อึ้ง! สาวลูกครึ่งไทย-สวิส ยอมรับถูกหลอกมีสัมพันธ์กับ “ไอซิส” ผู้ก่อเหตุตลาดคริสต์มาสเบอร์ลิน 12 ศพ ผ่านเฟซบุ๊ก เกือบบินพบตัวหลังเหตุโจมตี

ภาพจากหนังสือพิมพ์เยอรมันบิลด์ (ซ้าย)ฟาติมา เอ. (Fatima A.) วัย 29 ปี สาวลูกครึ่งไทย-สวิส (ขวา)ผู้ก่อการร้าย IS วัย 24 ปีสัญชาติตูนิเซีย อานิส อัมรี(Anis Amri)

เอเจนซีส์ – ฟาติมา เอ. (Fatima A.) วัย 29 ปี สาวลูกครึ่งไทย-สวิส เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม เปิดใจกับสื่อทีวีเยอรมัน ZDF ยอมรับรู้จักและอยู่ในระหว่างดูใจ อานิส อัมรี (Anis Amri) ก่อการร้าย IS วัย 24 ปีระหว่างเกิดเหตุตลาดคริสต์มาสเบอร์ลิน 12 ศพ เกือบเดินทางมาพบ เชื่ออาจถึงขั้นแต่งงาน ถูกตำรวจสอบสวนเยอรมันตามพบจากมือถือคนร้าย กลายเป็น 1 ในเหยื่อผู้หญิงกว่า 140 รายถูกคาสโนวา IS หลอกขอแต่งงาน หวังเลี่ยงถูกเนรเทศกลับตูนิเซีย

เดลิเมล สื่ออังกฤษ รายงานว่า ความคืบหน้าคดีก่อการร้ายตลาดคริสต์มาสเบอร์ลินปี 2016 ที่มีผู้ก่อการร้าย IS วัย 24 ปีสัญชาติตูนิเซีย อานิส อัมรี (Anis Amri) พบว่าคนร้ายใช้ช่องทางเฟซบุ๊กพยายามหาภรรยาเพื่อแต่งงาน หวังใช้เป็นเครื่องมือไม่ให้ถูกเยอรมนีเนรเทศออกนอกประเทศ

ทั้งนี้ พบอัมรีแชตเหยื่อผู้หญิงทั้งในสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมนีไม่ต่ำกว่า 140 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ ฟาติมา เอ. (Fatima A.) วัย 29 ปี สาวลูกครึ่งไทย-สวิส สัญชาติสวิส ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์กับทีวีเยอรมัน ZDF ที่ถูกเผยแพร่ในวันอังคาร (7 มี.ค.) โดยไม่เปิดเผยหน้าตา ยอมรับว่า ในช่วงระหว่างที่มีการเกิดเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาสเบอร์ลินในวันที่ 19 มี.ค. 2016 ฟาติมา เอ. และคนร้ายมือ IS วัย 24 ปีอยู่ในระหว่างการคบหาทางออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊ก

สื่อเดลิเมล์ชี้ว่า ฟาติมา วัย 29 ปี สัญชาติสวิสจากพ่อและมีแม่เป็นคนไทย เป็นชาวมุสลิมจากการเปลี่ยนศาสนา ได้ยอมรับว่าเธอไม่รู้จักอัมรีมากนัก โดยยืนยันว่าชายผู้นี้เป็นคนดี และมีอะไรคล้ายกัน โดยกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ ZDF ว่า “เรามักหัวเราะด้วยกันเสมอ” โดยพบว่าสาวลูกครึ่งไทย-สวิสติดต่อทั้งผ่านทางวิดีโอแชต รวมไปถึงมีการแลกเปลี่ยนภาพถ่ายของกันและกัน แต่อย่างไรก็ตาม ฟาติมา เอ. อ้างว่า “เป็นการสนทนาแบบปกติทั่วไป” จากการรายงานของดิเอ็กซ์เพรส แต่เดลิเมล์ระบุว่า ความสัมพันธ์น่าจะอยู่ในขั้นลึกซึ้ง เนื่องจากลูกครึ่งสาวไทย-สวิสผู้นี้ยอมรับผ่านทีวีว่า เธอเคยปลดผ้าคลุมหน้า ยอมเผยให้อัมรีได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอมาแล้ว

ดิเอ็กซ์เพรสรายงานเพิ่มเติมต่อว่า หลังจากเกิดเหตุตลาดคริสต์มาสเบอร์ลินที่ได้ลงมือสังหาร 12 ศพจากการขับรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีเหล็กก่อสร้างเต็มคันรถ รวมไปถึงสังหารคนขับชาวโปแลนด์ด้วยแล้ว มือก่อการร้าย IS ได้พยายามขอพบกับตัวจริงของฟาติมา เอ.

