
หัวหน้ากลุ่มไอซิสในอิรักถูกจับได้สารภาพสิ้นสหรัฐ สนับสนุนอาวุธ,ข่าวกรอง,เสบียงและช่วยลำเลียงกลุ่มไอซิสด้วยเครื่องบิน เผยเหตุผลที่สหรัฐไม่ให้อิรักดึงรัสเซียเข้าไปทิ้งระเบิดเหมือนซีเรียเพราะไอซิสจะปฏิบัติการไม่ได้
สำนักข่าวฟาร์ส (Fars News Agency) รายงานเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม2558 โดยมีองค์กร Global Research นำมาเสนอต่อเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนว่านายจาฟาร์ อัล-ฮอสไซนี (Jafar al-Hosseini) โฆษกของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์อิรักแถลงว่ากลุ่มเฮสบอลเลาะห์อิรัก (Kata’ib Hezbollah)สามารถจับกุมหัวหน้ากลุ่มไอซิสได้พร้อมกับสารภาพว่าได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธ,การขนส่งลำเลียงและข่าวกรองจากสหรัฐ
“เมื่อผู้บัญชาการไอซิสถูกจับกุมได้ด้วยกองกำลังของ อิรักเฮสบอลเลาะห์ เขาสารภาพหมดเปลือกว่าสหรัฐได้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายอย่างไม่จำกัด โดยเฉพาะการขนส่งลำเลียง”อัล-ฮอสไซนี กล่าวกับสำนักข่าวฟาร์ส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม
อัล-ฮอสไซนีเปิดเผยด้วยว่าสหรัฐได้สนับสนุนด้านข่าวกรอง แก่กลุ่มไอซิสด้วยการชี้เป้าหมายอันเป็นจุดที่ตั้งทางทหารของอิรักและรายงาน ความเคลื่อนไหวของทหารของอิรักอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้บัญชาการของไอซิสยอมรับว่าไว้วางใจสหรัฐหลัง จากที่สหรัฐรับปากว่ากองกำลังทหารอิรักจะไม่บุกเข้าโจมตีเมืองฟาลลูจาห์ สหรัฐได้กระตุ้นเตือนไปยังรัฐบาลอิรักไม่ให้ส่งกองกำลังทหารเข้าสู่เมือง ฟาลลูจาห์ พร้อมกับแนะนำให้กลุ่มไอซิสเปลี่ยนยุทธวิธีด้วยการถอนกำลังไปปักหลักที่ เมืองไบจี(Beiji)แทน เพื่อสะสมความพร้อมในการรบ
อัล-ฮอสไซนีเปิดเผยอีกว่ากองกำลังรบของเฮสบอลเลาะห์อิรักเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปยึดเมืองรามาดี (Ramadi) หลังจากขับไล่กองกำลังของสหรัฐออกจากจังหวัดอันบาร์ (Anbar province)ได้แล้ว
“กองกำลังของเรามีภารกิจ 2 ด้านที่กำลังทำอยู่คือ 1 ยึดเมืองรามาดีจากกลุ่มไอซิสและสองขับไล่กองกำลังทหารสหรัฐให้พ้นจากจังหวัดอันบาร์” อัล-ฮอสไซนีกล่าว
พร้อมกันนั้นยังกล่าวอีกว่ากองกำลังของเขาจะป้องกันไม่ ให้สหรัฐเข้ามาใกล้จังหวัดอันบาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปฏิบัติการที่จังหวัดซาลาฮุดดิน(Salahuddin province)เสร็จก็จะนำไปสู่การบุกเข้าเมืองไบจี


เจ้าหน้าที่อิรักรู้สหรัฐหนุนกลุ่มไอซิส
ทางด้านเจ้าหน้าที่อิรักก็ไม่ต่างกันกับกลุ่มเฮสบอลเลาะห์มีการ “อัด”สหรัฐ ด้วยคำพูดเช่นกันหลังจากพบว่าสหรัฐให้การสนับสนุนกลุ่มไอซิสในซีเรียทั้ง อาวุธและกระสุนปืน พร้อมกันนี้ยังสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายนี้ชื่อตากฟีรี(Takfiri)ในอิรักอีกด้วย
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมทหารอิรักและกองกำลังอาสาสมัครได้บุกเข้าไปปฏิบัติการในเขตจังหวัดอัน บาร์ ในภูมิภาคฟาลลูจาห์พบว่ามียุทโธปกรณ์และกระสุนปืนจำนวนมากที่ผลิตในสหรัฐ รวมทั้งขีปนาวุธต่อสู้รถถัง (anti-armor missiles) ทั้งหมดอยู่ในฐานที่ตั้งของกลุ่มก่อการร้ายจึงได้ยึดไว้
ทหารอิรักยังพบว่ามีขีปนาวุธทันสมัยเช่น TOW-II ที่ยึดได้จากกลุ่มก่อการร้าย“ตากฟีรี”ในเมืองอัล-คารามา ในภูมิภาคฟาลลูจาห์ เป็นอาวุธใหม่เพิ่งแกะกล่องด้วยการนำมายังฟาลลูจาห์เพื่อต่อต้านรถถังของกองทหารอิรัก
รายงานข่าวเปิดเผยว่ายุทโธปกรณ์และกระสุนเหล่านี้นำมา ทิ้งให้ทางอากาศด้วยการลำเลียงของเครื่องบินรบสหรัฐและเฮลิคอปเตอร์แก่กลุ่ม ไอซิสที่อยู่ใกล้เมืองไบจี
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อิรักโมโหกลุ่มประเทศตะวันตกและพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย Takfiri ในอิรัก โดยเครื่องบินสหรัฐยังเดินทางมาหย่อนอาวุธ,กระสุนปืนและเสบียง (foodstuff )ให้กับกลุ่มไอซิสในอิรัก
สหรัฐสนับสนุนไอซิสด้านลำเลียงกำลังด้วย
ทางด้าน จาฟาร์ อัล-จาบีรี ผู้ประสานกองกำลังทหารอิรักเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวฟาร์สว่า สหรัฐได้ลำเลียงอาวุธและกระสุนมาทิ้งให้กลุ่มไอซิสในเขตคุ้มครองของไอซิสใน อิรัก แม้ว่าพื้นที่บางแห่งทหารอิรักจะเข้าไปยึดครองได้แล้ว แต่สหรัฐกลับสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายให้กลับเข้ามาอีก
อัล-จาบีรีเปิดเผยว่ามีพยานเห็นเหตุการณ์ที่เมืองอัล-ฮา วิเจห์ จังหวัดเคอร์คูดเมื่อเครื่องบินของสหรัฐนำหีบห่อที่น่าสงสัยมาทิ้งลงในเขต ยึดครองของกลุ่มไอซิส
“เครื่องบิน 2 ลำของกองกำลังผสมทางอากาศได้นำกลุ่มก่อการร้ายตากฟีรีมาลงที่เมืองอัล-คาส จังหวัด Diyala ทั้งๆที่เขตนี้ทหารอิรักได้ขับไล่กลุ่มไอซิสออกไปแล้ว”อัล-จาบีรีกล่าว
เครื่องบินอังกฤษถูกยิงตก 2 ลำ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ส.ส.อาวุโสของอิรักเปิดเผยว่ากองทัพอิรักได้ยิงเครื่องบินของอังกฤษตก 2 ลำ ในระหว่างที่นำอาวุธไปให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่เขตจังหวัดอันบาร์
นายฮาเคม อัล-ซามีลิ ประธานกรรมาธิการทหารในสภาอิรักเปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคงและกรรมาธิการทหารของสภาอิรักได้เห็นภาพเครื่องบินอังกฤษทั้ง 2 ลำตกในระหว่างนำอาวุธไปส่งให้กลุ่มไอซิสในอิรัก
“สภาอิรักได้ให้อังกฤษอธิบายปรากฎการณ์นี้” นายอัล-ซามีลิกล่าว
นอกจากนี้นายอัล-ซามีลิเปิดเผยอีกว่ารัฐบาลที่กรุง แบกแดดได้รับรายงานทุกวันจากประชาชนและทหารอิรักในเขตจังหวัดอันบาร์ว่า เครื่องบินของสหรัฐและพันธมิตรของสหรัฐหลายเที่ยวบินมาส่งอาวุธและเสบียง ต่างๆให้กับกลุ่มไอซิสในเขตยึดครองของไอซิส
นายอัล-ซามีลิกล่าวว่าการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายของ ตะวันตกครั้งนี้สหรัฐคงต้องการให้สถานการณ์ในจังหวัดอันบาร์เกิดความโกลาหล ซึ่งจังหวัดนี้อยู่ใกล้เมืองคาร์บาราและกรุงแบกแดด “เขาคงไม่ต้องการให้สถานการณ์สิ้นสุดลง”
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่จังหวัดของอิรักยังพบว่าประเทศตะวันตกและพันธมิตรของเขาให้การ สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายตากฟีรี โดยสามารถจับกุมอาวุธได้ในเขตยึดครองของกลุ่มไอซิส
นายคาลาฟ ตาร์มูซ ประธานสภาจังหวัดอัล-อันบาร์(Al-Anbar Provincial Council)เปิดเผยกับสำนักข่าว Al-Ahad และนำลงในเว็บไซต์ว่า“เราค้นพบอาวุธที่ทำจากสหรัฐ,ประเทศยุโรปและอิสราเอลในเขตที่เรายึดได้จากกลุ่มไอซิสในพื้นที่อัล-แบกดาดี (Al-Baqdadi)”
พร้อมกับเปิดเผยอีกว่าอาวุธที่ยึดได้และทำจากประเทศ ยุโรปกับอิสราเอลนั้นอยู่ในเขตของกลุ่มก่อการร้ายที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของ เมืองรามาดี
อาจออกกฎหมายคุ้มครองน่านฟ้าอิรัก
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม นายฮาเคม อัล-ซามีลิ ประธานกรรมาธิการความมั่นคงและทหารในรัฐสภาอิรักเปิดเผยว่าเครื่องบินของกอง กำลังผสมได้นำอาวุธและเสบียงมาทิ้งให้กับกลุ่มไอซิสในเขตจังหวัดซาลาฮุด ดิน,อัล-อันบาร์และดิยาลา
“กองกำลังผสม (ตะวันตก)คือสาเหตุหลักที่ทำให้กลุ่มไอซิสในอิรักอยู่ได้”นายอัล-ซามีลิกล่าวและว่า “เรามีพยานหลักฐานที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าสหรัฐและกองกำลังผสมได้ให้การช่วยเหลือทางทหารแก่กลุ่มไอซิสผ่านทางอากาศ ( air dropped cargoes)”
นายอัล-ซามีลิเปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการต่างๆในสภาอิรัก กำลังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบว่าเครื่องบินของสหรัฐได้นำอาวุธทันสมัยอาทิเช่นขีปนาวุธต่อต้าน เครื่องบินทางอากาศมาให้กลุ่มไอซิส
คณะกรรมการทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล,หลักฐานที่ได้จากพยานผู้เห็นเหตุการณ์,เจ้าหน้าที่ทหารของอิรักและกลุ่มเฮสบอลเลาะห์อิรัก “เอกสารเหล่านี้จะมอบให้กับคณะกรรมการสอบสวน…และจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อปกป้องน่านฟ้าของอิรัก”

อิรักยึดเครื่องบิน 2 ลำจากกองกำลังผสม
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่านายฮาเคม อัล-ซามีลิ ประธานกรรมาธิการความมั่นคงและทหารในรัฐสภาอิรักเปิดเผยว่ารัฐบาลอิรีกได้ ยึดเครื่องบิน 2 ลำของกองกำลังผสมที่กำลังนำอาวุธไปส่งมอบให้ในพื้นที่เคอร์ดิสถาน(Kurdistan Region)โดยที่ไม่แจ้งให้กรุงแบกแดดทราบถึงการปฏิบัติการ
“คณะกรรมการตรวจสอบที่สนามบินนานาชาติแบกแดดตรวจพบปืนยาวจำนวนมากพร้อมเครื่องเก็บเสียง ตลอดจนอาวุธขนาดเบาและขนาดกลาง”นายอัล-ซามีลิกล่าว
พร้อมกับเปิดเผยว่าเครื่องบินของสวีเดนและแคนาดากำลังจะบินไปยังพื้นที่เคอร์ดิสถานแต่ถูกจับกุมอาวุธได้ก่อน “ผม ได้แจ้งไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศอิรักให้ตั้งคำถามไปยังกองกำลังผสมกรณีที่ เกิดขึ้น และให้คำเตือนไปยังกองกำลังผสมว่าในอนาคตจะต้องไม่ทำสิ่งนี้” นายอัล-ซามีลิกล่าว
นายอัล-ซามีลิยังเปิดเผยด้วยว่า สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดดก็พยายามที่จะส่งอาวุธเข้าไปยังพื้นที่เคอร์ดิสถาน ในอิรัก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอิรักจะต้องลงมือสอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิด
มีรายงานเปิดเผยว่าสหรัฐและกลุ่มพันธมิตรกองกำลังผสมของสหรัฐสนับสนุนอาวุธแก่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสในพื้นที่ต่างๆของอิรักแตกต่างกันไป
สหรัฐส่งเสนาธิการร่วมไปอิรักให้ยืนยันว่ารัสเซียจะไม่เข้ามาทิ้งระเบิด
ปฏิบัติการดังกล่าวของสหรัฐและกองกำลังผสมที่ไม่ต้องการ ให้อิรักเกิดความสงบด้วยการหนุนกลุ่มก่อการร้ายด้วตัวเองนั้น สอดคล้องกับ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2558 ที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตันว่าพลเรือเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานเสนาธิการร่วมของสหรัฐเปิดเผยว่าอิรักให้คำมั่นว่าจะไม่ขอให้รัสเซีย ส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดหรือสนับสนุนการรบกับกลุ่มไอซิสในประเทศอิรัก
พลเรือเอกดันฟอร์ดเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ติดตามเขาไป ทำข่าวที่กรุงแบกแดด รายงานว่าได้พบกับนายไฮเดอร์ อัล-อบาดิ นายกรัฐมนตรีอิรักและนายคาเลด อัล-โอบิดิ รมว.กลาโหมอิรักในช่วงเช้าวันอังคารที่ 20 ตุลาคม
“ผมบอกอิรักไปว่า เป็นเรื่องยุ่งยากและลำบากหากจะให้เราสนับสนุน ถ้ารัสเซียต้องเข้ามาปฏิบัติการ”พลเรือเอกดันฟอร์ดกล่าวและว่า“หากรัสเซียเข้ามาปฏิบัติการในอิรักช่วงนี้ เราก็คงไม่อาจปฏิบัติการได้”
ทั้งนี้หากอิรักยินยอมให้รัสเซียเข้าไปปราบกลุ่มไอซิสใน อิรักก็เหมือนกับซีเรียยินยอมให้รัสเซียเข้าไปปราบกลุ่มไอซิสในซีเรียอย่าง เป็นทางการ โดยรัสเซียสามารถควบคุมน่านฟ้าของซีเรียได้ เป็นเหตุให้สหรัฐและกลุ่มพันธมิตรไม่กล้าขยับตัวมากนัก
ดังนั้นสหรัฐจึงส่งพลเรือเอกดันฟอร์ดไปพบนายกรัฐมนตรี อิรักและรัฐมนตรีกลาโหมอิรัก เพื่อให้คำยืนยันว่าจะไม่เชิญรัสเซียเข้าไปถล่มกลุ่มไอซิสในอิรัก
—-
Source http://www.globalresearch.ca
ขอบคุณ/แหล่งที่มา http://www.thaitribune.org