วันนี้ (3 ต.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น.เวลาไทย “ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์” ผู้นำฮิซบุลเลาะห์ ขบวนการต่อสู้แห่งเลบานอน ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มสงครามอิสราเอล-ฮามาสในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์เริ่มกล่าวสุนทรพจน์โดยยกย่อง “ผู้พลีชีพที่เสียชีวิต” ของฮิซบุลเลาะห์และกลุ่มอื่นๆ ที่ต่อสู้กับอิสราเอล เช่นเดียวกับพลเรือนที่ถูกสังหาร
“ข้าพเจ้าเริ่มต้นด้วยการขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเลบานอน และในขณะเดียวกัน เราก็ขอแสดงความยินดีกับคุณ เมื่อคนที่คุณรักได้รับเกียรติแห่งการพลีชีพในหนทางของพระเจ้า”
ผู้นำฮิซบุลเลาะห์ยัง “แสดงความเสียใจและแสดงความยินดี” กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง รวมถึงผู้เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการพายุอัล-อักซอของฮามาส
“นี่เป็นการต่อสู้ที่ไร้รอยต่อทั้งในระดับมนุษยธรรม จริยธรรม และศาสนา ชัดเจนที่สุด ซื่อสัตย์ที่สุด และมีเกียรติที่สุด”
“ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเราอยู่ที่ความศรัทธาอันแน่วแน่ ความเชื่อมั่นที่ไม่สั่นคลอน ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นของเรา”
นัสรุลเลาะห์ กล่าวต่อว่า “เราต้องขอยกย่อง…มือที่เข้มแข็งและกล้าหาญชาวอิรักและเยเมนซึ่งขณะนี้มีส่วนร่วมในสงครามศักดิ์สิทธิ์นี้”
ผู้นำฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่า ปฏิบัติการพายุอัล-อักซอทำให้เกิดแผ่นดินไหวใน [อิสราเอล] มันมีผลกระทบเชิงกลยุทธ์และอัตถิภาวนิยม และจะทิ้งผลกระทบต่อปัจจุบันและอนาคตของ [อิสราเอล]
เขาบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในกาซ่าเป็นเครื่องยืนยันว่าอิหร่านไม่ได้ครอบงำใดๆ ต่อขบวนการต่อสู้ และผู้มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริงคือผู้นำของขบวนการต่อสู้
แต่ในทางกลับกันผู้นำฮิซบุลเลาะห์ชี้ว่า “เราเห็นประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่งประธานาธิบดี รัฐมนตรี นายพล คลังแสง และเงินหลายพันล้านของพวกเขา เพื่อสนับสนุนองค์กรที่ผิดกฎหมายนี้ (อิสราเอล)”
นัสรุลเลาะห์กล่าวว่า ปฏิบัติการของฮามาสได้เปิดฉากประวัติศาสตร์ใหม่ในการต่อสู้กับอิสราเอล
เขากล่าวว่า การตัดสินใจของกลุ่มต่อสู้แห่งปาเลสไตน์ในการเปิดปฏิบัติการพายุอัลอักซอนั้นถูกต้อง ชาญฉลาด และกล้าหาญ โดยเสริมว่าได้ดำเนินการในเวลาที่เหมาะสม
ผู้นำฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่า หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลในขณะนี้คือการตั้งเป้าหมายที่ไม่สามารถทำได้
นัสรุลเลาะห์กล่าวว่า อิสราเอลสามารถนำเชลยที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซากลับคืนมาได้ด้วยการเจรจา
เขาเสริมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาแสดงให้เห็นถึงความโง่เขลาและการไร้ความสามารถของอิสราเอล เพราะสิ่งที่กำลังทำคือการฆ่าเด็กและสตรี
ผู้นำฮิซบุลเลาะห์บอกว่าอิสราเอลนั้น ““เปราะบางยิ่งกว่าใยแมงมุม” และกล่าวว่าตลอดทั้งเดือนไม่สามารถบันทึกความสำเร็จทางทหารได้แม้แต่ครั้งเดียว
เขากล่าวว่าเป้าหมายของอิสราเอลที่จะบดขยี้กลุ่มฮามาสโดยสิ้นเชิงนั้นเป็นไปไม่ได้
เขากล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อสงครามในฉนวนกาซาโดยสิ้นเชิง และเรียกอิสราเอลว่าเป็นเพียงเครื่องมือบริหารเท่านั้น
ผู้นำฮิซบุลเลาะห์เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ในฉนวนกาซาว่าเป็นการต่อสู้ขั้นเด็ดขาดที่ไม่เหมือนกับสงครามครั้งก่อนๆ
นัสรุลเลาะห์ยังสรุปเป้าหมายสองประการ เป้าหมายแรกคือการหยุดสงครามในฉนวนกาซา และเป้าหมายที่สองคือเพื่อให้กลุ่มฮามาสได้รับชัยชนะในสงครามครั้งนี้
นัสรุลเลาะห์กล่าวว่าประเทศอาหรับและมุสลิมควรทำงานร่วมกันเพื่อหยุดสงครามในฉนวนกาซา
เขาเสริมว่า “ศัตรู” กำลังคุกคามประเทศเลบานอนและชาวเลบานอนในขณะที่มันกำลังจมอยู่ในผืนทรายของฉนวนกาซา
นัสรุลเลาะห์กล่าวว่า กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ได้เข้าสู่การสู้รบตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม หนึ่งวันหลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีทางตอนใต้ของอิสราเอล
เขากล่าวว่าการยิงปะทะกับกองกำลังอิสราเอลทุกวันตามแนวชายแดนเลบานอนอาจดูเรียบง่ายแต่มีความสำคัญมาก โดยเรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ปี 1948
นัสรุลเลาะห์ยังยืนยันด้วยว่าจนถึงขณะนี้มีนักรบฮิซบุลเลาะห์ 57 คนแล้วที่ถูกสังหาร
นัสรุลเลาะห์กล่าวต่อว่า กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ได้เพิ่มการปฏิบัติการของตนในแต่ละวัน ซึ่งบังคับให้อิสราเอลต้องคงกองกำลังหนึ่งในสามของตนไว้ใกล้ชายแดนเลบานอน แทนที่จะเป็นฉนวนกาซาหรือเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
ผู้นำกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ยังกล่าวอีกว่า มีความเป็นไปได้อย่างแท้จริงที่แนวรบเลบานอนจะขยายลุกลามเป็นวงกว้าง
เขาเตือนว่าการพัฒนาดังกล่าวขึ้นอยู่กับการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซา
เขาบอกว่า กลุ่มฮิซบุลเลาะห์พร้อมสำหรับความเป็นไปได้ทั้งหมด
ผู้นำกลุ่มฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่า ผู้ใดที่ต้องการป้องกันมิให้เกิดสงครามในภูมิภาค ก็ต้องหยุดการรุกรานของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาโดยเร็ว
