ดินแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่น เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอันงดงาม เทคโนโลยีล้ำสมัย อาหารเลิศรส และแหล่งช็อปปิงที่ตอบโจทย์นักเดินทางทุกสไตล์ แต่รู้หรือไม่ว่าการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นยุคใหม่ ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมากอีกต่อไป เพราะบัตรเครดิต คือตัวเลือกที่สะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัตรเครดิต JCB ที่มีให้เลือกหลากหลายธนาคาร แล้วจะเลือกใช้บัตรเครดิต JCB ธนาคารไหนดี มาดูวิธีเลือกที่ควรรู้กัน รับรองว่าจะทำให้ทริปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบาย ปลอดภัย และคุ้มค่ากว่าที่เคยแน่นอน
รู้จักกับ JCB บัตรเครดิตสัญชาติญี่ปุ่นเจ้าแรก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกบัตรเครดิต JCB ธนาคารไหนดี รวมทั้งยังไม่เคยได้ยินชื่อบัตรเครดิตใบนี้มาก่อน บัตรเครดิต JCB (Japan Credit Bureau) คือบัตรเครดิตที่ออกโดยบริษัทการเงินสัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 บัตรนี้เป็นที่นิยมทั้งในญี่ปุ่นและหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย บัตร JCB ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้จ่ายในร้านค้าและบริการที่หลากหลายในญี่ปุ่น เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ ช็อปปิ้ง และบริการสาธารณะต่าง ๆ เรียกได้ว่ามีร้านค้าพันธมิตรที่รองรับการใช้งานบัตร JCB กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศเลยทีเดียว
ข้อดีของการใช้บัตร JCB ในทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่น
- ใช้งานง่าย ร้านค้ารองรับเยอะ: บัตร JCB เป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว หรือบริการขนส่งสาธารณะ ก็สามารถใช้จ่ายผ่านบัตร JCB ได้อย่างสะดวกสบาย
- ปลอดภัย ไร้กังวล: ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก ลดความเสี่ยงในการสูญหายหรือถูกขโมย แถมยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับโลก
- สิทธิประโยชน์จัดเต็ม: บัตร JCB มอบสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก สิทธิ์เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษในสนามบิน และอื่น ๆ อีกมากมาย
- แลกเงินเยนเรตพิเศษ: ธนาคารหลายแห่งมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร JCB ในการแลกเงินเยนในอัตราพิเศษ ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
เลือกใช้บริการบัตรเครดิต JCB จากธนาคารไหนดี ?
ในประเทศไทยมีหลายธนาคารที่ให้บริการบัตรเครดิต JCB ซึ่งแต่ละธนาคารก็มีข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป กำลังพิจารณาว่าจะเลือกบัตรเครดิต JCB ธนาคารไหนดี แนะนำให้พิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้
- ไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย: ศึกษาเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของบัตรแต่ละใบให้ดี ว่าตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของคุณหรือไม่ เช่น หากคุณเป็นสายช็อปปิง ก็อาจเลือกบัตรที่ให้คะแนนสะสม หรือส่วนลดพิเศษสำหรับการช็อปปิง
- สิทธิประโยชน์ในญี่ปุ่น: แต่ละบัตรอาจมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันในญี่ปุ่น เช่น ส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร บริการรถไฟฟ้า หรือสิทธิ์เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ
- ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมการกดเงินสด และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ อย่างละเอียด
- โปรโมชัน: ติดตามโปรโมชันต่าง ๆ ของแต่ละธนาคาร เช่น โปรโมชันแลกเงินเยนในอัตราพิเศษ หรือโปรโมชันร่วมกับร้านค้าในญี่ปุ่น
สุดท้ายนี้ การเลือกว่าจะใช้บัตรเครดิต JCB ของธนาคารไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และสิทธิประโยชน์ของบัตรเป็นหลัก ก่อนเที่ยวทุกครั้ง อย่าลืมวางแผนการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ทริปของคุณเป็นทริปที่สนุกและคุ้มค่าในเวลาเดียวกัน