วันที่ 16 สิงหาคม 2562 กระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความเข้าใจการขับเคลื่อนการจัดทำแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่ในระดับอำเภอและตำบล สร้าง One Plan ยกระดับคุณภาพแผนพัฒนาพื้นที่ เน้นการมีส่วนร่วมและความต้องการของประชาชน ณ ห้องประชุมแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายและบรรยายพิเศษในหัวข้อ “กระทรวงมหาดไทยกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก” ว่า เน้นให้กระทรวงมีการบริหารงานภาครัฐแบบบูรณาการโดยยึดยุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมาย ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ได้มีการเน้นยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1)ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2)ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความความสามารถในการแข่งขัน 3)ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4)ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5)ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ6)ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีประเด็นยุทธศาสตร์ที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติใน 3 ด้านคือ ด้านความมั่นคง ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
ด้านความมั่นคง มีหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเพื่อสืบสาน รักษาและต่อยอดการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชการที่ 9 มีเป้าหมายดำเนินการในพื้นที่ 878 อำเภอ อำเภอละ 1 หมู่บ้านโดยมีตัวชี้วัดความมั่นคง ด้วยการจัดทำแผนชุมชน มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน มีการบริหารจัดการขยะ มีจิตอาสา เพื่อให้ชุมชนพึ่งพาตัวเองได้
ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มขีดความสามารถชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนา โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ ด้วยการสร้างอัตลักษณ์ให้กับสินค้า เป็นสินค้าแห่งภูมิปัญญา พัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่ม D การสนับสนุน OTOP Authentic Thai Taste เพื่อยกระดับและให้การรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ สร้างอัตลักษณ์ ส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีคุณภาพมาผลิต ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี โดยการวิเคราะห์ทดสอบกลิ่นและรสชาติให้กับผู้ประกอบการ OTOP ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม หรือผู้ประกอบการในภาคการบริการอาหาร มีมาตรฐาน สู่ความเป็นสากล และ OTOP Academy สอนพื้นฐานการพัฒนาและสร้างมาตรฐานให้มีความเป็นอัตลักษณ์ มีการส่งเสริมมาตรฐานด้านต่าง ๆ อาทิ อย. มผช. GI เป็นต้น รวมไปถึงการ Mix & Match เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และผลักดันให้สินค้า OTOP ก้าวสู่สากล เชื่อมโยงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 176,622ผลิตภัณฑ์ และผู้ประกอบการ 84,346 กลุ่ม ได้รับการพัฒนาและเลื่อนระดับดาว อีกทั้งมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ในอัตราเติบโตกว่า 23,000 ล้านบาท
และด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาค มีการตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต (Local Economy) เป็นกองทุนที่ส่งเสริมแปรรูปจากการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์ชุมชน มีโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของครัวเรือนยากจนในชนบททั่วประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้าน และมีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นกองทุนที่ส่งเสริมให้สตรีมีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งกองทุนเหล่านี้เป็นกลไกช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก หนุนเสริมสัมมาชีพ ต้องได้รับการสนับสนุน ส่งเสริมการใช้เงินทุนอย่างมีศักยภาพ เพื่อการสร้างอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ โดยมีเป้าหมาย ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เข้าถึงแหล่งทุน แก้หนี้สินครัวเรือน และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น ก่อให้เกิดอาชีพ เกิดรายได้และประชาชนมีงานทำ นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน


นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “งานพัฒนาชุมชนที่อยากเห็น” โดยเน้นย้ำให้การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลเกิดผลสำเร็จเห็นเป็นรูปธรรม ภายใต้นโยบายที่ว่าด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก โดยขอให้ทุกท่านได้ปฏิบัติงานให้เห็นผลประจักษ์อย่างชัดเจนใน 4 ประเด็นหลัก ดังนี้ 1)การสร้างชุมชนเข้มแข็งโดยคน เนื่องจากกรมการพัฒนาชุมชนทำงานกับผู้นำชุมชน จึงต้องมุ่งเน้นการส่งเสริมให้มีวินัยมีการเรียนรู้ ตลอดเวลารวมถึงปรับตัวก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ยุคใหม่ ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องเป็นตัวอย่างที่ดีสร้างวัฒนธรรมที่ดีงามมีความตระหนักรู้ในหน้าที่ของตนเองนำความรู้จากที่ได้รับจากการฝึกอบรมมาปฏิบัติ อีกทั้งมีความรับผิดชอบต่อตนเองครอบครัวและสังคมการพัฒนาอาชีพท่ีดีก็จะตามมา ตลอดจนการยึดหมู่บ้านเศรษฐกจิพอเพียงเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการงานในพื้นที่ 2) เศรษฐกิจฐานราก กล่าวคือ การพัฒนาอาชีพ โดยต้องมี 3 อาชีพได้แก่ อาชีพหลัก อาชีพรอง และอาชีพเสริม การผลิตจะต้องไม่ผลิตตามฤดูกาลต้องเอาชนะฤดูกาล การผลิตสินค้าให้มีคุณภาพการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานส่งเสริมการตลาด โดยใช้เทคโนโลยีมาประกอบเช่น Online การสร้างเครือข่ายโดย OTOP Trader และบริษัทประชารัฐฯ 3)OTOP สร้างพันธมติรกับองค์การตลาดและเชื่อมโยงการท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้มาจำหน่ายในงานใหญ่ (Event) เพื่อเปิดประสบการณ์ให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เสมือนเป็นโรงเรียนสอนประสบการณ์การค้าขาย (มหาวิทยาลัยชีวิต) รวมถึงการมีเครือข่ายในการพัฒนาสินค้าพี่สอนน้องสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ OTOP ได้พบกับลูกค้าโดยตรงก่อให้เกิดการต่อยอดพัฒนาผลติภัณฑ์ และการบริหารด้านโลจิกติกส์สนองตอบลูกค้า และสุดท้าย 4) การจัดระบบชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โดยสร้างความแตกต่างในแต่ละหมู่บ้านเพื่อเพิ่มมูลค่าอย่างสร้างสรรค์ เน้นการประชาสัมพันธ์ในวงกว้างก่อให้เกิดการยอมรับและชุมชนตระหนักรู้ร่วมเป็นเจ้าภาพ ราษฎร์รัฐร่วมพัฒนา เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนต่อไป

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวบรรยายเพิ่มเติมในหัวข้อ “การเชื่อมโยงและประสานแผนการพัฒนาในระดับพื้นที่” ว่า ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทำแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่ในระดับอำเภอ และตำบล พ.ศ. 2562 กำหนดแนวทางเพื่อบูรณาการในการจัดทำแผนและประสานแผนพัฒนาในระดับพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ตำบล และอำเภอ ให้เกิดความเชื่อมโยงสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาในระดับจังหวัด กลุ่มจังหวัด ภาค และประเทศ ไปในทิศทางเดียวกัน เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ประเด็นยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบ การบริหารจัดการภาครัฐ ข้อ 4.2 กำหนดให้ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติ เป็นเป้าหมายและเชื่อมโยงการพัฒนาทุกระดับทุกประเด็น ซึ่งการพัฒนารูปแบบและเชื่อมโยงการทำงานของภาครัฐในระดับต่าง ๆ (Multi-Level Governance) ให้มีเอกภาพ สอดรับประสานกันระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น จะต้องเน้นการยึดพื้นที่เป็นหลัก (Area-based Approach) และยุทธศาสตร์ที่สำคัญของชาติ (Agenda-based) จะทำให้เกิดการประสานความร่วมมือที่หลากหลายระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคส่วนอื่นในสังคม เกิดความสอดคล้องเชื่อมโยงกันตั้งแต่ยุทธศาสตร์ชาติลงไปจนถึงระดับพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้ 1) แผนพัฒนาในระดับพื้นที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการระบุสภาพปัญหาและความต้องการของตนเอง 2) มีงบประมาณสนับสนุนการจัดทำแผนและมีการนำแผนงาน/โครงการบรรจุไว้ในแผนของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแผนของหน่วยงานอื่น ๆ และ 3) มีการกำกับ ติดตามการจัดทำและประสานแผนพัฒนาในระดับพื้นที่ และการประเมินผลคุณภาพแผน เพื่อปรับปรุงคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการและปัญหาของประชาชนในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน, ระดับตำบล และระดับอำเภอ


กระทรวงมหาดไทยและกรมการพัฒนาชุมชนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากการประชุมในวันนี้ การจัดทำแผนพัฒนาในระดับพื้นที่จะมีคุณภาพ เชื่อมโยงสอดคล้องกันในทุกระดับ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน มีงบประมาณสนับสนุนการจัดทำแผนและการนำแผนงาน/โครงการบรรจุไว้ในแผนของส่วนราชการ แผนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ แผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแผนของหน่วยงานอื่น ๆ นอกจากนี้ ต้องมีการกำกับ ติดตามการจัดทำและประสานแผนพัฒนาในระดับพื้นที่ รวมทั้งการประเมินผลคุณภาพแผน เพื่อปรับปรุงคุณภาพให้สามารถตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง