เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ก่อนการระเบิดครั้งใหญ่ในเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ออกคำเตือนที่เป็นเสมือนลางร้ายต่อเลบานอน
“เราเคยซัดพวกตัวเล็กตัวน้อย (เซลล์) และตอนนี้เราซัดระดับสั่งการ ผมขอเตือนพวกเขาทุกคน รวมทั้งฮิซบุลเลาะห์ให้ครุ่นคิดในเรื่องนี้” เนทันยาฮูกล่าวระหว่างเยือนฐานทางทหารในภาคกลางของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ
สิ้นคำเตือนของเนทันยาฮู ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาการระเบิดคล้ายฮิโรชิมาก็ได้ทำลายล้างภาคส่วนต่างๆ ของกรุงเบรุต ผู้ที่สงสัยว่าอิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดร้ายแรงนี้ จึงมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องชี้นิ้วไปยังเทลอาวีฟ
ทั้งในทางการเมืองและในสงคราม “ความจริงคือเหยื่อรายแรก” ไม่ใช่มนุษย์ (truth is the first casualty) เราอาจไม่เคยรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาก่อนการระเบิดที่เบรุต อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่สำคัญเลย เพราะการบรรยายเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมหลายอย่างของเลบานอนนั้นแตกต่างจากภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศนี้
เมื่อพิจารณาจากแถลงการณ์และจุดยืนที่ถูกนำมาใช้โดยพรรคการเมืองและกลุ่มต่างๆ ของประเทศนี้ หลายส่วนดูเหมือนจะกังวลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากโศกนาฏกรรมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเล็กน้อยมากกว่าตัวโศกนาฏกรรม แม้ว่าการระเบิดนี้จะเป็นผลลัพธ์ที่โชคร้ายของอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของระบบราชการ แต่น่าเศร้า! ที่มันไม่ถูกให้ความสำคัญเท่าที่ควร ในเลบานอนก็เช่นเดียวกับประเทศอื่นในตะวันออกกลาง “ทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง”!!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ค่อนข้างจะแน่นอนเกี่ยวกับอนาคตก็คือ วาทกรรมทางการเมืองจะนำกลับไปสู่อิสราเอลในที่สุดเมื่อเทียบกับฮิซบอลเลาะห์ ฝ่ายแรกมีความกระตือรือร้นในการบ่อนทำลายอิทธิพลของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอน ในขณะที่ฝ่ายหลังก็ยืนกรานที่จะขัดขวางแผนการของอิสราเอล
แต่แผนของอิสราเอลคืออะไร? หลังจากพยายามทำลายกลุ่มเลบานอนนี้มานานหลายทศวรรษรัฐบาลอิสราเอลตระหนักดีว่าการกำจัดกองทหารของฮิซบุลเลาะห์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป แน่นอนว่าไม่สามารถในอนาคตอันใกล้ กลุ่มเลบานอนนี้ได้พิสูจน์ความกล้าหาญในสนามรบเมื่อพวกเขามีบทบาทสำคัญในการยุติการยึดครองเลบานอนของอิสราเอลในเดือนพฤษภาคม ปี 2000
ความพยายามครั้งต่อมาของอิสราเอลในการยืนยันการมีอำนาจของตนเหนือพรมแดนทางใต้ของเลบานอนก็ได้พิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์ สงครามที่ล้มเหลวในปี 2006 และการปะทะกันล่าสุดของเดือนกันยายน 2019 เป็นสองกรณีที่เหมือนๆ กัน
