เพราะเมืองไทยเป็นเมืองแห่งความร้อนชื้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ‘โรคไข้เลือดออก’ ที่เกิดจากยุงลายตัวร้าย ซึ่งกลุ่มคนที่เสี่ยงต่ออันตรายจากไข้เลือดออกที่สุด ก็คือเด็กเล็ก ๆ ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้น พ่อแม่ต้องเฝ้าระวังสัญญาณเตือนอาการไข้เลือดออกในเด็ก พร้อมหาวิธีรับมืออย่างเหมาะสม ให้ลูกน้อยห่างไกลจากอันตราย เรามาดูกันว่า อาการไข้เลือดออกในเด็กเป็นอย่างไร และพ่อแม่จะมีวิธีรับมือกับโรคไข้เลือดออก พร้อมวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง
รู้ทันอาการไข้เลือดออกในเด็ก
ไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue virus) ซึ่งติดต่อผ่านทางยุงลายตัวเมียที่มีเชื้อ โดยอาการไข้เลือดออกในเด็กมักมีลักษณะดังนี้
- ไข้สูง 38-40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-7 วัน
- ตาแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
- อาจมีจุดเลือดออกตามตัว แขน ขา ใบหน้า เหงือก จมูก หรือทางเดินอาหาร
- อาจมีภาวะช็อก ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้
หากเด็กมีอาการไข้สูง ตาแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีจุดเลือดออกตามตัว ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
ภาวะแทรกซ้อนจากอาการไข้เลือดออกในเด็ก ที่พ่อแม่ต้องระวัง
นอกจากอาการไข้เลือดออกในเด็กโดยทั่วไปแล้ว อีกหนึ่งความอันตรายก็คือภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคไข้เลือดออกในเด็ก มีอยู่ด้วยกันดังนี้
- ภาวะช็อก : เป็นภาวะที่ความดันโลหิตต่ำลงอย่างฉับพลัน ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลว อาจถึงแก่ชีวิตได้
- ภาวะเลือดออก : เกิดจากเกล็ดเลือดต่ำลง ทำให้เลือดออกง่าย อาจพบเลือดออกตามตัว แผล เหงือก จมูก หรือทางเดินอาหาร
- ภาวะตับอักเสบ : เกิดจากเชื้อไวรัสทำลายตับ อาจทำให้ตับทำงานผิดปกติ
- ภาวะไตวาย : เกิดจากไตไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เด็กที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกมีอาการรุนแรงขึ้น ได้แก่
- เด็กเล็ก ๆ ที่อายุยังน้อย
- เด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ
- เด็กที่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน
วิธีรับมือกับอาการไข้เลือดออกในเด็ก
- ให้เด็กนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- ให้เด็กดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปจากการมีไข้และอาเจียน
- ให้เด็กกินอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย
- เช็ดตัวเด็กด้วยน้ำเย็นหรือน้ำเกลืออุ่น ๆ เพื่อลดไข้
นอกจากนี้ พ่อแม่ควรป้องกันไม่ให้เด็กเป็นไข้เลือดออก ด้วยการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัดเด็ก โดยสามารถทำได้ดังนี้
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่อยู่ในบ้านและรอบบ้าน เช่น อ่างน้ำ ยางรถยนต์เก่า กระถางต้นไม้ เป็นต้น
- ทายากันยุงให้เด็กเป็นประจำ
- ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดป้องกันยุงกัด
- ปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิดในเวลากลางคืน
ไข้เลือดออก ถือเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ดังนั้นพ่อแม่จึงควรสังเกตอาการไข้เลือดออกในเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที