ตาม ที่เวบไซต์ของสถานเอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เผยแพร่ภาพ มุสลิมชาย-หญิง 2 คน เข้าพบนายชิมอน โรเด็ด เอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เพื่อฟังคำชี้แจงกรณี อิสราเอลโจมตีกาซ่า ทำให้สังคมมุสลิมในประเทศไทย เข้าใจผิดว่า 2 คนดังกล่าว เข้าข้างฝ่ายอิสราเอล ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ผู้ชาย และผู้หญิงที่ปรากฏในเวบไซต์ของสถานทูตอิสราเอล คือนายกาก้า ปาทาน และ เบไซรา ปาทาน ทั้ง 2 คน เป็นคนแรกๆ ที่นัดหมายรวมตัวกันหน้าสถานทูตอิสราเอล ในวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม ในนามกลุ่ม 786 ก่อนที่เพจ Anti-israel จะนำมาขยายผล
![เบไซรา ในวันประท้วงหน้าสถานทูต ยินเคียงคู่กับดร.โซเฟีย ไทยอนันต์ ผู้พิพากษาสมทบจังหวัดเชียงราย](http://www.publicpostonline.net/wp-content/uploads/2015/05/1214.jpg)
การ ชุมนุมหน้าสถานทูต ในวันนั้น มีดร.โซเฟีย ไทยอนันต์ ร่วมด้วย โดยประสานกับกลุ่ม 786 โดยดร.โซเฟีย ได้ยื่นหนังสือ เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีทำร้ายเด็กและสตรีในกาซ่าถึงสถานทูตผ่าน ตำรวจระดับผู้กำกับคนหนึ่งและระบุว่า จะขอยื่นหนังสือถึงเอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และให้หมายเลขโทรศัพท์กับผู้กำกับ
จน 2 วันต่อมา ผู้กำกับคนดังกล่าวได้ประสานเข้ามาว่า ทางสถานทูตอิสราเอลจะให้เข้ายื่นหนังสือในวันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคมเวลา 10.00 น. ระหว่างนั้น เบไซรา ได้ประสานกับคนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษเพื่อร่างหนังสือ ในเช้าวันที่ 18 ทางผู้กำกับประสานเข้ามาว่า ทางสถาทูตให้โควตาเข้าสถานทูตจำนวน 5 คน และให้ส่งแฟกซ์สำเนาบัตรประชาชนไปให้ หลังการส่งสำเนาบัตรไป ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้บุกเข้าไปยังบ้านของเบไซรา ที่ปากช่อง บ้านซึ่งเธอมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน แต่ตัวเธอพักอยู่ที่กรุงเทพฯ ตำรวจเข้าไปตรวจค้น แต่ไม่เจอหลักฐานอะไร แต่ได้ข่มขู่ไม่ให้เคลื่อนไหว ไม่เช่นนั้นจะเจอแบลคลิสต์
เวลา 10.00 น. เบไซรา และกาก้า ได้เข้าพบกับนายชิมอน โดยมีช่างภาพอีก 1คน รวมเป็น 3 คน ดร.โซเฟีย ติดภารกิจไม่ได้เข้าร่วมด้วย ในการเข้าพบ ทั้ง 2 ฝ่ายได้แสดงจุดยืนในข้อเรียกร้อง โดยฝ่ายอิสราเอล ชี้ให้เห็นถึงเหตุความจำเป็นในการโจมตีกาซ่าว่า เพื่อปกป้องตัวเอง และไม่ได้มีปัญหากับมุสลิมในประเทศไทยตามรายละเอียดที่นำเสนอผ่านเวบไซต์
ฝ่าย เบไซราและกาก้า หลังถูกตำรวจข่มขู่ ก็ไม่ได้นำหนังสือฉบับภาษาอังกฤษติดตัวไปด้วย แต่ได้พูดด้วยวาจา สรุปได้ว่า เรามาเพื่อเรียกร้องผ่านคุณไปยังผู้นำประเทศของคุณให้หยุดโจมตีอย่างไม่ เลือกหน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรามาเรียกร้องและทำเท่าที่จะทำได้ แต่สงครามก็คือสงคราม เราไม่ได้ยิ่งใหญ่เกินพระเจ้า สุดท้ายคงต้องแล้วแต่พระประสงค์ของอัลเลาะฮ์
หลัง จากนั้น เพื่อแสดงมารยาทที่ดีต่อเจ้าบ้าน จึงได้ถ่ายรูปร่วมกัน ซึ่งมีภาพที่ทางสถานทูตนำมาเผยแพร่ และสร้างความรู้สึกไม่ดีต่อสังคมมุสลิม แต่เป็นเพียงการแสดงออกเพื่อมารยาททางสังคมเท่านั้น
การ เคลื่อนไหว ของกลุ่ม 786 เหมือนคนทั่วไป ที่รู้สึกเจ็บปวดกับการที่ต้องเด็กและสตรีถูกทำร้าย บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เป็นการเคลื่อนไหวโดยบริสุทธิ์ใจเพื่อพี่น้องมุสลิมในปาเลสไตน์
![](http://www.publicpostonline.net/wp-content/uploads/2015/05/1215.jpg)
รายงานที่เผยแพร่ผ่านเวบไซต์สถานทูตยิว
เอกอัครราชทูต อิสราเอลประจำประเทศไทย ฯพณฯ นายชิมอน โรเด็ด ได้พบกับผู้แทนชาวไทยมุสลิม ณ ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตฯ ในระหว่างการสนทนา เอกอัครราชทูตโรเด็ดยืนยันว่า อิสราเอลมิได้มีข้อขัดแย้งใดๆ กับชาวมุสลิม อิสราเอลยกย่องและให้ความนับถือชาวไทยมุสลิมเป็นอย่างยิ่ง
ทูต อิสรา เอลฯ ระบุว่า อิสราเอลต้องปกป้องประชาชนจากการโจมตีอย่างตั้งใจโดยไม่เลือกจากผู้ก่อการ ร้ายกลุ่มต่างๆ จากกาซา ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มฮามาส ฮามาสได้ก่ออาชญากรรมซ้ำซ้อนด้วยการมุ่งทำร้ายพลเรือนชาวอิสราเอลและใช้ชาว ปาเลสไตน์เป็นโล่มนุษย์
อิสราเอล ต้องอดกลั้นมาเป็นเวลานาน แต่การกระทำของฮามาสไม่เหลือทางเลือกอื่นใดไว้ให้ ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใดๆ ก็ตามที่จะต้องดูแลคุ้มครองประชาชนของตน
อิสราเอล ไม่เคยเห็นประชากรในฉนวนกาซาเป็นศัตรู ดังนั้นจึงใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูงในการปฏิบัติการทางทหารเพื่อจำกัด ผลกระทบที่จะเกิดต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์ เราร่วมปวดร้าวใจกับการสูญเสียทุกๆ ชีวิต
ทั้งนี้ ฮามาสต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อการสู้รบที่กำลังดำเนินอยู่ และการทุกข์ทรมานที่ประชาชนทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญอยู่
อนึ่งวันนี้ ( 21 ก.ค.) ทางกลุ่มมุสลิมปาทาน 786 ได้ทำหนังสื่อเปิดผนึกเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว เนื้อดังนี้