ผู้เขียนขอแบ่งปันความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัวหลังจากได้ฟังเพลงสากลเพลงหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาออกไปทางให้กำลังตัวเอง .. อาจจะเป็นเพลงที่ผู้อ่านอาจจะเคยได้ฟังได้ยินมาบ้างแล้ว เพราะเป็นบทเพลงที่ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 2014 แต่เนื่องด้วยกับความหมายที่มันกัดเซาะหัวใจและความรู้สึก ในฐานะหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชีวิตประจำวัน เสพสื่อ และแสวงหาปัจจัยยังชีพอยู่กับ “ยุคบริโภคนิยม” คิดว่าคงจะมีสาระไม่น้อย และคงจะไม่สายเกินไป หากจะหยิบจับเนื้อเพลงนี้มาแปล เพื่อแบ่งปัน และบอกเล่าความรู้สึก …
เมื่อวัฒนธรรมประชานิยมเสนอหนทางเดียวให้แก่ผู้หญิง คือ ต้องเป็นคนสวย เป็นคนเซ็กซี่ มันจึงยากที่จะให้ผู้เขียนยอมรับที่จะคิดเห็นว่า สิ่งนี้คือทางเลือกที่ผู้หญิงต้องการเลือกอย่างแท้จริง… “Try” บทเพลงที่ขับร้องโดยนักร้องสาวชาวอเมริกัน “Colbie Caillat” ซึ่งมีความหมายว่า “พยายาม” พูดถึงการที่ผู้หญิงส่วนมากต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองดูดีในสายตาของคนอื่น ให้คนอื่นพอใจในตัวเรา ด้วยการแต่งองค์ทรงเครื่อง ผัดหน้า ทำผม และมโนไปเองว่านั่นคือความสุขที่เฝ้าฝันแสวงหา โดยที่ไม่ได้เคยย้อนกลับมาถามตัวเองว่า เรามีความสุขในแบบที่เราเป็นไหม? …
สิ่งที่เพลงสื่อ กัดกินหัวใจ เพราะมันเป็นความจริง ที่สามารถพบเจอได้ในสังคมจริง สังคมในโลกของประชาธิปไตย ที่อ้างถึงเสรีภาพของสตรี ทว่าสตรีส่วนมากกลับไม่ได้มีเสรีภาพที่แท้จริง ….เพราะสังคมบริโภคนิยมกำหนดไว้ว่า เสรีภาพของสตรี คือ การที่สตรีมีสิทธิในการแสดงออกทางกายภาพอย่างเต็มที่ โดยปราศจากความละอาย แต่งอีก เปลื้องผ้าอีกยิ่งดี เพราะในสังคมแบบนี้จำกัดไว้ว่า สตรีที่สวยและเซ็กซี่เท่านั้น จึงจะถูกมองว่า เป็นสตรีที่มีคุณค่า เป็นที่ยอมรับและได้รับการเชิดชู ในขณะที่สตรีที่ไม่สวย ไม่เซ็กซี่ มีสิว มีริ้วรอย คือ สตรีที่แปลกประหลาด ไม่งาม และไม่ควรมีที่ยืนในสังคม
ฉะนี้แล้ว “เสรีภาพ” คือ อะไรกันแน่? เมื่อส่วนมากของสตรีในสังคมบริโภคนิยม ถูกกักขังอยู่ภายในกระจกเงาบานหนึ่ง เฝ้ามองดูตัวเองด้วยความรู้สึก อึดอัด ไม่ชอบไม่พอเพียงในตัว ภายในหัวของพวกเธอเต็มไปด้วย สื่อโฆษณาที่บิดเบือนความจริง อันเป็นผลพวงจาก ระบอบทุนนิยม.. วันๆ พวกเธอใช้เวลา พลังงาน และทรัพย์สินที่มี ไล่ล่าตามหาความงดงามในอุดมคติและความสมบูรณ์แบบทางกายภาพที่ไม่มีทางไขว่คว้ามาได้จริง…เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่ถูกยอมรับ และชื่นชมในสายตาของใครล่ะ? สังคม? บุรุษเพศ? หรือตัวเธอเอง?
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย หากเราจะลองสังเกตหญิงสาวรอบตัว ไม่ว่าวัยไหนๆ และพบเห็นภาพที่พวกเธอจะ ค่อยๆ แทะแอปเปิ้ลผลหนึ่ง ด้วยความกลัวว่า มันอาจจะหมดเร็วเกินไป.. เห็นเธอออกกำลังกายจนหมดสติ ราวกับว่ามันเป็นหนทางเดียวที่เธอจะถูกรัก.. เห็นเธอจ้องมองถุงขนม คำนวณหาค่าแครอลลี่ที่เธอจะกินได้ต่อวัน.. เห็นใบหน้าครุ่นคิดทุกครั้งที่เธอชั่งน้ำหนัก ราวกับว่า ตัวเลขพวกนั้นจะบ่งบอกที่ยืนของเธอในโรงเรียนมัธยม เห็นเธอทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อเอาเงินมากมายไปซื้อเครื่องสำอาง และเสื้อผ้าราคาแพง เพื่อจะได้ดูเหมือนนางแบบที่สังคมชื่นชม เห็นเธออ่อนระทวย ทุกครั้งที่มีใครบอกว่า แบบเธอคือสิ่งที่พวกเขาตามหา เห็นเธอยิ้มไม่หุบ เวลามีใครพูดกับเธอว่า “สวยขึ้นนะ ผอมลงนะ” … เห็น เธอร้องไห้ บ่นพึมพำด้วยความกังวล พลางวัดตัวอยู่หน้ากระจก…เห็นเธอหวาดกลัว เมื่อมีใครถากถางใบหน้าดำคล้ำของผู้หญิงอีกคน…
ไม่เพียงเท่านั้น สังคมบริโภคนิยม ยังส่งสาส์นแสดงความเห็นอก เห็นใจ หรือ แม้แต่ประณามอย่างจงใจ หรือไม่จงใจก็ตาม ไปยังสตรี ที่ไม่ยอมเปลื้องผ้า แต่งหน้า ทำผม อย่างเช่น สตรีมุสลิมคลุมฮิญาบ ซึ่งมักจะถูกมองว่า “ไร้เสรีภาพ” และ “ถูกกดขี่” ทว่า การถูกกดขี่ อาจจะให้ความหมายถึง การที่คนๆ หนึ่ง ถูกจำกัดเสรีภาพไม่ให้ใช้ “อำนาจ” ที่มีอยู่เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเอง ขณะที่บริบทของการคลุมตัวมิดชิด มีวัตถุประสงค์ (หนึ่ง) เพื่อสงวนตัวจากความใคร่ของบุรุษ เราจึงสามารถเห็นได้ว่า สิ่งที่สังคมบริโภคนิยม จำกัดความเอาไว้ คือการคลุมตัวมิดชิด เป็นสิ่งที่กีดกั้นเสรีภาพ และกดขี่สตรีเพศ ดังนี้แล้ว เราจึงอาจจะสรุปได้ว่า “อำนาจของสตรี” ในทัศนะของสังคมบริโภคนิยม วางอยู่บน ความงดงามทางกายภาพ และเรือนร่างของพวกนาง โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงศักยภาพทางความคิด และปัญญาของพวกนางเลย…
ในฐานะหญิงสาว คนหนึ่งที่ยังคงดิ้นรนให้ตัวเองหลุดพ้นออกจากวัฒนธรรมที่ซึ่งปฏิบัติกับสตรีเยี่ยงวัตถุ ไร้ความคิด ไร้ปัญญา ผ่านสื่อ และแนวความคิดที่สอดแทรกอายธรรมอันนำพาพวกเธอไปสู่การยอมรับ และคุ้นชินกับตัวเองในฐานะเครื่องมือทางเพศ พลางส่งเสริมให้พวกเธอมองเห็นสิ่งเหล่านี้ ว่าเป็นสิ่งที่พวกเธอเลือกเอง ในฐานะ ‘เสรีภาพ’ ประเภทหนึ่ง…. ผู้เขียนขอมอบบทเพลง Try เพลงนี้ ให้กับ สตรีทุกๆ คนที่ยังคงต่อสู้อยู่ในสมรภูมิเดียวกัน ในความพยายามที่จะทำให้ตัวเอง เชื่อมั่น และยอมรับ ในคุณค่าทางจิตใจ คุณธรรม และเชิดชูปัญญา เหนือความงดงามทางกายภาพ และวัตถุ
Put your make up on
Get your nails done
Curl your hair Run the extra mile
Keep it slim so they like you, do they like you?
