ชาติอาหรับยังคงนิ่งเงียบกับการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย

ท่ามกลางกระแสถกเถียงกันเกี่ยวกับเป้าหมายการโจมตีของรัสเซียที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นโยบายภายในประเทศบังคับให้ไคโรสนับสนุนปฏิบัติการของมอสโก

(ภาพ) ชายคนหนึ่งมองท้องฟ้าหลังมีการโจมตีทางอากาศในบริเวณที่ฝ่ายกบฏยึดไว้ในดามัสกัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (AFP)

ประเทศอาหรับที่แบ่งฝ่ายกันด้วยเรื่องชะตากรรมของประธานาธิบดีบะชัร อัล-อัสซาด ยังคงนิ่งเงียบกับการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรีย นอกจากไคโร ที่สนับสนุนปฏิบัติการของมอสโกอย่างเปิดเผย ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

“โลกอาหรับขาดผู้นำระดับภูมิภาคจากภายในภูมิภาคนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และในช่องว่างนั้น สหรัฐฯ และรัสเซียได้เข้ามาจัดการ” HA Hellyer ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายตะวันออกกลางของศูนย์ Brookings Center ที่ตั้งอยู่ในวอชิงตัน กล่าว

“มีสัญญาณบางอย่างว่าบางคนหวังที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนั้นจากภายในภูมิภาค แต่ตัวแรกของการเป็นผู้นำกำลังแสดงให้เห็นอยู่ในการเข้าแทรกแซงเยเมนของอาหรับหลายฝ่าย และมันไม่ใช่ตัวอย่างให้ความหวังใดๆ เลย” เขากล่าว โดยอ้างถึงแนวร่วมปฏิบัติการที่นำโดยซาอุดี้ฯ ต่อกบฏชีอะฮ์ที่คิดว่าได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน มหาอำนาจชาติหนึ่งในภูมิภาค

มอสโกเปิดฉากโจมตีทางอากาศในซีเรียสัปดาห์ที่แล้ว แต่กลับได้รับความไม่พอใจจากฝ่ายต่อต้านอัสซาดสายกลางที่ตะวันตกหนุนหลังม

ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์รัสเซียอย่างรุนแรง โดยกล่าวว่าปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียมีแต่จะทำให้ไอเอสแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

แต่ชาติอาหรับรวมทั้งซาอุดิอารเบียและกาตาร์ สมาชิกแนวร่วมนำโดยสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติการโจมตีไอเอสมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงขณะนี้ยังคงระงับการกล่าวแถลงการณ์ใดๆ นอกจากแถลงการณ์ร่วมฉบับหนึ่งโดยพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้มอสโกหยุดปฏิบัติการดังกล่าว “ทันที” และ “มุ่งเน้น” ไปที่ไอเอสเท่านั้น

มุมมองที่แปลกแยก

เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่มอสโกจะเปิดปฏิบัติการทิ้งระเบิดเมื่อวันพุธที่แล้ว นายอาเดล อัล-ญูบีร รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดี้ฯ ยืนยันว่า “ไม่มีที่ว่างสำหรับอัสซาดในอนาคตของซีเรีย”

แต่ไม่ใช่ว่ารัฐบาลอาหรับทั้งหมดจะต่อต้านการเข้าแทรกแซงในซีเรียของรัสเซีย

อียิปต์ ประเทศอาหรับสายซุนนีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และอวดอ้างว่ามีกองทัพที่ครบครันที่สุดและใหญ่ที่สุดในภูมิภาค แสดงการต้อนรับปฏิบัติการของรัสเซียว่าเป็นมาตรการที่ใช้ต่อสู้กับกลุ่มนักรบอย่างพวกไอเอส

“เราเชื่อว่า (การแทรกแซงของรัสเซีย) จะส่งผลกระทบในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย และช่วยกำจัดมันออกไป” นายซาเมห์ ชุกรี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ กล่าวในนิวยอร์คเมื่อวันเสาร์

ความสัมพันธ์ระหว่างไคโรกับมอสโกกำลังเบ่งบานในช่วงนี้ ด้วยการที่ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี สร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับรัสเซีย หลังจากที่ความสัมพันธ์ของอียิปต์กับวอชิงตันซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ตึงเครียดลงหลังจากการโค่นล้มประธานาธิบดีมุฮัมมัด มุรซี ในปี 2013 โดยนายพลซีซีในขณะนั้น

การสลายการชุมนุมของรัฐบาลที่กระทำต่อผู้สนับสนุนมุรซี อันทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และอีกหลายหมื่นคนถูกจำคุก สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งแก่วอชิงตัน แม้ว่ามันจะจางไปในช่วงหลายเดือนมานี้

“รัสเซียเป็นกังวลกับการต้านทานต่อกลุ่มก่อการร้าย และเป้าหมายในการเข้าแทรกแซงก็คือเพื่อโจมตีกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียอย่างหนักหน่วง การโจมตีอยู่ในแนวเดียวกันกับการโจมตีของแนวร่วมต่อต้านดาอิชในซีเรียลิรัก” ที่นำโดยวอชิงตัน ชุกรีกล่าว โดยใช้คำภาษาอาหรับที่หมายถึงกลุ่มไอเอส

การนิ่งเงียบของโลกอาหรับเป็นสิ่งที่คาดไว้แล้ว และมันสะท้อนถึงความแตกแยกว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรในซีเรีย ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

“ไคโรค่อยๆ ยอมรับมุมมองของมอสโกที่มีต่อซีเรีย ซึ่งแตกต่างกันอย่างสุดกู่กับมุมมองของริยาด” Hellyer กล่าว

“สำหรับซาอุดี้ฯ เป้าหมายหลักทางยุทธศาสตร์ยังคงอยู่ที่การโค่นล้มการปกครองของอัสซาด ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไปกันไม่ได้กับผลประโยชน์ของรัสเซีย” คาริม บิตาร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกี่ยวกับอาหรับของสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์ (Institute of International and Strategic Relations) ที่ตั้งอยู่ในปารีส กล่าว

ในทางตรงข้าม “ซีซีของอียิปต์เข้ากันได้กับนโยบายของ (ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์) ปูตินมากกว่า ซึ่งเป็นการพยายามฟื้นฟูค่ายของลัทธิชาตินิยมเผด็จการขึ้นมาต่อหน้าขบวนการอิสลาม”

ถ้าแม้นว่าซาอุดิอารเบียต้องการที่จะโค่นล้มรัฐบาลดามัสกัส มันก็มีนโยบายต่างประเทศ “ที่น่าสับสน” เหมือนที่เห็นชัดเจนจากการที่เข้าแทรกแซงในเยเมน Yezid Sayegh ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับซีเรียของศูนย์คาร์เนกี้ตะวันออกกลางกล่าว

“มันไม่รู้ว่าต้องทำอะไรหรือทำอย่างไร ซาอุดี้ฯ มาถึงขีดจำกัดแล้ว” เมื่อมันมาถึงซีเรีย เขากล่าว

 

แปลจาก http://www.middleeasteye.net