กรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ฯ เร่งดำเนินการทุกด้าน เพื่อมุสลิมได้ประกอบพิธีฮัจย์ด้วยความมั่นใจ

คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เพื่อพี่น้องมุสลิมได้ไปประกอบพิธีฮัจย์ด้วยความมั่นใจ ภายใต้แนวคิดทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันในนามทีมไทยแลนด์

คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนการดำเนิน งานกิจการฮัจย์เป็นหนึ่งเดียวกัน มุ่งหมายให้การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมประจำปี ๒๕๕๗ เป็นไปด้วยความความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ เพื่อพี่น้องมุสลิมได้ปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างสมบูรณ์ เดินทางกลับอย่างมีความสุข พร้อมนำสิ่งดีงามตามหลักธรรมคำสอน มาร่วมสร้างสรรค์ชุมชนแห่งสันติสุข ความปรองดอง ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อความเจริญที่มั่นคงของประเทศชาติต่อไป

เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดประทรวงวัฒนธรรม  ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานในการประชุมคณะ กรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๔/๒๕๕๗  ณ  ห้องประชุมกรมการศาสนา ชั้น ๑๒ โดยที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันที่จะเร่งดำเนินการกิจการฮัจย์ที่เกี่ยวข้องทุก ด้าน ให้เกิดความพร้อมสูงสุด เพื่อให้เป็นปีพิเศษสำหรับการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องมุสลิม โดยก่อนการเดินทางจะมีการจัดพิธีอำนวยพรและพิธีส่ง ณ ภูมิลำเนา และจัดตั้งศูนย์อำนวย   ความสะดวกผู้ไปประกอบพิธีฮัจย์    ณ ท่าอากาศยานต่างๆ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่านอากาศยานหาดใหญ่        ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานนราธิวาส และเพื่อเป็นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพของผู้แสวงบุญจะมีการมอบเจลล้างมือให้ แก่ผู้แสวงบุญทุกคน  รวมทั้งมอบซิมการ์ดสำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย อีกด้วย สำหรับการอำนวยความสะดวกในประเทศซาอุดีอาระเบีย  จะมีเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน      ณ ท่าอากาศยานเมืองเจดดาห์  ท่าอากาศยานเมืองมะดีนะห์  ที่เมืองมักกะห์ และเมืองมะดีนะห์ รวมทั้งจัดตั้งสำนักงานกิจการฮัจย์ไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้อง มุสลิม การจัดตั้งสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์     แห่งประเทศไทย  โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลไทย จำนวน ๓ ทีม รวม ๔๒ คน คอยให้บริการสุขภาพพี่น้องชาวไทยมุสลิม ณ เมืองมักกะห์และเมืองมะดีนะห์ เป็นต้น ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว  คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์  แห่งประเทศไทยและกรมการศาสนาในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการ ฮัจย์แห่งประเทศไทย ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกหน่วยงาน อาทิ จุฬาราชมนตรีในฐานะอะมีรุ้ลฮัจย์  กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ สถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ  บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กรมประชาสัมพันธ์ ตลอดจนเครือข่ายสื่อมวลชนต่างๆ  โดยทุกหน่วยงานร่วมผนึกกำลังทำงาน  เป็นหนึ่งเดียวกันในนามทีมไทยแลนด์ เพื่อมุ่งสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวไทยมุสลิม  ภายใต้การสนับสนุนการดำเนินงานจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

สำหรับกรณีที่คณะ กรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ได้มีมติให้กรมการศาสนาในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ แห่งประเทศไทย ออกมาตรการเร่งรัดให้ผู้ประกอบกิจการฮัจย์เร่งดำเนินการตรวจสอบรายชื่อผู้ แสวงบุญในสังกัด     ที่ได้รับสิทธิเดินทางในปีนี้  หากยังไม่พร้อมและไม่เคยเลื่อนการเดินทาง ให้แจ้งขอเลื่อนการเดินทางไปในปีถัดไป แต่หากยังไม่ประสงค์เดินทาง  ให้แจ้งยกเลิกการเดินทางกับกรมการศาสนา รวมทั้งขอให้ตรวจสอบข้อมูล  ผู้แสวงบุญบัญชีสำรองในสังกัด ที่พร้อมจะเดินทางในเทศกาลฮัจย์ประจำปี ๒๕๕๗ โดยแจ้งให้กรมการศาสนาทราบภายในวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๗  โดยหากมีโควตาคงเหลือ ก็จัดให้กับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตามโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมไปประกอบพิธีฮัจย์  ซึ่งในวันดังกล่าว สามารถสรุปจำนวนข้อมูลได้ดังนี้ คือ มีผู้แสวงบุญแจ้งยกเลิก จำนวน ๒๔๑ คน ผู้แสวงบุญขอเลื่อนการเดินทาง ๑,๐๐๒ คน รวมเป็น      ๑,๒๔๓ คน และมีผู้แสวงบุญบัญชีสำรองพร้อมเดินทางในปี ๒๕๕๗ จำนวน ๘๐๔ คน

ในการประชุมคณะกรรมการ ส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๔/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๙  สิงหาคม ๒๕๕๗ ได้มีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้จัดผู้แสวงบุญบัญชีสำรองจำนวน ๘๐๔ คน เป็นผู้ได้สิทธิเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี ๒๕๕๗ รวมทั้งให้โควตาที่เหลือกับ ศอ.บต. จำนวน ๒๐๐ คน ส่วนโควตาที่เหลือให้จัดสรรเป็นผู้ให้บริการผู้ไปประกอบพิธีฮัจย์เพิ่มเติม ให้แก่ผู้ประกอบกิจการฮัจย์ทุกราย ตามสัดส่วนจำนวนผู้แสวงบุญในสังกัด และหากกรณีมีผู้ประกอบกิจการฮัจย์รายใด ไม่ประสงค์  รับโควตาดังกล่าว ก็ขอให้แจ้งคืนโควตาให้กับกรมการศาสนาทราบภายในวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๗ เพื่อกรมการศาสนา    จะได้นำเข้าเพื่อพิจารณาในคณะอนุกรรมการพิจารณาการลงทะเบียนผู้ประสงค์จะ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ต่อไป หากท่านมีข้อมูลสอบถามประการใด ติดต่อได้ที่ โทร ๐ ๒๔๒๒ ๘๗๙๕  หรือติดตามข่าวสารทาง www.hajthailand.net