นักวิชาการมุสลิม “ดร.ศราวุฒิ อารีย์” โพสต์ชวนคิด ทำไมไอเอสไม่พุ่งเป้าไปที่อิสราเอลและไม่ค่อยพูดถึงปัญหาปาเลสไตน์?

วันนี้ (17 ก.พ.) ดร.ศราวุฒิ อารีย์ รองผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า

กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งหลังมีการประหารหมู่ชาวอียิปต์คริสเตียนคอปติก 21 คน ฝีมือเจ้าเดิมไอเอส แต่คราวนี้เกิดขึ้นที่ลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศมิคสัญญีหลังมุอัมมัร กัซซาฟี ถูกนาโต้และฝ่ายต่อต้านโค่นล้มเมื่อปี 2011

ผมให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ 3 ช่องเช้าวันนี้ แต่ถ้าใครไม่ได้ติดตาม ผมขอสรุปให้ฟีงอย่างนี่ครับ

1. เหตุการณ์ล่าสุด เป็นเหตุรุนแรงต่อเนื่องจากการฆ่าตัดหัวญี่ปุ่น เผานักบินจอร์แดน มาจนถึงชาวอียิปต์ ประเทศที่กล่าวมาล้วนเป็นพันธมิตรสหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นว่า ไอเอสไม่ได้พุ่งเป้าต้อสู้กับสหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศพันธมิตรสหรัฐในตะวันออกกลางที่สำคัญ

2. เหตุการณ์ตัดหัวชาวอียิปต์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่อิรักหรือซีเรีย ซึ่งเป็นฐานของไอเอส แต่เกิดขึ้นที่ลิเบีย ข้อน่าสังเกตคือ จากเหตุดารณ์วันนี้ทำให้เราทราบว่าไอเอสมิได้มีอิทธิพลอยู่ในซีเรีย และอิรักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลิเบียด้วย นั่นหมายความว่าประเทศใดเกิดภาวะวุ่นวาย เกิดสูญญากาศทางอำนาจ ประเทศนั้นก็ตกอยู่ในความเสี่ยงที่ไอเอสจะเข้าไปแสดงบทบาท ซึ่งอาจรวมถึงเยเมนในเวลาอันใกล้นี้

3. ทั้ง 3 ประเทศข้างต้น เป็นประเทศที่มหาอำนาจเคยใช้ความรุนแรงเข้าไปเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งสิ้น สหรัฐฯ เข้าไปโค่นล้มซัดดัมในปี 2003 มหาอำนาจอยู่เบื้องหลังการต่อต้านในซีเรีย และฝรั่งเศสนำทัพนาโต้เข้าไปในลิเบีย สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาไอเอส ไม่มีใครก่อขึ้น แต่เป็นมหาอำนาจเองที่จัดการปัญหาด้วยความรุนแรง จนสถานะการณ์ลุกลามบานปลาย กลายเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่ตอนนี้ต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมแก้ปัญหา อ้างภัยก่อการร้าย

4. ช่วงที่ผ่านมาหลายเดือนทำไมไอเอสไม่พุ่งเป้าไปที่ชาวอิสราเอลหรือประเทศอิสราเอล ไอเอสไม่ค่อยพูดถึงปัญหาปาเลสไตน์ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าอิสราเอลเป็นพันธมิตรแนบแน่นกับสหรัฐฯยิ่งกว่าชาติ อาหรับใดๆ เป็นหนามยอกอกของโลกมุสลิม ทำร้ายชาวปาเลสไตน์ และยึดดินแดนจนเกือบที่จะไม่เหลือพื้นที่ให้ยืนอยู่แล้ว เยรูซเล็มเองก็อยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอล แต่เราไม่เห็นข่าวการจับตัวประกันชาวยิว เราไม่เห็นข่าวผู้นำไอเอสประกาศกร้าวต่อสู้กับอิสราเอล ทั้งๆ ที่ซีเรียก็อยู่ติดชิดกับอิสราเอล เราเห็นแต่ข่าวสมาชิกไอเอสเข้าไปรักษาตัวที่เทลอาวีฟ แล้วก็มารบต่อ เราเห็นภาพผู้นำไอเอสพบปะกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ (ในช่วงต้นๆ ของสงครามกลางเมืองซีเรีย)

5. ผลจากภาพเหตุความรุนแรงทั้งเผาและตัดหัว กระแสความหวาดกลัวไอเอส ทำให้โลกผินหลังให้ประเด็นหลักคือ ปัญหาปาเลสไตน์ ซึ่งหลังสงครามกาซ่า ได้รับความสนใจยิ่ง ถึงขนาดมีหลายชาติในยุโรปให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ ไม่มีใครสนใจการโค่นอำนาจเผด็จการในตะวันออกกลาง ไม่มีใครสนใจประเด็นการปฏิรูปการเมือง กระแสอาหรับสปริงหมดความขลังไป ทุกฝ่ายหันไปให้ความสนใจว่าจะใช้กำลังอย่างไร จะรวมตัวต่อสู้อย่างไรจึงจะชนะไอเอส

มีอะไรอีกเยอะที่อยากจะแลกเปลี่ยน แต่คงต้องเอาไว้คราวหลังครับ