ครม.ไฟเขียวเพิ่มทุน “ไอแบงก์” 1.6 หมื่นล้าน คลังถือหุ้นใหญ่ 99.7%

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง

ที่ประชุมครม. มีมติเพิ่มทุนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) 1.6 หมื่นล้าน หลังจากที่พระราชบัญญัติไอแบงก์ที่มีการแก้ไขให้กระทรวงการคลังสามารถถือหุ้นเกิน 49% ได้เป็นการชั่วคราว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ตามแผนฟื้นฟูไอแบงก์

วันที่ 4 ก.ย. วานนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัตินำเงิน 16,100 ล้านบาท ของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ไปเพิ่มทุนของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ จากก่อนหน้านี้ใช้งบประมาณเพิ่มทุนไปแล้ว 2,000 ล้านบาท รวมเป็นการเพิ่มทุน 18,100 ล้านบาท ตามแผนการฟื้นฟูกิจการไอแบงก์ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

ทั้งนี้ ครม.มีมติให้กระทรวงการคลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นได้ 99.71% หลังจากที่พระราชบัญญัติไอแบงก์ที่มีการแก้ไขให้กระทรวงการคลังสามารถถือหุ้นเกิน 49% ได้เป็นการชั่วคราว และจะค่อยๆ ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงในอนาคต หลังจากไอแบงก์หาพันธมิตรร่วมทุนได้

ตลอดช่วงกว่า 5 ปีที่ผ่านมา ไอแบงก์ต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการของ คนร. หลังจากมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สูงถึงประมาณ 50,000 ล้านบาทมานาน เพราะนอกจากปล่อยกู้ตามนโยบายรัฐแล้ว ยังปล่อยกู้ให้โครงการที่มีนักการเมืองบางกลุ่มเกี่ยวข้อง โดยปี 2560 ได้โอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพนี้ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยแล้ว

โดยฐานะการเงินของไอแบงก์ที่รายงานต่อคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 มีเงินรับฝากประมาณ 78,510 ล้านบาท สินทรัพย์​รวม 71,293 ล้านบาท มีหนี้สิน (รวมเงินรับฝาก) 90,187 ล้านบาท มีรายได้จากการดำเนินงาน 798 ล้านบาท มีหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญ 352 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 724 ล้านบาท