คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยกำหนดมาตรการเร่งรัดให้ผู้ประกอบ กิจการฮัจย์ยืนยันสิทธิของผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญประจำปีนี้ ภายในวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคมนี้ และหากมีโควตาเหลืออาจจัดสรรให้แก่ศอ.บต. ตามโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมไปประกอบพิธีฮัจย์
วันนี้ (๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗) เมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. ณ ห้องประชุมกรมการศาสนา ชั้น ๑๒ กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมี ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานการประชุม และอธิบดีกรมการศาสนา เป็นฝ่ายเลขานุการ โดยที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินงานของกรมการศาสนา ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ทั้งในเรื่องจำนวนผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์การจัดเที่ยวบินขนส่ง การจัดเช่าที่พัก และรายงานสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันทางด้านสาธารณสุข เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสูงสุดในช่วงระยะสุดท้ายก่อนที่จะมีการเดินทาง ไปประกอบพิธีฮัจย์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
อนึ่ง ที่ประชุมยังได้มีการรับทราบและหารือเกี่ยวกับจำนวนผู้เดินทางไปประกอบพิธี ฮัจย์ในปีนี้ว่ายังอยู่ระหว่างการขอยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางออกไปเป็นปี หน้า และการเลื่อนผู้แสวงบุญในบัญชีสำรองมาแทนที่เนื่องจากคณะกรรมการฯ เคยมีมติไม่ให้มีการสับเปลี่ยน เพราะเกรงว่าจะกระทบสิทธิของผู้ที่มีรายชื่อรออยู่ในบัญชี สำรองที่แจ้งความประสงค์ไว้ จำนวน ๒๑,๓๒๒ คน (ข้อมูล ณ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗) ซึ่งที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบให้มีมาตรการเร่งรัดการดำเนินงานของผู้ประกอบกิจการฮัจย์ ในห้วงเวลาที่กำหนดไว้ ภายในวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๗ โดยผู้ประกอบกิจการฮัจย์จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ต่อไป โดยเฉพาะการยืนยันสิทธิของผู้ที่อยู่ในบัญชีสำรองตามลำดับคิวที่ลงทะเบียน ว่า จะยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน เพื่อที่กรมการศาสนาจะสามารถดำเนินการขั้นตอนต่อๆ ไป ของผู้ได้สิทธิเดินทาง โดยเฉพาะในขั้นตอนที่เข้าสู่การยื่นขอวีซ่าจากสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำ ประเทศไทย และสามารถรับทราบจำนวนที่แน่ชัดของผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ว่า ครบตามจำนวนโควตา ๑๐,๔๐๐ คน ที่ประเทศไทยได้รับจากทางการซาอุดีอาระเบียหรือไม่
ในขณะเดียวกัน ที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้กรมการศาสนาดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่อยู่ในบัญชีสำรอง ที่แจ้งความประสงค์ไว้ ตามจำนวน ๒๑,๓๒๒ คนข้างต้น รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการกิจการฮัจย์สำรวจรายชื่อ และแจ้งมาทางกรมการศาสนา เพื่อยืนยันว่า ผู้หนึ่งผู้ใดในท่านเหล่านั้นที่ยังรอที่จะใช้สิทธิและมีความพร้อมที่จะเดิน ทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ประกอบกิจการฮัจย์เร่งรัดดำเนินการยืนยัน สิทธิ รวมทั้งการขอยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางผู้แสวงบุญในสังกัดบริษัทของตนเอง ให้เร็วขึ้น
ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการให้มีการใช้จำนวนโควตาที่อาจเหลือจากการยืนยัน สิทธิของผู้แสวงบุญที่อยู่ในบัญชีสำรองตามลำดับคิวที่ลงทะเบียน ภายในวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๗ เพื่อจัดสรรจำนวนผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ให้กับศูนย์อำนวยการบริหาร จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จำนวน ๒๐๐ คน เพื่อดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมไปประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ทางการซาอุดีอาระเบียเองก็มีความชื่นชมในโครงการดังกล่าว แต่ไม่อาจตอบรับคำขอของ ศอ.บต.ในเบื้องต้นได้ เนื่องจากมีการจัดสรรโควตาให้แต่ละประเทศไปก่อนหน้าแล้ว แต่สนับสนุนให้ขอรับการจัดสรรจากโควตาของประเทศไทย โดยที่ประชุม ฯ ยังได้เห็นชอบในหลักการตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอให้มีการมอบให้ศูนย์อำนวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และคณะอิสลามประจำจังหวัดจัดให้มีการดูแลอำนวย ความสะดวกและพิธีอำนวยพร ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ตามภูมิลำเนาในพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้ข้อมูลผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ตามภูมิลำเนา เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีต่อกันระหว่างหน่วยงาน กับชุมชนในพื้นที่ สร้างรากฐานความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้นโดยใช้มิติศาสนา ก่อให้เกิดเป็นความปรองดอง สมานฉันท์ ของคนในพื้นที่ ซึ่งจะนำพาไปสู่ความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ยังรับทราบรายงานคำชี้แจงจากผู้แทนกระทรวงคมนาคม และบริษัทการบินไทยฯ เกี่ยวกับการจัดเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานอื่นๆ รวมทั้งท่าอากาศยานนราธิวาส โดยคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้แสวงบุญจากภาคใต้ให้สามารถเดินทางได้ โดยตรง จากท่าอากาศยานในพื้นที่ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของผู้แสวงบุญและญาติพี่น้องที่ไปส่ง
นอกจากนั้น ที่ประชุมฯ ยังให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธี ฮัจย์ประจำปี ๒๕๕๗ ณ ท่าอากาศยานต่างๆ รวมทั้งการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยที่จะเดินทางไป ปฏิบัติงาน ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ภายใต้การกำกับดูแลของท่านอาศิส พิทักษ์คุมพล ในฐานะอะมีรุ้ลฮัจย์ประจำปี ๒๕๕๗ หากมีข้อมูลสงสัยประการใดสอบถามได้ที่ โทร ๐ ๒๔๒๒ ๘๗๙๕ หรือติดตามข่าวสาร ทางwww.hajthailand.net