อิสราเอลอ้าง “ภาวะสงคราม” งดใช้กฏหมายสิทธิมนุษยชนกับผู้ประท้วงปาเลสไตน์

“ภาวะสงคราม” เป็นข้ออ้างของอิสราเอลที่งดใช้กฏหมายสิทธิมนุษยชนกับการประท้วงในกาซ่า สปุตนิกรายงาน

เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวถึงการประะท้วงล่าสุดของชาวปาเลสไตน์ตามแนวเขตแดนกาซ่าว่า เป็น “ภาวะสงคราม”​ และรัฐอิสราเอลคัดค้านการใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างการสู้รบ

เมื่อวันอาทิตย์ (28 เม.ย.) ทนายความของรัฐอิสราเอลได้ปกป้องการใช้กระสุนจริงของทหารในระหว่างการปะทะกับผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ตามแนวรั้วตะวันออกของฉนวนกาซา

พวกเขากล่าวว่า กฎหมายสิทธิมนุษยชนไม่สามารถใช้ได้กับการประท้วงที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเขาอ้างเหตุผลว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การกระทำของพลเรือน  เพราะฉะนั้นกองกำลังอิสราเอลได้ทำหน้าที่สอดคล้องกับทั้งกฎหมายของอิสราเอลและกฎหมายระหว่างประเทศในการสังหารและการกระทบกระทั่งที่ทำให้ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ  สปุตนิกรายงานอ้าง “ฮาอาเร็ตส์” สื่ออิสราเอล

“การประท้วงชองชาวปาเลสไตน์บนพรมแดนกาซาได้ตกอยู่ในภาวะสงคราม ดังนั้นกฎหมายสิทธิมนุษยชนจึงไม่สามารถใช้บังคับกับ -กองทัพอิสราเอล- ที่ใช้กฎของการสู้รบในภาวะนี้” ทนายความของรัฐให้การตอบโต้คำร้องที่ยื่นต่อศาลสูงอิสราเอล โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่ม

ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ชาวปาเลสไตน์ได้จัดชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิในการหวนกลับสู่มาตุภูมิใกล้รั้วที่กั้นเขตแดนฉนวนกาซากับดินแดนที่ควบคุมโดยอิสราเอล ผู้ประท้วงเรียกร้องสิทธิในการกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนให้กับชาวปาเลสไตน์ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นจากสงครามเพื่อก่อตั้งรัฐอิสราเอลในปี 1948 (พ. ศ. 2491)

จนถึงขณะนี้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตกว่า 1,000 คนและอีกกว่า 1,000 คนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากกองกำลังอิสราเอลปราบปรามการประท้วงอย่างรุนแรง

ผู้ประท้วงตั้งใจจะดำเนินการประท้วงต่อไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันประกาศอิสรภาพของอิสราเอล เพื่อที่พวกเขาจะรำลึกถึงครบรอบ 70 ปีของการพลัดถิ่นของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งชาวปาเลสไตน์เรียกว่า “อัลนักบา” (al-Nakba) หรือ วันแห่ง “หายนะ”