แต่งหน้า
ทำเล็บอย่างสวย
วิ่งออกกำลังกายเป็นไมล์ๆ
ทำให้ตัวเองผอมเพรียว เพื่อทุกคนจะได้ชื่นชอบเธอ แล้วพวกเขาชอบเธอหรือยังล่ะ?
Get your sexy on
Don’t be shy, girl
Take it off
This is what you want, to belong, so they like you
Do you like you?
ทำให้ตัวเองดูเซ็กซี่
อย่าอายไปเลย สาวน้อย
ถอดมันออกไป
นี่คือสิ่งที่เธอต้องการใช่ไหม เป็นที่ชื่นชอบ เป็นที่ต้องการ ใครๆ จะได้ชอบเธอ
แล้วพวกเขาชอบเธอหรือยังล่ะ?
You don’t have to try so hard
You don’t have to give it all away
You just have to get up, get up, get up, get up
You don’t have to change a single thing
เธอไม่ต้องพยายามหนัก ขนาดนั้นก็ได้
เธอไม่จำเป็นต้องทุ่มเททุกๆอย่างขนาดนั้น
เธอเพียงแค่ต้องลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ยืนหยัดขึ้นมา
เธอไม่ต้องเปลี่ยนอะไรด้วยซ้ำ ไม่ต้องเปลี่ยนแม้แต่อย่างเดียว
You don’t have to try, try, try, try
You don’t have to try, try, try, try
You don’t have to try, try, try, try
You don’t have to try
Yooou don’t have to try
เธอไม่ต้องพยายามหนักแบบนั้นหรอก
เธอไม่ต้องพยายามเลยก็ได้
ไม่หรอก มันไม่จำเป็น
Get your shopping on, at the mall, max your credit cards
You don’t have to choose, buy it all, so they like you
Do they like you?
ไปช้อปปิ้งที่ห้าง รูดเลยให้เต็มวงเงินบัตร
ไม่ต้องเลือกหรอก กวาดไปให้หมด พวกเขาจะได้ชอบเธอไง
แล้วพวกเขาปลื้มเธอหรือยังล่ะ?
Wait a second,
Why should you care, what they think of you
When you’re all alone, by yourself, do you like you?
Do you like you?
นี่เดี๋ยวนะ
ทำไมเธอต้องไปสนด้วยล่ะ ว่าใครจะคิดกับเธออย่างไร
เวลาที่เธออยู่คนเดียว อยู่กับตัวเอง เธอชอบตัวเองไหม?
เธอปลื้มตัวเองหรือป่าว?
You don’t have to try so hard
You don’t have to give it all away
You just have to get up, get up, get up, get up
You don’t have to change a single thing
เธอไม่ต้องพยายามหนัก ขนาดนั้นก็ได้
เธอไม่จำเป็นต้องทุ่มเททุกๆอย่างขนาดนั้น
เธอเพียงแค่ต้องลุกขึ้นมา ลุกขึ้นมา ยืนหยัดขึ้นมา
เธอไม่ต้องเปลี่ยนอะไรด้วยซ้ำ ไม่ต้องเปลี่ยนแม้แต่อย่างเดียว
You don’t have to try, try, try, try
You don’t have to try, try, try, try
You don’t have to try, try, try, try You don’t have to try
Yooou don’t have to try
เธอไม่ต้องพยายามหนักแบบนั้นหรอก
เธอไม่ต้องพยายามเลยก็ได้
ไม่หรอก มันไม่จำเป็น
Take your make up off
Let your hair down
Take a breath
Look into the mirror, at yourself
Don’t you like you?
Cause I like you
ล้างเครื่องสำอางออกเถอะ
ลองปล่อยผมของเธอดูสิ
สูดหายใจเข้าไปลึกๆ
แล้วลองมองไปในกระจก ลองมองดูตัวเธอเองสิ
เธอไม่ชอบตัวเองเหรอ?
เพราะฉันชื่นชอบในสิ่งที่เธอเป็นนะ
Ummesuhada Thamrongsab,
An intern from SEGI University, Selangor, Malaysia