พลจัตวา โมฮัมหมัด เรซา นักดี รองผู้บัญชาการฝ่ายวัฒนธรรมและสังคม กองบัญชาการพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน (IRGC)กล่าวในการ ให้สัมภาษณ์ว่า อิหร่านสามารถเอาชนะซาอุดิอารเบียได้อย่างง่ายดาย และขู่ว่าจะบุกฐานทัพทหารอเมริกันในตะวันออกกลาง สปุตนิกสื่อรัสเซียรายงาน
ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมกับสถานีโทรทัศน์ “อัลนูยาบ” ( Al-Nujab) ของอิรัก แต่เพิ่งถูกแปลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดยสถาบันวิจัยสื่อตะวันออกกลาง (Middle East Media Research Institute) นายพลนักดีกล่าวว่า“ การปฏิวัติอิสลามอิหร่านจะไม่ถอย” จากเป้าหมายในการสร้างความพ่ายแพ้ให้อิสราเอล
นายพลนักดี เป็นอดีตหัวหน้ากองทหารบาซีจ (Basij) กล่าวว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอิสราเอลจะต้อง “บรรลัยและถูกทำลายล้าง” พร้อมทั้งเสริมว่า ทั้งรัสเซียและประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถเป็นโซ่ข้อกลางในเรื่องนี้
“เราเคยเป็น เรากำลังเป็น และเราจะยังคงเป็นทหารของอิหม่ามคาเมเนอีต่อไป จนถึงลมหายใจสุดท้ายและจนกว่าเลือดหยดสุดท้ายของเรา ผม ด้วยตัวเอง จะชักธงแห่งการปฏิวัติอิสลามอิหร่านในเยรูซาเล็ม หากอัลเลาะห์ทรงประสงค์” นายพลกล่าว
นอกจากนี้เขายังปฏิเสธความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะโจมตีต่ออิหร่าน:“ อเมริกาจะไม่ทำสงครามกับอิหร่าน” เขาบอกผู้สัมภาษณ์ “แต่ถ้ามันเกิดขึ้น เราจะทำลายฐานทัพ (สหรัฐ) ทั้งหมดในภูมิภาคนี้ ขณะนี้เรายืนอยู่หน้าประตูและลวดหนาม [รอบฐานเหล่านั้น] และหากพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างเหลวไหล เราจะข้ามรั้วลวดหนามเหล่านั้นเข้าไป”
นายพลอิหร่านยังกล่าวถึงความสามารถทางการทหารของซาอุดิอาระเบียว่า “น่าหัวเราะมาก” “ เรามีสุภาษิตเปอร์เซียว่า คุณไม่สามารถเปรียบเทียบมดกับช้างได้ ซาอุดิอาระเบียไม่สามารถควบคุมแม้แต่หน้าบ้าน มันใช้เครื่องบินรบเพื่อทิ้งระเบิดต่อเพื่อนบ้านเล็ก ๆ ในซาอุดิอาระเบีย ผมเชื่อว่าซาอุดิอาระเบียอ่อนแอกว่าที่คุณคิด หากเราให้คำสั่งแก่ฝ่ายใด ๆ ใน 30 หัวเมืองของเรา มันก็จะสามารถเอาชนะและทำลายประเทศซาอุดีอาระเบียได้ เป็นความจริงที่ว่าซาอุดิอาระเบียมีอาวุธขั้นสูงมากมาย แต่ไม่สามารถเผชิญหน้ากับกองทัพอย่างอิหร่านได้”
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ ผู้นำสูงสุดอิหร่านอายะตุลเลาะห์ อะลี คาเมนเอี กล่าวว่า การคว่ำบาตรของอเมริกันกำลังกดดันอิหร่านและประชาชน แต่ในความคิดเห็นที่โพสต์บนเว็บไซต์ของเขาเขากล่าวเสริมว่า“ อิหร่านจะเอาชนะการคว่ำบาตร ตบหน้าสหรัฐฯ อีกครั้ง”
ทั้งนี้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นายไมก์ ปอมเปโอ เยือนอิรักโดยระบุว่า สหรัฐฯ จะเพิ่มความพยายามทางการค้าและการทูตในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อ“ กดดันอิหร่านอย่างแท้จริง”
สหรัฐอเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) ในเดือนพฤษภาคม 2561 หลังจากนั้นวอชิงตันเลือกที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อเตหะรานอีกครั้ง มาตรการจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม ต่อมาในต้นเดือนพฤศจิกายนวอชิงตันได้ขยายมาตรการคว่ำบาตรโดยมุ่งเป้าไปที่ภาคเศรษฐกิจหลักของอิหร่าน
