เคยไหม…พลิกตัวไปมา มองเพดานทั้งคืน แล้วกังวลว่า “ทำไมถึงนอนไม่หลับ ฉันเป็นโรคนอนไม่หลับหรือเปล่า?” ความจริงคือ ไม่ใช่ว่าการนอนไม่หลับเพียงไม่กี่คืนจะถูกจัดว่าเป็นโรคนี้เสมอไป
วันนี้ เดอะพับลิกโพสต์ จะพาคุณแยกให้ชัดว่าอาการของคุณเป็น Insomnia Disorder จริงๆ หรือเป็นเพียงปัญหาการนอนเล็กน้อยที่แก้ได้เอง พร้อม วิธีแก้นอนไม่หลับแบบง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวัน
โรคนอนไม่หลับคืออะไร?
Insomnia Disorder คือภาวะนอนไม่หลับเรื้อรังที่แพทย์ใช้เกณฑ์วินิจฉัย เช่น ต้องมีอาการนอนไม่หลับอย่างน้อย 3 คืนต่อสัปดาห์ นานเกิน 3 เดือน ถึงจะจัดว่าเป็นโรคจริงๆ
แต่หากคุณมีอาการแค่บางครั้ง หรือเกิดจากปัจจัยรบกวนอื่น ก็อาจไม่ใช่โรคนอนไม่หลับ
5 เหตุผลที่คุณอาจ “นอนไม่หลับ” แต่ไม่ได้เป็น Insomnia
1. อาการระยะสั้นหรือเป็นๆ หายๆ
เกือบ 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ เคยมีช่วงนอนไม่หลับจากความเครียด ป่วย หรือชีวิตเปลี่ยนแปลง แต่กว่า 72% กลับมานอนได้เองในไม่กี่สัปดาห์
2. ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
ถ้านอนไม่เต็มอิ่มแต่ยังใช้ชีวิตได้ ไม่เพลีย ไม่หงุดหงิด แบบนี้มักไม่ถูกจัดว่าเป็น Insomnia
3. เวลานอนไม่พอเพราะงานหรือครอบครัว
ตารางงานดึก ภาระเลี้ยงลูก หรือชีวิตที่ไม่เป็นเวลา ทำให้คุณนอนไม่พอ นี่คือ “นอนน้อย” ไม่ใช่โรคนอนไม่หลับ
4. จริงๆ แล้วเป็นโรคการนอนอื่น
บางภาวะเลียนแบบ Insomnia ได้ เช่น
-
หยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
-
Restless Legs Syndrome – ขากระสับกระส่ายจนหลับยาก
-
ปัญหานาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) – คนนอนดึกแต่ต้องตื่นเช้า
5. คาเฟอีน ยา หรือแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มกระตุ้น และยาบางชนิด เช่น Stimulants และ Beta-blockers ทำให้นอนหลับยากและมีอาการคล้าย Insomnia
วิธีแก้นอนไม่หลับที่คุณทำได้เอง
-
ตั้งเวลาตื่นให้ตรงกันทุกวัน แม้หลังคืนที่นอนน้อย
-
หลีกเลี่ยงการจ้องนาฬิกาหรือกังวลเมื่อตื่นตอนตี 3
-
รับแสงแดดยามเช้าเพื่อรีเซ็ตนาฬิกาชีวภาพ
-
จัดเวลานอนอย่างน้อย 7–8 ชั่วโมงต่อวัน
หากยังไม่ดีขึ้น ควร ปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาการนอน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และอาจได้รับการรักษาด้วย CBT-I (Cognitive Behavioural Therapy for Insomnia) ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีกว่ายานอนหลับในระยะยาว
บางครั้ง “นอนไม่หลับ” ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่เป็นเพียงสัญญาณที่บอกให้คุณกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น ลองปรับพฤติกรรมง่ายๆ วันนี้ อาจช่วยให้คุณหลับสบายโดยไม่ต้องพึ่งยาเลยก็ได้
อ้างอิง : 1news








