เครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจะนะ จังหวัดสงขลา ยกระดับการต่อสู้คัดค้าน “จะนะเมืองอุตสาหกรรม” 

2ต.ค.63 เวลา 15.00น. เครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจะนะ จังหวัดสงขลา นำครูและนักเรียนจำนวนมากมาร่วมกันละหมาดฮายัดที่หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา เพื่อแสดงพลังคัดค้านอย่างสันติ ต่อการประกาศเปลี่ยนผังเมืองจะนะเป็นเขตอุตสาหกรรม เนื่องจากการยื่นขอแก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดสงขลา ตามมาตรา 35 ของ พรบ.การผังเมือง 2562 ที่อ้างว่าการแก้ไขผังเมืองรวมเฉพาะบริเวณให้เหมาะกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปนั้น ไม่ใช่เหตุผลที่สมควรต่อการเปลี่ยนผังเมือง จากพื้นที่เกษตร เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม จึงขอเรียกร้องให้ยกเลิกมติ ครม.ต่อเรื่องนี้ และยกเลิกมติคณะกรรมการเปลี่ยนผังเมือง

นอกจากนี้ทางเครือข่ายฯ ได้เรียกร้องไปยังโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันปอเนาะ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีนักเรียนและบุคลากรกว่าแสนคนออกมาร่วมยืนหยัดไปด้วยกัน

นายมังโสด หมะเต๊ะ ผู้ประสานงานเครือข่าย กล่าวว่า “เราจะยกระดับการต่อสู้ ล่ารายชื่อ เชิญชวนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ปอเนาะทั้งจังหวัดสงขลาและชายแดนใช้กระบวนการทางกฎหมาย ไปรัฐสภาและอื่นๆภายใต้หลักการอิสลามและกฎหมาย “

สอดคล้องกับทัศนะบาบอฮุสนี บินหะยีคอเนาะ “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ หากสร้างจากเงินนายทุน นั่นคือความโลภ หากสร้างจากเงินรัฐ นั่นคือฉ้อราษฎร์ ไม่ว่าจะพิจารณาจากแสงแห่งธรรมหรือสะท้อนเงากฎหมายเรามิอาจมองมันอย่างสงบใจได้จริงๆ การริฎอ(ยินยอม)กับสิ่งที่ผิดหลักอิสลาม เขาคนนั้นก็ไม่ต่างจากการทำผิดหลักศาสนาอย่างหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นภาระต่อผู้รู้ และผู้เรียนในการสืบทอดงานที่เป็นมรดกศาสนฑูตมุฮัมมัด ที่ยืนหยัดบนสัจธรรม ภายใต้อำนาจมืดที่ได้คุกคามท่านหรือจะมอบทรัพย์สินซื้อท่าน”

สำหรับแถลงการณ์ ระบุว่า

“เมื่อรัฐไม่ฟังเสียงประชาชน เราจะยกระดับการต่อสู้ทุกวิถีทางภายใต้หลักการอิสลามและกฎหมายในการต่อสู้ปกป้องจะนะ”

การอ้างว่า การยื่นขอแก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดสงขลา  เป็นการดำเนินมาตรา 35 ของ พรบ.การผังเมือง 2562 ที่การแก้ไขผังเมืองรวมเฉพาะบริเวณให้เหมาะกับสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปนั้น    

ยังไม่ใช่เหตุผลที่สมควรต่อการจะเปลี่ยนผังเมือง จากพื้นที่เกษตร เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม เป็นเมืองอุตสาหกรรม

เพราะการแก้ไขผังเมืองนั้น ยังต้องทำตามมาตรา 27  ด้วย โดยเฉพาะมาตรา 27 วรรค 3  ที่ต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือมาตรฐานเกี่ยวกับการผังเมือง  และไม่ต้องทำให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะ

ดังนั้น จะเห็นว่า พื้นที่บริเวณตำบลนาทับ ตลิ่งชัน และสะกอม  ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมหลัก  เพราะยังคงเป็นพื้นที่เกษตร ประมง ชุมชนยังมีวิถีชีวิตเกษตรกรรมเป็นหลัก  และวิถีเกษตร ประมงนี้ไม่ได้ก่อความเสียหายใดๆ  แต่เกษตรและประมงนี้ คือความมั่นคงของเศรษฐกิจชุมชนภาคใต้มายาวนาน  และเป็นเศรษฐกิจที่รักษาระบบนิเวศ ความมั่นคงทางอาหารของประเทศด้วย

