ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
หลังจากเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2562 สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์โต้ข่าวใส่ร้ายโรงเรียนเอกชน “ทุจริตเงินอุดหนุน” ฟ้องช่อง 7 สี ร้องแม่ทัพภาค 4 ย้าย “พล.ต.จตุพรฯ” ออกนอกพื้นที่ สร้างความสับสนวุ่นวาย “ขู่”ฟ้องศาลปกครองคุ้มครองโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามใต้ (โปรดดู https://www.publicpostonline.net/25535 และ https://siamrath.co.th/n/73690) และยื่นหนังสือถึงแม่ทัพภาคที่4 ต่อเรื่องดังกล่าวในวันที่ 10 เมษายน 2562 (โปรดดู https://mgronline.com/south/detail/9620000035772)
ทำให้ 16 เม.ย.62 เวลา 13.30 พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานการประชุม (การพูดคุยแบบเปิดอก) ต่อ เรื่อง ดังกล่าว ร่วมกับนายกสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ผู้บริหาร อาจารย์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมกองยุทธศาสตร์และสันติวิธี (บ้านกรงนก) ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อหาทางออกร่วมกันอันจะนำมาซึ่งการเดินหน้าเสริมสร้างความมั่นคง นำสันติสุข/สันติภาพ กลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
โดยมีข้อสรุปในภาพรวมดังนี้
1.พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 สัญญาว่า จะยกเลิกคำสั่งที่ 213/62 (โปรดดูรายละเอียดแนบ)
2.การตรวจเงินอัดหนุนขอให้สำนักงานการศึกษาเอกชน(สช.)ใช้กฎหมาย/กฎระเบียบปกติธรรมดาของกระทรวงศึกษาธิการ
3.นิติกรสช.จังหวัดยะลา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนต่างที่ให้โรงเรียนเอกชน ระหว่างหลักกฎหมายกับความเป็นจริงที่บางเรื่องไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายเพราะไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น เรื่องการจ่ายเงินเดือนครูร.ร.เอกชนสอนศาสนาอิสลามที่ต้องจ้างครูสองหลักสูตรแต่รัฐอุดหนุนเพียงหลักสูตรเดียวผ่านรเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน ซึ่งอาจจะต้องร่วมทำข้อเสนอแนะให้สอดคล้องทั้งหลักกฎหมายกับหลักปฏิบัติ
จากข้อชี้แจงดังกล่าว ทำให้แม่ทัพภาคที่4 เพิ่งจะเข้าใจ (และพูดว่า นิติกรสช.น่าจะพูดให้ทราบตั้งแต่การหารือช่วงแรกของการประชุม)
4.พลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ หัวหน้าพูดคุยสันติสุขฯ ให้ทัศนะในภาพรวมว่าเรื่องนี้มีผลกระทบต่อการสร้างบรรยากาศหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยดังนั้นเวทีพูดคุยวันนี้ส่งผลดีในภาพรวมในการหนุนเสริมกระบวนการสันติภาพ/สันติสุขในภาพใหญ่
จากข้อสรุปทั้งหมดสร้างบรรยากาศที่ดีในภาพรวมระหว่างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามกับหน่วยความมั่นคง
โดยนายขดดะรี บินเซ็นให้ทัศนะว่า “ความเป็นจริงก่อนจะมีแถลงการณ์ของสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ต่อเรื่องนี้เมื่อวันที่8 เมษายนนั้น ขอชี้แจงว่า หลังจากคำสั่งเจ้าปัญหานี้(ที่213/62) ทางสมาคมได้พูดคุยกับพลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อคำสั่งนี้ แต่ปรากฎว่าทางช่อง7 สีได้นำเสนอรายงานที่กล่าวหาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามเมื่อวันที่2 เมษายน 2562 (โปรดดูเนื้อหาข่าวในหมายเหตุ) หรือเรามองว่าขาดจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าวโดยไม่นำเสนอข่าวอย่างรอบด้านเพราะเรื่องนี้มันเป็นมิติความมั่นคงและจะกระทบต่อกระบวนการสันติภาพ จชต.ดังนั้นทำให้สมาคมสมาพันธ์เราจึงจำเป็นต้องออกแถลงการณ์เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในภาพรวม ซึ่งความเป็นจริงนั้นทางสมาคมไม่ได้ปฏิเสธการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกแต่ขอให้เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงซึ่งเราอยู่ภายใต้สำนักงานการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ ที่เป็นหน่วยงานหลักในเรื่องนี้ การเข้าตรวจสอบก็ขอให้ปฏิบัติอย่างเป็นธรรมทุกสังกัด ไม่เฉพาะเจาะจงเฉพาะโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ภายใต้กฎหมายไทย และต้องเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นเมื่อแม่ทัพภาคที่สี่รับประกันต่อหน้าตัวแทนสมาคมเรา