พับลิกโพสต์ออนไลน์ – จดหมายลาออกเชคริฎอจากที่ปรึกษาชารีอะห์ ระบุเหตุผลการตรวจสอบธุด้านชารีอะห์ไม่มีประสิทธิภาพ รมว.คลังขัดขวางการแก้ไขปัญหา
เมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา เชคริฎอ หรือ นายปราโมทย์ สมะดี คณะกรรมการที่ปรึกษา ฝ่ายชารีอะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ยื่นจดหมายลาออกต่อกรรมการบริหารธนาคารอิสลาม โดยเนื้อหาในจดหมายระบุ กระบวนการตรวจสอบธุรกรรมของธนาคารด้านชารีอะห์ไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งท่าทีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่เอื้อให้ธนาคารอิสลามมี โอกาสแก้ไขปัญหาด้วยหลีกชารีอะห์ อีกทั้งเมื่อมีบุคคลพยายามแก้ไขปัญหาก็ถูกยับยั้งหรือขัดขวาง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงนำมาสู่การยื่นจดหมายลาออกดังกล่าวของ เชคริฎอ หรือ นายปราโมทย์ สมะดี
การ ลาออกของเช็คริฎอ เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ย กับการลาออกของ นายธงรบ ด่านอำไพ รักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ได้ยื่นใบลาออก จากทุกตำแหน่งในธนาคารอิสลามเมื่อวันที่ 27 ก.ย. และมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป
นอกจาก นั้น เนื้อความในจดหมายลาออกของเชคริฎอ ก็สอดคล้องกับข่าวลือสะพัดก่อนหน้านี้ช่วงการลาอออกของ นายธงรบ ด่านอำไพ ว่าเพราะถูกกดดันจากผู้มีอำนาจในกระทรวงการคลัง ที่มีนโยบายไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์เดิมของ พรบ.ธนาคารอิสลาม
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ.2545 มาตรา 12 ระบุว่า ให้ธนาคารมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจทางการเงินที่ไม่ผูกพันกับ ดอกเบี้ยและประกอบกิจการอื่น และระบุในวรรคท้ายของมาตราดังกล่าวว่า “การดำเนินกิจการของธนาคารตามวรรค หนึ่งจะต้องไม่ขัดกับหลักการของศาสนาอิสลาม”