วันที่ 04 พ.ค. 66 นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีเปิด “สัมมนาหลักการเขียนยาวีฟาฏอนี (KAEDAH TULISAN JAWI FATONI)” โดยมี ผศ.ดร.อุมัร จะปะกิยา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาอารยธรรมมลายูอิสลาม มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ( PUSTANI) กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงาน ดาโต๊ะอับดุลอาซิซ ดือรามัน ประธานองค์กรอารยธรรมมลายูมาลเซียกลันตัน (PERADABAN) กล่าวปาฐกถา ในหัวข้อ “ยาวีในอารยธรรมมลายู นูซันตารา” และบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ความสำคัญของหลักการเขียนยาวี” โดย อัฮหมัดฟัตฮี อัลฟาตอนี นักประวัติศาสตร์กลันตัน-ปาตานี
การสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง ศูนย์ศึกษาอารยธรรมมลายูอิสลาม มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ( PUSTANI) ร่วมกับ องค์กรอารยธรรมมลายูมาลเซียกลันตัน (PERADABAN) และเครือข่าย ณ ห้องประชุมอาเซียนมอลล์ปัตตานี
มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คนจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา มหาวิทยาลัยฟาฏอนี และครูสอนภาษามลายูจากสถาบันการศึกษาปอเนาะ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้สนใจทั่วไป
ผู้ว่าฯ ปัตตานีกล่าวว่า ภาษามีความสำคัญในการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้คน โดยเฉพาะภาษามลายูที่มีประชากรใช้ภาษามลายูในโลกนี้มากกว่า 300 ล้านคน ดังนั้นรัฐบาลจึงความสำคัญในด้านภาษามลายู โดยในพื้นที่ให้มีการเขียนป้ายหน่วยงานของรัฐนอกจากภาษาไทย และอังกฤษแล้วยังส่งเสริมให้เขียนเป็นภาษามลายูยาวีอีกด้วย
ผู้ว่าฯ ปัตตานียังได้เปิดตัวหนังสือบทกวีที่มีชื่อว่า “ดีบูมีมูฟาฏอนีกู” Di Bumi Mu Fatoni Ku –แผ่นดินของเจ้า ฟาตอนีของฉัน” เขียนโดย ดาโต๊ะอับดุลอาซิซ ดือรามัน
ประธานองค์กรอารยธรรมมลายูมาลเซียกลันตัน (PERADABAN)
ดาโต๊ะอับดุลอาซิซ ดือรามัน กล่าวระหว่างปาฐกถาในตอนหนึ่งว่า เขียนยาวีหรืออัครยาวีมีมาเป็นร้อยๆ ปีแล้วในนูซันตาราหรือโลกมลายู งานเขียนยาวีเป็นเครื่องมือหนึ่งในภาษามลายู
“คำว่ายาวีเองมีความหมายคำว่ามลายู และมีการเรียกว่าภาษามลายู ในคำเรียกโบราณจะเรียกคนมลายูว่า ออรังยาวี (คนยาวี)” อับดุลอาซิซกล่าว

กองบรรณาธิการ, โต๊ะข่าวชายแดนใต้