ม.อ.ปัตตานี เปิดเวทีสัมมนาการศึกษาอิสลาม เชิญปราชญ์มุสลิมโลก 37 ประเทศร่วม

37 ประเทศ ส่งผู้นำและปราชญ์มุสลิม ร่วมสัมมนาอิสลามศึกษานานาชาติ เรื่อง “การศึกษาอิสลาม พลังแห่งการขับเคลื่อนในการพัฒนาและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข”   ระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2560   ณ วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี(ม.อ.ปัตตานี) เพื่อส่งเสริมคุณค่าการศึกษาอิสลามในการสร้างสันติภาพและชี้นำสังคมสู่สันติสุข 

ดร.ยูโซะ ตาเละ  ผู้อำนวยการวิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี  กล่าวว่า วิทยาลัยอิสลามศึกษา ม.อ.ปัตตานี ได้เชิญปราชญ์และนักวิชาการมุสลิม  40 ประเทศ ร่วมสัมมนาอิสลามศึกษานานาชาติ เรื่อง “การศึกษาอิสลาม พลังแห่งการขับเคลื่อนในการพัฒนาและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข”   ระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2560   ณ วิทยาลัยอิสลามศึกษา ม.อ.ปัตตานี  นับเป็นครั้งที่ 4   ในรอบ  8 ปี  เพื่อส่งเสริมคุณค่าการศึกษาอิสลามในการสร้างสันติภาพและชี้นำสังคมสู่สันติสุข   โดยครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากทุกทวีปทั่วโลกรวม  40 ประเทศ จำนวน 500 คน  มีประเทศที่ตอบรับการเข้าร่วมมาแล้ว 37 ประเทศ  ได้แก่  ประเทศแอลจีเรีย , บาห์เรน , บรูไน , อียิปต์ , อังกฤษ , กินี , อินเดีย , อินโดนีเซีย , อิรัก , ญี่ปุ่น , จอร์แดน , คูเวต , ลาว , ไลบีเรีย , ลิเบีย , จีน , มาซิโดเนีย , มาเลเซีย , มัลดีฟส์ , โมร็อกโก , ไนจีเรีย , โอมาน , ปากีสถาน , ฟิลิปปินส์ , กาตาร์ , รัสเซีย , ซาอุดิอารเบีย , ศรีลังกา , ซูดาน , ติมอร์-เลสเต , ตุรกี , สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ , ยูกันดา , ยูเครน , สหรัฐอเมริกา , เยเมน  และไทย  โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา

การสัมมนาดังกล่าวประกอบด้วยการนำเสนอบทความจากผู้นำประเทศมุสลิมและนักวิชาการอิสลามศึกษาที่มีชื่อเสียงอาทิ  เชคอุมัรอุบัยดฺฮาซานะฮฺอธิบดีกรมการวิจัยและอิสลามศึกษากระทรวงศาสนสมบัติและกิจการอิสลามประเทศกาตาร์ , เชคอับดุลการีมฆอศอวะนะฮฺ  ประธานศาลฎีกาสูงสุดประเทศจอร์แดน , ดร.มุหัมมัดอะฮฺมัดมุซัลลัมอัล-คอลัยละฮฺ  ผู้นำสูงสุดในศาสนาอิสลามประเทศจอร์แดน , ดร.อะหมัดบินหะมัดญีลานที่ปรึกษาเลขาธิการองค์กรสันนิบาตมุสลิมโลกประเทศซาอุดิอารเบีย , ดร.อับดุลอาซีซอุสมานอัล-ตูวัยญีรีย์  อธิบดีองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอิสลาม  ราชอาณาจักรโมร็อกโก , ศ.ดร.กุฏุบมุสฏอฟาซาโนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกสาธารณรัฐกินี,  และ  ดร.ซอและฮฺ สุลัยมาน อัล-วูฮัยบีย์ เลขาธิการสภายุวมุสลิมโลก ประเทศซาอุดิอารเบีย เป็นต้น

ผู้อำนวยการวิทยาลัยอิสลามศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญประการหนึ่งที่จะกระชับความสัมพันธ์กับพันมิตรทางวิชาการ เพื่อพัฒนาอิสลามศึกษาในประเทศไทยรวมถึงสร้างเครือข่ายทางการศึกษาที่จะเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษา การเปิดหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรในการก้าวสู่ความเป็นนานาชาติ สนองนโยบายที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในอาเซียน  ตลอดจนเสริมสร้างสังคมสันติสุขและสมานฉันท์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยมีการประชุมโต๊ะกลม  การแสดงปาฐกถาของผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันชั้นนำของโลกมุสลิม  การนำเสนอบทความทางวิชาการ เวทีวิพากษ์และเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญด้านอิสลามศึกษา การประกาศปฏิญญาและแถลงการณ์ของการประชุมนานาชาติ ครั้งที่ 4  และทัศนศึกษาโครงการพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส เป็นต้น

ผลสัมฤทธิ์จากการสัมมนาสามครั้งที่ผ่านมาทำให้มีข้อตกลงจากทวิภาคี 14 ฉบับ  มีกำหนดปฏิญญาปัตตานี ,  มีข้อตกลงจัดการประชุมอิสลามศึกษานานาชาติทุกๆ 2 ปี ณ วิทยาลัยอิสลามศึกษา ม.อ.ปัตตานี , ยกระดับการจัดการศึกษาของวิทยาลัยอิสลามศึกษา  ม.อ.ปัตตานี  ให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาเอเซียน  หรือ  Asean  Education  Hub , การจัดตั้งศูนย์ทดสอบและพัฒนาทักษะภาษาอาหรับเพื่ออิสลามศึกษา (ASTEC)   , มีคณะกรรมการประสานงานอิสลามศึกษา (ISCC) ,  บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างวิทยาลัยอิสลามศึกษา ม.อ.ปัตตานี กับมหาวิทยาลัยต่างๆ,  โครงการแลกเปลี่ยนแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรกับมหาวิทยาลัยต่างๆ  ,  การจัดตั้งโรงเรียนสาธิตอิสลามศึกษา ม.อ.  ,  การจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านอิสลาม (ATSDC)  , การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการจัดการข้อมูลอิสลาม (ICentre)  และ โครงการวิสาหกิจเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ (SEED)

“การสัมมนาอิสลามศึกษานานาชาติที่จัดขึ้นทุกๆ 2 ปีนับว่าเป็นการเปิดเวทีวงวิชาการด้านอิสลามศึกษาในระดับโลก  มีการแลกเปลี่ยนและกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอิสลามศึกษาให้มีผลต่อการพัฒนาสังคมโลกโดยเฉพาะในประเด็นการสร้างสันติภาพและการสร้างความสามัคคีของประชาคมโลกคาดหวังว่าความร่วมมือทางวิชาการระหว่างเครือข่ายอิสลามศึกษาจะเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข”  ผู้อำนวยการวิทยาลัยอิสลามศึกษา  ม.อ.ปัตตานีกล่าวเพิ่มเติม