คูเวตเรียกทูตกลับประเทศ ลดสัมพันธ์อิหร่าน

การประท้วงของชาวอิหร่านหน้าสถานทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 59 อันเนื่องมาจากการประหารชีวิต เชค นิมร์ (Photo by AFP)

เพรสทีวี – คูเวตเรียกทูตกลับจากกรุงเตหะรานตามรอยซาอุดีอาระเบียในการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน สืบเนื่องจากการวิจารณ์การดำเนินการของราชอาณาจักรซาอุในการประหารนักการศาสนามุสลิมชีอะห์

ประเทศเล็ก ๆ ในอ่าวเปอร์เซียแห่งนี้ยังได้เรียกทูตอิหร่านประจำคูเวตมาพบเพื่อตำหนิต่อกรณีสถานทำการทางการทูตของซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีโดยผู้ประท้วงที่โกรธแค้นอันเนื่องมาจากการประหารชีวิตเชค นิมร์

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสถานทางการทูตของซาอุ “แสดงให้เห็นถึงการละเมิดอย่างเห็นได้ชัดต่อข้อตกลงและบรรทัดฐานระหว่างประเทศ” สำนักข่าวทางการคูเวตรายงานอ้างถ้อยแถลงกระทรวงต่างประเทศ

เจ้าหน้าที่อิหร่านกล่าวว่า ได้จับตัวผู้ประท้วงราว 50 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณสถานทูตซาอุฯ ในกรุงเตหะรานและสถานกงสุลเมืองมัชฮัด

ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ได้ประณามการโจมตีดังกล่าว และให้คำมั่นที่จะจัดการผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ซาอุดีอาระเบียใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโจมตีอิหร่าน และในวันอาทิตย์ (3 ม.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศ อาเดล อัลจูเบร์ กล่าวว่า ราชอาณาจักรซาอุฯ ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านทั้งหมด

ต่อมา บาห์เรน และ ซูดาน ก็ได้ปฏิบัติตามซาอุฯ ตามมาด้วยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ได้ลดระดับความสัมพันธ์

ในบรรดาชาติอาหรับ มีเพียงโอมานที่ได้วิพากษ์วิจารณ์บทบาทของซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งหลายประเทศทั่วโลกที่เห็นว่าการตัดสินใจดังกล่าวได้เพิ่มความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคซึ่งมีความผันผวนอยู่แล้ว

การดำเนินการซาอุดีอาระเบียได้รับการวิจารณ์- แต่อย่างนิ่มนวล – จากสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรของอาณาจักรซาอุเอง

อิหร่าน ได้กล่าวว่า ผู้ปกครองซาอุกำลังพยายามเบี่ยงเบนความสนใจผลกระทบจากการประหารเชค นิมร์ และปัญหาอื่นๆ ในประเทศโดยการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต