อีสต์ เวนเจอร์ส ( East Ventures) บริษัทผู้บุกเบิกการร่วมลงทุนแบบไม่เจาะจงอุตสาหกรรมในอินโดนีเซีย ได้กลายเป็นคู่สัญญาในหลักปฏิบัติสำหรับการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบของสหประชาชาติ (UN PRI) อย่างเป็นทางการ โดยเป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นเพื่อสร้างการลงทุนที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน รวมถึงการตัดสินใจในการเป็นเจ้าของ อีสต์ เวนเจอร์ส ได้กลายเป็นบริษัทร่วมลงทุนรายแรกของอินโดนีเซียที่ลงนามในหลักปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งเสริมสร้างความเชื่อมั่นไปอีกขั้นว่า การปฏิบัติตามแนวทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) จะเป็นหลักการที่มีความยั่งยืนเป็นตัวนำสำหรับผู้มีส่วนร่วมทุกคน อีสต์ เวนเจอร์ส มีความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำเพื่อแสวงหาและสนับสนุนความริเริ่มที่เกี่ยวข้อง เพื่อก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ยั่งยืนกว่าเดิม
คุณอวีนา ซูกีอาร์โต ( Avina Sugiarto) หุ้นส่วนร่วมลงทุนของอีสต์ เวนเจอร์ส กล่าวว่า “อีสต์ เวนเจอร์ส เชื่อว่าความยั่งยืนจะเป็นที่สนใจและจะยังคงเป็นที่สนใจในทุกสิ่งที่เราทำ และเราได้มีการผนวกรวมหลักการ ESG ไว้ในแนวปฏิบัติของเรา เราหวังว่า การลงนามในหลักการ UN PRI จะทำให้เรายกระดับความมุ่งมั่นของเราขึ้นไปอีกขั้นได้ เพื่อบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมอบผลบวกที่มากกว่าเดิมแก่สังคม”
PRI เป็นหลักการสนับสนุนการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบที่มีอิทธิพลอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีสหประชาชาติเป็นผู้สนับสนุน โดยอีสต์ เวนเจอร์ส ลงนามในหลักการ UN PRI เพื่อเดินหน้าปฏิบัติตามความตั้งใจของคู่สัญญาทั้งหลาย ในการพัฒนาระบบการเงินระดับโลกที่ยั่งยืนกว่าเดิม พร้อมนำหลักการว่าด้วยการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบทั้ง 6 ข้อมาใช้ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ครอบคลุมกว่าของสังคม
หลักการว่าด้วยการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบทั้ง 6 ข้อที่ว่านี้ประกอบด้วย (1) นำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาประกอบการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุน (2) ใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นอย่างจริงจัง และนำประเด็นด้าน ESG เป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดนโยบายและหลักปฏิบัติการใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น (3) สนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ ที่เราลงทุนเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG (4) ส่งเสริมหลักการให้เกิดการยอมรับและการปฏิบัติในอุตสาหกรรมการลงทุน (5) ให้ความร่วมมือในการนำหลักปฏิบัติการลงทุนที่มีความรับผิดชอบมาใช้ปฏิบัติ และ (6) รายงานข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าในการดำเนินงานตามหลักปฏิบัติการลงทุนที่มีความรับผิดชอบ
อีสต์ เวนเจอร์ส จะยังคงเดินหน้านำหลักการเหล่านี้มาประกอบการดำเนินงานในแต่ละวันต่อไปและนำมาใช้ทั่วทั้งอีโคซิสเต็มของบริษัท อีสต์ เวนเจอร์ส ได้ลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีส่วนส่งเสริมความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าหลายราย ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซอุตสาหกรรมประมงอย่างอารูนา (Aruna) สตาร์ทอัพพลังงานแสงอาทิตย์อย่างซูร์ยา (Xurya) ธุรกิจจัดการของเสียอย่างเวสต์ ฟอร์ เชนจ์ (Waste 4 Change) ไปจนถึงสตาร์ทอัพที่ส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะที่ดี เช่น สตาร์ทอัพสายไบโอเทคอย่างนาลาเจเนติกส์ (Nalagenetics) และนูซานติกส์ (Nusantics) สตาร์ทอัพสายสุขภาพจิตอย่างมายด์เทรา (Mindtera) และรีลิฟ (Riliv) สตาร์ทอัพด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างโฮเมจ (Homage) ตลอดจนสตาร์ทอัพส่งเสริมการศึกษาคุณภาพสูงอย่างรวงกูรู (Ruangguru) ที-แล็บส์ (T-labs) จีนีบุ๊ก (Geniebook) ในสายเทคโนโลยีการศึกษา และสตาร์ทอัพด้านการลดขยะอาหารอย่างทรีดอทส์ (Treedots) ในสายโซเชียลคอมเมิร์ซ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ผลลัพธ์ทางสังคมอันเป็นผลจากอีโคซิสเต็มนี้ ยังสอดรับกับประเด็นสำคัญในวาระการเป็นประธานกลุ่ม G20 ของอินโดนีเซียด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมสุขภาพระดับโลก การยกระดับสู่ดิจิทัล และการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้จัดและสนับสนุนอีเวนต์ต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงเป้าหมายเดียวกันนี้ เช่น การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวีเมน วิธ อิมแพค ฟอรัม (Women with Impact Forum) เป็นประจำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในพันธสัญญาเพื่อบูรณาการมิติหญิงชาย (gender mainstreaming)
คุณอวีนา กล่าวสรุปว่า “เราจะยังคงนำหลักการเหล่านี้มาปฏิบัติใช้ต่อไป และทำให้แน่ใจว่าการนำไปปฏิบัตินี้จะสะท้อนให้เห็นได้ในอีโคซิสเต็มของเรา ในการสร้างพลังบวกมากขึ้นให้สังคม”
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการ UN PRI ได้ที่ https://www.unpri.org/