แถลงการณ์สมาพันธ์นักเรียนเก่าอียิปต์ในประเทศไทย
เรื่อง การรัฐประหารและเข่นฆ่าประชาชนในอียิปต์
21 สิงหาคม 2556
ณ มัสยิดกลางจังหวัดสงขลา
……………………………………………………
จากเหตุการณ์รัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารในอียิปต์สั่งสลายการชุมนุม อย่างสงบของประชาชนชาวอียิปต์บริเวณมัสยิดรอบิอะฮฺอัลอาดาวียะฮฺ และมัสยิดอัลฟัตห์ ณ กรุงไคโรเพื่อประท้วงการก่อรัฐประหารและให้นำรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งกลับ มาบริหารประเทศอีกครั้งจนทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก โดยแหล่งข่าวของรัฐบาลอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คน ขณะที่แหล่งข่าวภาคประชาชนระบุว่าผู้เสียชีวิตมีมากกว่า 3,000 คน นอกจากนี้มีการเผาผู้บาดเจ็บซึ่งยังไม่เสียชีวิต เผามัสยิด และหน่วงเหนี่ยวศพมิให้ญาติรับไปทำพิธีทางศาสนาด้วย
สมาพันธ์นักเรียนเก่าอียิปต์ รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวรวมทั้งเหตุการณ์ทำร้ายผู้ชุมนุมอย่างสันติก่อน หน้านี้หลายครั้งด้วยความเศร้าสลดหดหู่ยิ่ง และขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง ถือเป็นการกระทำอันเกิดจากจิตใจที่โหดเหี้ยมเกินขอบเขตของคำว่าชั่ว เพราะประชาชนที่ถูกสังหารต้องเสียชีวิตไปเพียงเพราะเพรียกหารัฐบาลที่ถูก ต้องชอบธรรม และต่อต้านการรัฐประหารล้มล้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน อันเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
สมาพันธ์ฯ จึงขอประณามการปฏิวัติรัฐประหารในอียิปต์รวมทั้งการกระทำใด ๆ อันเป็นการล้มล้างระบบการปกครอง หรือล้มล้างรัฐบาลซึ่งประชาชนเลือกเข้ามาบริหารประเทศอย่างชอบธรรม อีกทั้งประณามผู้อยู่เบื้องหลังและสนับสนุนการปฏิวัติทุกคน เพราะเป็นการส่งเสริมให้เกิดความชั่วซึ่งถือเป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนา อิสลาม ดังอัลลอฮฺทรงตรัสไว้ความว่า“จงส่งเสริมช่วยเหลือกันในเรื่องความดีและความ ยำเกรง แต่อย่าส่งเสริมช่วยเหลือกันในเรื่องบาปกรรมและความเป็นอริบาดหมาง”
สมาพันธ์ฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารในอียิปต์เคารพต่อสิทธิและ เจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ โดยการนำรัฐบาลที่ประชาชนเลือกแล้วกลับมาปกครองประเทศดังเดิม และขอเรียกร้องให้กลุ่มประเทศที่สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ ยุติการให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนทุกรูปแบบเพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ความช่วยเหลือที่รัฐบาลทหารอียิปต์ได้รับนั้น ถูกนำมาใช้ปราบปรามและเข่นฆ่าประชาชนผู้เรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมของตนอย่าง เหี้ยมโหดเพียงใด
สมาพันธ์ฯ ขอให้กลุ่มประเทศตะวันตกยึดมั่นรักษาหลักการแห่งประชาธิปไตยอย่างเคร่งครัด ขอให้ใช้หลักการประชาธิปไตยต่อประเทศต่าง ๆ ด้วยมาตรฐานเดียวกัน เพื่อสร้างความยุติธรรมแก่คนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม เนื่องจากการปฏิบัติอย่างอยุติธรรม และหลายมาตรฐานต่อบุคคลบางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมุสลิมเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดความรุนแรงในพื้นที่ ต่าง ๆ ทั่วโลก
สมาพันธ์ฯ ขอสนับสนุนการต่อสู้ด้วยสันติของประชาชนคนอียิปต์ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรมอย่างเต็มที่ ขอให้ผู้ต่อสู้จงยึดมั่นในสันติวิธีอย่างอดทนจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายในการนำ รัฐบาลที่ชอบธรรมกลับสู่ประเทศอีกครั้ง ตามพระบัญชาแห่งอัลลอฮฺในซูรอฮฺอาละอิมรอน อายะฮฺที่ 120 ความว่า“แม้นหากพวกเจ้าอดทนและยำเกรงต่ออัลลอฮฺอย่างแท้จริงกลอุบายใด ๆ ของพวกเขาก็จะทำลายพวกเจ้าไม่ได้ แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้ถึงสิ่งที่พวกเขากระทำ”
สมาพันธ์ขอเรียกร้องสื่อมวลชนที่รายงานข่าวสถานการณ์ในอียิปต์ ให้ยึดมั่นในจรรยาบรรณของสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้อคติรายงานข่าวอย่างเอนเอียง เพื่อช่วยเหลือฝ่ายหนึ่ง และทำลายอีกฝ่ายหนึ่งอย่างอยุติธรรม
ควรตระหนักว่า การรายงานข่าวเท็จและสร้างกระแสความเกลียดชังจะไม่สามารถทำลายอิสลามได้อีก ทั้งไม่สามารถปิดบังความจริงได้ ความพยายามที่จะสร้างภาพของผู้ต่อสู้เพื่ออิสลามในอียิปต์ให้เป็นผู้ก่อการ ร้ายของสื่อ มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น สร้างความเกลียดชังต่อกันและกันอย่างขาดเหตุผลมากขึ้น ขณะที่ความเชื่อถือต่อสื่อมวลชนมีแต่จะน้อยลง
สมา พันธ์ฯ ขอขอบคุณต่อรัฐบาลไทยและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร เป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้ความสงเคราะห์นักศึกษาไทยและคนไทยในอียิปต์เป็นอย่าง ดี และขอให้รัฐบาลไทยยืนบนจุดของความเที่ยงธรรมโดยส่งเสริมสิทธิ์และเสรีภาพตาม ระบอบประชาธิปไตยของประชาชน และควรประณามการทำลายสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวอย่างจริงจัง
ลงชื่อ (ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ)
ประธานสมาพันธ์นักเรียนเก่าอียิปต์ในประเทศไทย