ฮาอะเร็ตส์/ซานา – อิสราเอลโจมตีเป้าหมายทางตอนใต้ของซีเรียเมื่อวันพุธ (6 ม.ค.) ที่ผ่านมา เป็นการโจมตีครั้งที่สามในรอบเกือบ 10 วัน โทรทัศน์ของทางการซีเรียรายงานว่า ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่ฐานทางทหารของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) ในซีเรีย
โฆษกกองทัพซีเรียกล่าวว่า ขีปนาวุธถูกยิงจากที่ราบสูงโกลานที่ถูกยึดครอง กำหนดเป้าหมายไปยังสถานที่หลายแห่ง และระบบป้องกันทางอากาศสามารถสกัดขีปนาวุธได้หลายลูก จากรายงานสดของสื่อเผยให้เห็นตึกหลายชั้นที่ถูกไฟไหม้
“ระบบป้องกันทางอากาศของเราตอบสนองต่อการรุกรานทางอากาศของอิสราเอล … ในบางเป้าหมายในภาคใต้” สื่อของรัฐอ้างคำกล่าวของโฆษกกองทัพซีเรีย
แหล่งข่าวทางทหารสองคนกล่าวว่า การโจมตีทางอากาศดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่คิสวะห์ (Kisswa) ทางตอนใต้ของเมืองหลวงดามัสกัสและฐานทัพทหารที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ของเลบานอนใช้
ยังไม่มีความเห็นในทันทีจากโฆษกกองทัพอิสราเอล แต่ พล.ท. อาวีฟ โคชาวี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ IDF กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธได้ “ชะลอการเข้ายึดครองของอิหร่านในซีเรีย”
“เราได้ถล่มเป้าหมายไปแล้วกว่า 500 เป้าหมาย ในทุกแนวรบ นอกเหนือจากภารกิจลับหลายอย่าง” โคชาวี กล่าวในความคิดเห็นที่เผยแพร่ในสื่อของอิสราเอล
ฐานทัพในภาคตะวันออกภาคกลางและภาคใต้ของซีเรียถูกอิสราเอลโจมตีในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาโดยเชื่อว่ามีกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
ฮาอะเร็ตส์สื่ออิสราเอลรายงานอ้างแหล่งข่าวจากตะวันตกกล่าวว่า การที่อิสราเอลเพิ่มการโจมตีซีเรียในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเงาที่ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ และเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่อต้านอิหร่าน เพื่อบ่อนทำลายอำนาจทางทหารที่กว้างขวางของอิหร่านในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญเพิ่มขึ้นในการสู้รบ
พวกเขากล่าวว่าปีที่ผ่านมาได้เห็นการขยายตัวของเป้าหมายที่อิสราเอลโจมตีไปทั่วซีเรีย ซึ่งกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านหลายพันคนมีส่วนร่วมในการยึดคืนดินแดนส่วนใหญ่ที่ประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัสซาด เสียไปให้กับผู้ก่อความไม่สงบในสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อเกือบทศวรรษ