เสมือนที่ฮิซบุลเลาะห์ก็ไม่สนใจที่จะเชื้อเชิญอิสราเอลทำสงครามกับเลบานอนด้วยเช่นกัน กระนั้นประเทศนี้ก็กำลังจะอยู่บนเส้นทางล่มสลายทางเศรษฐกิจ แม้ไม่พินาศเพราะน้ำมือมนุษย์
ในขณะที่เลบานอนตกอยู่ในภาวะแตกแยกและแบ่งฝักฝ่ายการเมืองมาโดยตลอด แต่ความแตกแยกของอารมณ์ทางการเมืองในประเทศในขณะนี้กลับทำลายล้างมากกว่าที่เคยเป็นมา การสูญเสียความหวังต่อตัวแสดงทางการเมืองทั้งหมด ชาวเลบานอนออกไปตามถนนเพื่อเรียกร้องสิทธิและบริการขั้นพื้นฐาน การยุติการคอร์รัปชั่น และสัญญาทางสังคมและการเมืองใหม่ทั้งหมด – ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ
ในขณะที่การเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แต่การหยุดชะงักทางการเมืองอาจเป็นหายนะในประเทศที่กำลังอดอยาก ก้อนเมฆคล้ายระเบิดในฮิโรชิมาที่ทำให้โลกตกตะลึงเป็นคำเปรียบเทียบที่สมบูรณ์แบบสำหรับความทุกข์ยากที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดของเลบานอน
นายโมเช่ ฟิกลิน (Moshe Feiglin) อดีตสมาชิกสภาคเน็ตเซสของอิสราเอล (Knesset) เป็นหนึ่งในชาวอิสราเอลจำนวนมากมายที่ออกมาแสดงความสนุกสนานร่าเริง พวกเขาเฉลิมฉลองต่อการใกล้ตายของเมืองอาหรับแห่งนี้ ฟิกลินอธิบายการระเบิดครั้งใหญ่ที่น่าสยดสยองของเบรตุว่าเป็นวันแห่งความสุข แสดงความขอบคุณต่อพระเจ้าอย่างมาก เขาบอกว่า “ถ้าเป็นเรา” หมายถึงหากอิสราเอลเกี่ยวข้องกับการระเบิดครั้งร้ายแรงนี้ “เราควรภูมิใจกับมัน และด้วยสิ่งนั้นเราจะสร้างดุลแห่งความหวาดกลัว (Balance of terror)” เขากล่าว
ไม่ว่าฟิกลินจะพูดจากจุดยืนที่มีความรู้หรือไม่ก็ตาม การอ้างอิงถึงภวะ ‘ดุลแห่งความหวาดกลัว’ ยังคงเป็นหลักฐานสันบสนุนสมมติฐานในการดีลทั้งหมดของอิสราเอลกับเลบานอนและฮิซบุลเลาะห์โดยเฉพาะ
สงครามที่ซับซ้อนในซีเรียได้ขยายสงครามแห่งการล้างผลาญของอิสราเอล ทั้งยังเปิดโอกาสให้อิสราเอลกำหนดเป้าหมายต่อผลประโยชน์ของฮิซบุลเลาะห์โดยไม่ต้องลงบันทึกเป็นการรุกรานอีกครั้งในดินแดนเลบานอน มันง่ายกว่ามากในการกำหนดเป้าหมายยังซีเรียที่ถูกสงครามฉีกทึ้งและหลบหนีโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แทนที่จะมุ่งเป้าไปที่เลบานอนและต้องรับผลกรรมที่ทำไว้
หลายปีที่ผ่านมาอิสราเอลทิ้งระเบิดหลายเป้าหมายในซีเรีย ในขั้นต้นมันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับบทบาทเช่นนี้ ในปีที่แล้วเท่านั้นที่อิสราเอลเริ่มโอ้อวดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการพิชิตทางทหาร แต่ก็ด้วยเหตุผลบางประการ นั่นคือเนทันยาฮูที่บอบช้ำหมดหวังที่จะได้รับเครดิตทางการเมืองเนื่องจากเขาถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชั่นหลายครั้งซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสื่อมเสีย ด้วยการทิ้งระเบิดต่อเป้าหมายชาวอิหร่านและฮิซบุลเลาะห์ในซีเรีย ผู้นำอิสราเอลหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นนำทางทหารซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่สำคัญในการเมืองของอิสราเอล