และ ตามมาตรา 36 ของ พรบ.การผังเมือง 2562 

เพื่อให้การพัฒนาเมืองและการดำรงรักษาเมืองในพื้นที่ที่มีการวางและจัดทำผังเมืองบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  เมื่อมีประกาศกระทรวงมหาดไทยหรือข้อบัญญัติท้องถิ่นให้ใช้บังคับผังเมืองรวมแล้ว   การดำเนินโครงการพัฒนาภาครัฐทางด้านกายภาพจะต้องสอดคล้องกับนโยบายและการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวม

ดังนั้น โครงการเมืองอุตสาหกรรมจะนะ อันเป็นแผนลงทุนเอกชน ที่ ศอ.บต เสนอให้เป็นพื้นที่สีม่วง คือ อุตสาหกรรมนั้น ไม่สอดคล้องกับผังเมืองรวมจังหวัดสงขลาที่ประกาศใช้บังคับในปัจจุบัน  

หากจะเปลี่ยนแก้ไข ก็จะต้องเป็นหลักการตามมาตรา 36 ด้วย

และมาตรา 35 และ 36  นี้ 

มิใช่มีเพื่อ แก้ให้สิ่งที่ผิด กลายเป็นถูก

มิใช่ มีเพื่อแก้ไขสิ่งที่ได้มีการศึกษาแล้วห้าม  เพราะเป็นการใช้ประโยชน์ขัดแย้ง มีผลกระทบกับการเกษตรและประมง   ให้กลายเป็น เลิกห้าม และให้ทำ เพราะเป็นแผนลงทุน นโยบายรัฐ

แม้มีมติ ครม.แต่ก็ต้องเคารพกฎหมายผังเมืองด้วย

กระบวนการวางผังจังหวัดสงขลาก่อนประกาศตามกฎหมายก็ได้มีการศึกษาแผนการลงทุนทุกด้าน มีการศึกษานโยบายรัฐและเอกชนแล้ว   จึงกำหนดเป็นข้อห้าม  และผ่านการเห็นชอบให้ “#ห้ามอุตสาหกรรม”

แม้ว่ากฎหมาย มีข้อบัญญัติให้ปรับปรุงแก้ไขผังเมืองได้ก็จริง  แต่ต้องมีการศึกษา ประเมินผลด้วยว่าควรปรับปรุง

#การปรับปรุงแก้ไขผังเมืองมิใช่การแก้สิ่งที่ผิดให้กลายเป็นสิ่งที่ถูก

ในขณะที่ก่อนหน้านี้เราได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านนายอำเภอจะนะและศอ.บต.ให้ทบทวนโครงการนี้และทางศอ.บต.เคยสัญญากับชาวบ้านผ่านสื่อและส่งคนมารับปากกับเรา(มีคลิปยืนยัน)

ว่า “จะไม่นำผลของการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน(11 กรกฎาคม 2563)เพื่อเปลี่ยนแปลงผังเมือง 

เมื่อรัฐไม่ฟังเสียงประชาชน เรายกระดับการต่อสู้ทุกวิถีทางภายใต้หลักการอิสลามและกฎหมายในการต่อสู้ปกป้องจะนะ “เมืองอุลามาอ์ เมืองวิชาวิชาการอิสลาม และวิถีชีวิตชุมชนอันเป็นแหล่งอาหารทั้งสมอง ประมงและเกษตรกรรม ของชาติและอาเซียนซึ่งวิกฤตโควิดได้เป็นบทเรียนเราว่า “เมืองอุตสาหกรรมมิใช่คำตอบโดยเรียกร้องดังนี้

1.-ยกเลิกมติครม.ต่อเรื่องนี้

2-ยกเลิกมติคณะกรรมการเปลี่ยนผังเมือง

ในท้ายนี้เราเรียกร้องกับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันปอเนาะ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีนักเรียนและบุคลากรกว่าแสนคนออกมาร่วมยืนหยัดกับหลักการอิสลามกับพวกเรา

เครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจะนะ จังหวัดสงขลา

2 ตุลาคม 2563