ยาฮูนิวส์ – ด้วยจุดมุ่งหมายในการรักษาคัมภีร์กุรอานให้คงอยู่ตลอดไป โครงการ Quran Verse NFT โดยอิสลามิซิตี้ (IslamiCity) จึงเป็นตัวอย่างแรกในการสร้างพระคัมภีร์อิสลามทั้งเล่มเป็นโทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (Non-Fungible Tokens) หรือ เอ็นเอฟที (NFTs) บนบล็อคเชน (Blockchain) ซึ่งเมื่ออยู่บนบล็อกเชนแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขหรือลบ NFT เหล่านี้ได้ ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของบันทึกถาวร
“ในทุกยุคสมัย คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ได้รับการถ่ายทอดผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น” โมฮัมหมัด อาลีม ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ IslamiCity กล่าว “ในช่วงกลางปีค.ศ. 1400 มันคือ Gutenberg Press จากนั้นเป็นอินเทอร์เน็ต วันนี้เป็นบล็อกเชน โดยเป้าหมายยังคงเหมือนเดิมคือ รักษาข้อความศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้และเผยแพร่สู่สาธารณะ”
การนำคัมภีร์อัลกุรอานทั้งหมดไปไว้บนเทคโนโลยีบล็อคเชนทำให้เกิดข้อได้เปรียบที่ชัดเจนสำหรับทั้งฉบับพิมพ์และฉบับดิจิทัล เนื่องจากลักษณะการกระจายศูนย์ (decentralized) บล็อกเชนจึงไม่สามารถแก้ไขหรือเซ็นเซอร์ได้
“ข้อมูลบนเว็บไซต์สามารถลบออกหรือแฮ็กได้อย่างง่ายดายโดยหน่วยงานหรือรัฐบาลด้วยเหตุผลหลายประการ” ญิฮัด เติร์ก ประธานผู้ก่อตั้งและคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยอิสลามแห่งบายันกล่าว “บล็อกเชนป้องกันการจัดการดังกล่าว ในขณะที่เราส่งต่อคัมภีร์อัลกุรอานผ่านประเพณีปากเปล่าและความทรงจำร่วมกันของชุมชนมุสลิม บล็อกเชนทำหน้าที่เป็น ‘ความทรงจำ’ ของอินเทอร์เน็ต โดยใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อรักษาและนำเสนออย่างซื่อสัตย์ อัลกุรอานเติมเต็มความรับผิดชอบร่วมกันของเราในการถ่ายทอดข้อความนี้ไปยังมนุษยชาติอย่างถูกต้อง”
การเก็บรักษาข้อความศักดิ์สิทธิ์บนบล็อคเชนใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อน โดยพระคัมภีร์ไบเบิลภาค “พันธสัญญาเดิม” (Old Testament) ก็ได้ถูกสร้างไว้เป็น NFTs เมื่อปีที่แล้วเช่นกัน
โครงการ Quran Verse ประกอบด้วย 6,236 NFTs โดยหนึ่ง NFT สำหรับแต่โองการ (อายะฮ์) ของคัมภีร์กุรอาน และ NFT แต่ละรายการมีข้อมูลเชิงบริบทและประวัติศาสตร์เกี่ยวกับข้อที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้องค์กรอิสลามิซิตี้ได้ขายไปแล้วกว่า 500 NFTs ในราคา 45,000 ดอลลาร์ก่อนการเปิดตัวครั้งนี้
รายได้จากการขาย NFTs จะถูกใช้เป็นทุนในการสร้างเมตาเวิร์ส (Metaverse) อิสระของมุสลิมที่เรียกว่า Ummah Network (อุมมะห์เน็ตเวิร์ก) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้อำนาจแก่ชาวมุสลิมทั่วโลกในการประสานงานโครงการสาธารณะในพื้นที่ web3 โปรเจ็กต์แรกของเครือข่ายคือแอป Quran+ ซึ่งปรับแต่งมาเพื่อให้คนรุ่นแรกในโลกดิจิทัลเข้าใจและมีส่วนร่วมกับคัมภีร์อัลกุรอานมากขึ้น
คัมภีร์กุรอานฉบับ NFTs ปัจจุบันมีให้บริการบน OpenSea.io
สำหรับ IslamiCity เป็นสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มการศึกษาที่นำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับศาสนาอิสลามและมุสลิมกับทุกคนและทุกที่ เป็นความคิดริเริ่มของ HADI ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสาธารณประโยชน์ที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ
With the aim of preserving the #Quran in perpetuity, the Quran Verse #NFT project by @IslamiCity is the first instance of minting the entire Islamic scripture as Non-Fungible Tokens (#NFTs) on the #blockchain. @quranplusapp @IslamiCity https://t.co/7jE6KKoM2J
— Ibrahim Hooper (@ibrahimhooper) November 8, 2022