ต่อหน้า ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้และตัวแทนสำนักการศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าจะยกเลิกคำสั่งด้วยวาจา ในคำสั่งนี้ซึ่งเรามองว่าเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ ใช้อำนาจไม่ปกติ เราก็จะไม่ยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามที่เป็นข่าวและสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ยินดีจะร่วมมือกับหน่วยความมั่นคงและทุกภาคส่วนในกระบวนการพูดคุยสันติสุข/สันติภาพ อีกทั้งแก้ปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านมิติการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม”
อีกเรื่องหนึ่งที่ขอชี้แจงกล่าวคือตามที่ผู้เขียนใช้นามแฝง “Ibrahim” (ไม่กล้าเปิดชื่อจริง) กล่าวให้ร้ายสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ว่าเป็นสมาคมเถื่อนยังไม่จดทะเบียน
(ดูที่ลิ้งบทความhttps://pulony.blogspot.com/2019/04/blog-post_11.html?m=1)
ขอชี้แจงว่า สมาคมสมาพันธ์เราได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เลขที่
04/2561
ทะเบียน เลขที่04/2561
ทะเบียน เลขที่04/2561(ต่อ)
ทะเบียน เลขที่04/2561(ต่อ)
หมายเหตุ
เนื้อหาข่าว
รายงานพิเศษ : เปิดเส้นทางทุจริตเงินอุดหนุนปอเนาะ ตอนที่ 2
เงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รัฐสนับสนุนปีละหลายพันล้านบาท แต่ที่ผ่านมาเม็ดเงินดังกล่าวถูกใช้ไปในทางที่ผิด ผู้ที่ควรได้รับประโยชน์ กลับไม่ได้รับประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยเฉพาะครูที่ถูกหักเงินเดือนต่อเนื่องหลายปี จึงสงสัยว่าหักเงินไปเพื่ออะไร
หลายคนสงสัยว่า เงินอุดหนุนดังกล่าว อาจมีเงินทอนและบางส่วนถูกใช้สนับสนุนกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่หรือไม่ เพราะจากการเข้าตรวจค้นโรงเรียนบางแห่งก็พบข้อความไม่เหมาะสม
แนวร่วมขบวนการที่ถูกจับกุม เผยข้อมูลว่า โรงเรียนบางแห่งใช้เป็นสถานที่บ่มเพาะแนวคิดแบ่งแยกดินแดน เป็นสถานที่คัดเลือกบุคคลเข้าร่วมขบวนการ เป็นสถานที่ฝึกร่างกายก่อนส่งไปฝึก RKK และเป็นสถานที่รวบรวมเงินบริจาคจากสมาชิกขบวนการในพื้นที่ ขณะที่การตรวจค้นก็พบเงินซุกซ่อนในห้องทำงาน หรือห้องพักผู้บริหาร
สอดคล้องกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ DSI พบว่าเงินอุดหนุนช่วยเหลือนักเรียนรายบุคคล ที่เป็นงบประมาณที่ได้รับมากที่สุด กลับมีช่องว่างให้ทุจริตได้ และแต่ละโรงเรียน ยังเหลือเงินแต่ละเดือนมากพอที่ไม่ต้องหักเงินเพิ่มจากครู หรือรับการบริจาค
ต้นตอปัญหาคือ โรงเรียนเปิดในรูปแบบมูลนิธิ เพื่อให้ได้เงินอุดหนุน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่โอนเงินเข้าบัญชีบุคคล จึงถือเป็นผู้มีรายได้ ทำให้ขณะนี้ผู้บริหารโรงเรียนหลายแห่งต้องจ่ายภาษีย้อนหลัง บางแห่งจ้างสำนักงานบัญชีเอกชน ตกแต่งบัญชี
ซึ่งขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการจากหลายภาคส่วน มาร่วมกันแก้ไขปัญหา และขอให้สังคมร่วมตรวจสอบเรื่องนี้เพราะที่ผ่านมาการศึกษาไม่ได้คุณภาพ ชั่วโมงเรียนของนักเรียนหายไปกว่า 500 ชั่วโมงต่อปี
ขณะที่สำนักงานการศึกษาเอกชน หรือ สช. เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ไม่ได้การตรวจสอบการดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะจากการตรวจสอบก็พบว่ามีโรงเรียนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ดำเนินการไม่ถูกต้อง และงบประมาณถูกใช้ไปเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ แต่อีก 60 เปอร์เซ็นต์ใช้จ่ายไม่ถูกต้อง
การตรวจสอบมีเป้าหมายหลัก เพื่อยกระดับมาตรฐานชีวิตนักเรียนและครูให้ดีขึ้น แต่ละโรงเรียนก็ต้องปรับหลักสูตรให้เรียนวิชาสามัญเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากไม่ให้ความร่วมมือแก้ไขปัญหาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน
อ้างอิง https://news.ch7.com/detail/334771?refid=line&fbclid=IwAR3lEq2uFKKQja3itWNKVmihIHkfQg5fTaxK-Xj2aNJlFLIhkWeq8jlME3I
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้, ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา
E-mail : shukur2003@yahoo.co.uk