์ (At Tanf) ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5 จากเดือนที่แล้วที่สหรัฐฯ ได้โจมตีกองกำลังพันธมิตรรัฐบาลซีเรียในพื้นที่ดังกล่าว
แถลงการณ์กองกำลังร่วมนำโดยสหรัฐฯ ระบุว่า โดรนพิฆาตรุ่นชาฮีด-129 (Shaheed-129) แสดงเจตนาที่ไม่เป็นมิตรและล้ำเข้ามาในเขตของกองกำลังร่วมสหรัฐฯ เมื่อเวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดรนดังกล่าวบินสังเกตการณ์ในบริเวณเดียวกับที่โดรนลำอื่นเคยถูกยิงตกเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา
อัตตอนฟ์เป็นเมืองชายแดนของซีเรียติดกับจอร์แดนพื้นที่ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ กำลังฝึกการทหารให้กับฝ่ายกบฏซีเรีย โดยสหรัฐฯ อธิบายอย่างเป็นทางการว่า เป็นกองกำลังพันธมิตรของสหรัฐฯ
.@CJTFOIR statement on the shooting down of an armed pro-regime drone in southern Syria pic.twitter.com/PbwKIOmmnt
— Fergus Kelly (@ferguskelly) June 20, 2017
กองกำลังร่วมสหรัฐฯ กล่าวว่า “ไม่ได้ต้องการที่จะต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย รัสเซีย หรือกองกำลังที่สนับสนุนระบอบอัสซาด แต่จะไม่ลังเลที่จะปกป้องกองกำลังร่วมฯ หรือกองกำลังของฝ่ายพันธมิตรจากภัยคุกคามใดๆ” แถลงการณ์ระบุ
เมื่อวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงเครื่องบินรบของรัฐบาลซีเรียร่วงขณะปฏิบัติภารกิจโจมตีไอซิสทางตอนใต้ของเมืองรักกา ในพื้นที่ภาคตะวันออกของซีเรีย
ปฏิกิริยาสะท้อนต่อการกระทำดังกล่าวรัสเซียประกาศว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของตนจะติดตามล็อคเป้าอากาศยานของกองกำลังร่วมสหรัฐฯ ทั้งหมดที่บินทางฟากตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส และระงับสนธิสัญญา “สายด่วน” ที่จัดให้มีขึ้นมาระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการปะทะกันทางอากาศ โดยรัสเซียระบุว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ใช้ “สายด่วน” ดังกล่าวเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองรักกา