ทำไมสองคัมภีร์มีอะไรคล้ายๆ กัน?

โดย อ.บรรจง บินกาซัน
ที่มา/ติดตาม https://www.facebook.com/Banjong.Binkason


 

คัมภีร์กุรอานเป็นคัมภีร์สุดท้ายที่พระเจ้าประทานแก่มนุษยชาติเพื่อเป็น แนวทางในการดำเนินชีวิต แต่เมื่อชาวตะวันตกบางคนศึกษาคัมภีร์กุรอานและพบว่าในคัมภีร์กุรอานมีชื่อของบุคคลสำคัญๆ ทางศาสนาหลายคนที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวมาก่อน และคัมภีร์ทั้งสอง เล่มมีบทบัญญัติที่คล้ายๆ กันเช่น การห้ามกินเนื้อหมู การขลิบหนังปลายอวัยวะเพศชาย เป็นต้น คนเหล่านี้ก็ด่วนสรุปว่าคัมภีร์กุรอานเป็นคัมภีร์ที่ลอกเลียนมาจากคัมภีร์ ไบเบิล

ใครที่เป็นคริสเตียนก็รู้ว่าคัมภีร์โตราห์ถูกประทานแก่โมเสส แต่หลังจากสมัยของโมเสส บันทึกคำสอนของโมเสสบางส่วนได้สูญหายไปหรือไม่ก็ถูกทำลายหรือถูกบิดเบือน พระเจ้าจึงได้ส่งพระเยซูมายืนยันธรรมบัญญัติเดิมที่โมเสสได้นำมาจากพระเจ้า

พระเยซูเกิดก่อนนบีมุฮัมมัดประมาณ 570 ปี หลังสมัยของพระเยซู ศาสนาคริสต์ฉบับของเซนต์ปอลแห่งทาร์ซุสได้กลายเป็นศาสนาทางการของอาณาจักรโร มันไบแซนติน ในช่วงเวลานี้เองที่พวกลูกหลานอิสราเอลซึ่งถูกเรียกว่ายิวได้เกิดความขัด แย้งกับพวกไบแซนตินและถูกปราบจนต้องกระจัดกระจายไปอยู่ในส่วนต่างๆของโลก ในจำนวนนี้มีสามเผ่าที่อพยพเข้ามาในคาบสมุทรอาหรับและตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ชาน เมืองยัษริบหรือเมืองมะดีนะฮฺในปัจจุบัน

พวกลูกหลานอิสราเอลมีความทะนงในเชื้อสายและความรู้ของพวกตน เพราะคนเหล่านี้ถือว่าบรรพบุรุษของตนหลายคนได้เป็นศาสดาผู้ยิ่งใหญ่และพวกตน เป็นผู้มีความรู้ในคัมภีร์ที่พระเจ้าประทานแก่ศาสดาในเชื้อสายของตน ดังนั้น บางครั้งคนพวกนี้จึงถูกคัมภีร์กุรอานเรียกว่า “ชาวคัมภีร์”

ในคัมภีร์ของพวกลูกหลานอิสราเอลกล่าวไว้ว่าในอนาคตจะมีบุคคลหนึ่งซึ่งถูก เรียกว่าเมสซีอาห์เกิดขึ้นเพื่อมาช่วยเหลือพวกตน ด้วยเหตุนี้ พวกลูกหลานอิสราเอลจึงเฝ้ารอ

เมื่อมุฮัมมัดประกาศว่าท่านเป็นศาสนทูตหรือนบีที่ได้รับการแต่งตั้งจาก พระเจ้าและเรียกร้องเชิญชวนพวกลูกหลานอิสราเอลให้หันมายอมรับคัมภีร์กุรอาน พวกลูกหลานอิสราเอลต่างเย้ยหยันและปฏิเสธท่านเป็นพัลวัน เหตุผลก็เพราะนบีมุฮัมมัดเป็นชาวอาหรับที่พวกลูกหลานอิสราเอลดูถูกว่าไม่รู้หนังสือ บรรพบุรุษของนบีมุฮัมมัดไม่เคยเป็นนบีและชาวอาหรับไม่เคยได้รับคัมภีร์จากพระเจ้า

ที่กล่าวมานี้คือภูมิหลังของการประทานเรื่องราวของนบีและบุคคลสำคัญๆที่พวก ลูกหลานอิสราเอลรู้จักและนับถือ เช่น อาดัม โนอาห์ อับราฮัม โมเสส ดาวิด โซโลมอน เป็นต้น

ดังนั้น เรื่องราวของศาสดาหรือนบีคนสำคัญๆในอดีตที่ถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดและปรากฏ อยู่ในคัมภีร์กุรอานจึงมิได้เป็นการคัดลอกมาจากคัมภีร์ไบเบิลและมิได้เป็น เพียงเรื่องราวที่บอกเล่าเพื่อความบันเทิงหรือเป็นเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังมีวัตถุ ประสงค์อีกหลายประการ เช่น

เป็นปาฏิหาริย์ยืนยันว่านบีมุฮัมมัดเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้าให้ เป็นศาสนทูตของพระองค์ เพราะชาวอาหรับรู้ดีว่านบี มุฮัมมัดอ่านหนังสือไม่ออกและพวกลูกหลานอิสราเอลก็ดูถูกนบี มุฮัมมัดในเรื่องนี้ แต่การที่นบีมุฮัมมัดรู้เรื่องราวบรรพบุรุษของพวกลูกหลานอิสราเอลอย่าง ละเอียด นั่นก็หมายความว่านบีมุฮัมมัดได้รับความรู้เรื่องเหล่านี้จากพระเจ้า

ในสมัยของโมเสส มายากลและไสยศาสตร์เป็นศาสตร์ชั้นสูงที่ผู้คนให้ความเคารพผู้มีความรู้ในเรื่องนี้ โมเสสจึงได้รับไม้เท้าที่โยนลงไปบนพื้นแล้วกลายเป็นงูเพื่อสยบอำนาจมายากล และไสยศาสตร์ ไม้เท้าของโมเสสจึงเป็นหลักฐานยืนยันว่าท่านมาจากพระเจ้าและนักมายากลก็ ยอมรับว่าสิ่งที่โมเสสแสดงนั้นมิใช่มายากล แต่เป็นปาฏิหาริย์ที่พวกตนทำไม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น นักมายากลเหล่านี้ยังยอมศรัทธาในพระเจ้าของโมเสสจนยอมถูกประหารเพื่อรักษา ความศรัทธาที่ถูกต้องไว้

ในสมัยของนบีมุฮัมมัด พวกลูกหลานอิสราเอลทะนงในความรู้เรื่องคัมภีร์ของพวกตน ดังนั้น พระเจ้าจึงประทานคัมภีร์กุรอานแก่นบีมุฮัมมัดเพื่อท้าทายความทะนงของคนพวกนี้ เรื่องราวของโมเสสในคัมภีร์กุรอานถูกบอกเล่าอีกครั้งก็เพื่อเตือนให้พวกลูก หลานอิสราเอลทบทวนว่านักไสยศาสตร์มายากลยังยอมศรัทธาในพระเจ้าของโมเสส แล้วทำไมพวกลูกหลานอิสราเอลจึงไม่ยอมรับพระเจ้าของมุฮัมมัดซึ่งเป็นพระเจ้า องค์เดียวกับพระเจ้าของโมเสส

เรื่องราวของบรรดานบีบางคนในคัมภีร์กุรอานถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดเพื่อ แก้ไขภาพลักษณ์ของนบีบางคนซึ่งถูกบิดเบือนจนเสียหายในคัมภีร์เก่าๆ ก่อนหน้าคัมภีร์กุรอาน เพราะหลักศรัทธาพื้นฐานข้อหนึ่งของอิสลามก็คือการศรัทธาในบรรดานบีทั้งหมด โดยไม่เลือกศรัทธาบางคนหรือคนหนึ่งคนใด แต่ถ้าหากภาพลักษณ์ของนบีบางคนถูกบิดเบือนจนเสียหายและไม่ถูกแก้ไข มันก็เป็นความลำบากใจของมุสลิมที่จะให้ความศรัทธาในนบีที่มีความเสียหายเช่น นั้น ซึ่งเรื่องนี้หากมีโอกาสผมจะหยิบยกหลักฐานมาให้ดูว่าภาพลักษณ์ของนบีที่ มุสลิมเคารพถูกบิดเบือนจนเสียหายแค่ไหน

เรื่องราวของนบีบางคนในคัมภีร์กุรอานถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดในก็เพื่อ เป็นการสอนถึงคุณธรรมบางอย่างที่มนุษย์ต้องมี เช่น ความอดทนของในการเผยแผ่สั่งสอนของโนอาห์ ความอดทนและความไว้วางใจในพระเจ้าของนบียะกู๊บ (ยาโกบ) ต่อปัญหาลูกๆ ความอดทนต่อโรคภัยไข้เจ็บของนบีอัยยูบ (โยบ) ความซื่อสัตย์ต่อเจ้านายและการให้อภัยของนบียูซุฟ (โยเซฟ) เป็นต้น

คัมภีร์กุรอานต้องการจะบอกว่าคุณธรรมเหล่านี้เป็นสิ่งสากลที่มนุษย์จำเป็น ต้องมีและมนุษย์สามารถปฏิบัติได้เพราะนบีก็คือมนุษย์เหมือนกัน