ความคิดเห็นของเนทันยาฮูก่อนการระเบิดที่เบรุตอ้างอิงถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เริ่มขึ้นในวันที่ 21 กรกฎาคม เมื่ออิสราเอลทิ้งระเบิดในพื้นที่ที่อยู่ติดกับสนามบินนานาชาติดามัสกัสทำให้ อาลี กาเมล มุห์ซิน สมาชิกฮิซบุลเลาะห์เสียชีวิตรวมทั้งคนอื่น ๆ
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายแดนทางตอนเหนือของอิสราเอลตกอยู่ในการตื่นตัว มีการประกาศภาวะฉุกเฉินควบคู่ไปกับการโฆษณาทางการเมืองและสื่อมากมาย ซึ่งช่วยเนทันยาฮูโดยการหันเหความสนใจของชาวอิสราเอลธรรมดาจากการพิจารณาคดีทุจริตที่กำลังดำเนินอยู่
แต่ผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ของอิสราเอลในความขัดแย้งซีเรียนั้นเกินความจำเป็นของเนทันยาฮูเพื่อชัยชนะในราคาถูก ผลของสงครามซีเรียอาจทำให้เกิดสถานการณ์ฝันร้ายสำหรับอิสราเอล
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่อิสราเอลสร้างวาทกรรมว่า “อักษะแห่งการก่อการร้าย” – อิหร่าน ซีเรีย และฮิซบุลเลาะห์ – ต้องถูกปลดเปลื้อง เนื่องจากเป็นตัวแทนของภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล นั่นเป็นเวลานานก่อนที่กองกำลังและนักรบที่สนับสนุนอิหร่านจะเริ่มปฏิบัติการอย่างลับๆ ในซีเรียอันเป็นผลมาจากสงครามที่กำลังดำเนินอยู่
ในขณะที่อิสราเอลระบุว่า การทิ้งระเบิดซ้ำซากในซีเรียนั้นมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายฮิซบุลเลาะห์เป็นหลัก -นั่นคือยุทโธปรกรณ์ทางทหารของกลุ่มและขีปนาวุธของอิหร่านที่กำลังเดินทางไปยังเลบานอนผ่านดินแดนซีเรีย-ทว่าสงครามของอิสราเอลในซีเรียส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเมือง ตามตรรกะของอิสราเอล ยิ่งอิสราเอลทิ้งระเบิดในซีเรียมากเท่าไหร่ ผู้เล่นก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น มันจะกลายสภาพในตอนที่ฝ่ายต่างๆ ที่ขัดแย้งกันเข้าไปส่วนร่วมในการเจรจาในอนาคตเพื่อกำหนดชะตากรรมของประเทศนั้น
อย่างไรก็ตามการทำเช่นนั้นอิสราเอลยังเสี่ยงที่จะจุดชนวนความขัดแย้งทางทหารกับเลบานอน อันเป็นสิ่งซึ่งทั้งเทลอาวีฟและฮิซบุลเลาะห์ไม่สามารถจ่ายได้ในขณะนี้
ผู้กำหนดนโยบายและนักวางแผนทางทหารของอิสราเอลต้องยุ่งอยู่กับการพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ในเลบานอน เพื่อทำความเข้าใจวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จากโศกนาฏกรรมของเลบานอน เพื่อพัฒนาผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ของอิสราเอล
เป็นอีกครั้งที่อนาคตของเลบานอนตกอยู่ในมือของเหล่านายพลแห่งสงคราม!!
เขียนโดย: Ramzy Baroud
แปลเรียบเรียงจาก : middleeastmonitor
*** ***มุมมองในบทความนี้เป็นของผู้เขียน และไม่จำเป็นต้องสะท้อนจุดยืนของกองบรรณาธิการเดอะพับลิกโพสต์