โดยในการรายงานของเดลิเมล์พบว่า สาวลูกครึ่งไทย-สวิส วัย 29 ได้เปิดเผยว่า “ในคืนหนึ่งเวลาราว 23.00 น. เขาได้โทรศัพท์มาหาดิฉัน และร้องขอให้ดิฉันเดินทางมาพบที่โรงแรม แต่ดิฉันปฎิเสธไป” และเมื่อเธอถูกถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เธอจะถูกอัมรีขอให้ช่วยหาที่ซ่อนตัวให้ แต่ฟาติมา เอ.กลับตอบมาว่า เธอไม่ทราบ

ซึ่งดูเหมือนฟาติมา เอ. จะยอมรับกับเจ้าหน้าที่สอบสวนที่พบชื่อของเธอจากโทรศัพท์มือถือของคนร้ายที่ว่ามีความเป็นไปได้ที่อัมรีต้องการที่จะขอเธอแต่งงาน โดยลูกครึ่งสาวไทย-สวิสกล่าวยอมรับว่า “เป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนาในช่วงนั้น” โดยเธอกล่าวต่อ โดยชี้ว่าเธอได้ปฏิเสธไปโดยกล่าวว่า “ดิฉันได้ตอบกลับไปว่า น่าจะรออีกสักปีเป็นอย่างน้อย และไม่ควรที่จะเร็วเกินไป”

โดยในประเด็นนี้ เดลิเมล์ชี้เพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ในรายการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เยอรมัน ZDF ฟาติมา เอ. ได้เปิดเผยว่า อัมรีต้องการเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดในประเทศของเขาพร้อมตัวเธอ และเธอเชื่อว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอที่นั่น ซึ่งเธอได้ยอมรับผ่านรายการว่า เป็นคำขอที่ทำให้เธอต้องปฏิเสธ โดยชี้ว่าเธอยังคงต้องการเป็นโสดอยู่

โดยพบว่าคนทั้งคู่ติดต่อกันครั้งสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาสปี 2016 โดยเธอยอมรับว่า จำไม่ได้ว่าเป็นวันที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์โจมตีตลาดคริสต์มาสเบอร์ลินในวันที่ 19 ธ.ค.หรือไม่

ภาพการให้สัมภาณ์โดยไม่เปิดเผยใบหน้าของฟาติมา เอ.และผู้สื่อข่าวทีวีเยอรมันZDF

ดิเอ็กซ์เพรสรายงาน และถึงแม้ว่าฟาติมา เอ.จะรับรู้แล้วว่า อานิส อัมรี นั้นเป็นคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย IS และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของเหยื่อ 12 ราย แต่เธอยังคงปักใจเชื่อว่าชายผู้นี้บริสุทธิ์ โดยเธออ้างว่าอัมรีเป็นผู้บริสุทธิ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของหน่วยงานลับชาติตะวันตก หรืออาจเป็นกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง ที่กลายเป็นปฏิบัติการล้มเหลว โดยยอมรับว่าหลังเกิดเหตุเธอยังคงคิดถึงชายผู้นี้ และเชื่อว่าเขาเป็นคนดี

ซึ่งในช่วงระหว่างการคบหาก่อนหน้านี้ ฟาติมา เอ. ระบุว่า อัมรีมักจะแสดงความรู้สึกเหงาให้เธอรับรู้ โดยกล่าวต่อว่า “เขาเล่าว่า ในขณะนี้เขาอยู่ในเยอรมนี และไม่รู้จักใครดี และมักรู้สึกเหงาเป็นบางครั้ง” และนอกจากนี้เธอยังเล่าต่อว่า ชายผู้นี้มักจะแสดงความรู้สึกไม่พอใจอย่างรุนแรงในการที่มุสลิมถูกปฏิบัติอย่างเลวร้ายในประเทศเยอรมนี

ทั้งนี้ พบว่า อัมรีที่ถูกตำรวจมิลานวิสามัญในวันที่ 23 ธ.ค. 2016 นั้นใช้เฟซบุ๊กทำการติดต่อกับผู้หญิงทั่วทั้งเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ต่ำกว่า 140 คน เชื่อว่าเพื่อต้องการป้องกันการถูกเยอรมนีเนรเทศกลับตูนิเซีย ที่เขาเดินทางเข้าเยอรมนีในฐานะผู้อพยพ โดยนอกเหนือจากฟาติมา เอ. ลูกครึ่งไทย-สวิสแล้ว ดิเอ็กซ์เพรสรายงานว่า ยังมีหญิงจากสวิตเซอร์แลนด์อีกคน และหญิงชาวเยอรมันจากเมืองบราเดนบวร์ก ( Brandenburg) รู้จักอัมรี มือก่อการร้าย IS ผ่านออนไลน์เช่นกัน

และในส่วนประวัติของฟาติมา เอ. ดิเอ็กซ์เพรสรายงานว่า เธอเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม 1 ปีก่อนเกิดเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาสเบอร์ลิน เธอมีสัญชาติสวิส ซึ่งมีพ่อเป็นชาวสวิสและแม่เป็นชาวไทย และในขณะนี้ยังว่างงาน

ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนเยอรมันสนใจกลุ่มคนรู้จักของอัมรีในสวิตเซอร์แลนด์เป็นพิเศษ เนื่องมาจากปืนของอัมรีนั้นมีที่มามาจากสวิตเซอร์แลนด์ และในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เยอรมันได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสวิตเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการในคดีนี้แล้ว

 

ขอบคุณ/ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000025300