เด็กหลายพันคน ที่มีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงอายุ 7 ปี กำลังทำงานอยู่ในเหมืองที่อันตรายซึ่งผลิตแร่สำหรับเป็นพลังงานในเครื่องโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และแบตเตอรี่รถทั่วโลก
อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า 16 แบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดระดับโลก รวมทั้ง แอปเปิ้ล โซนี่ และไมโครซอฟท์ ถูกกล่าวหาว่าล้มเหลวในการมีความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุด ในการจัดหาวัตถุดิบบางอย่างที่มีในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC)
บริษัทใหญ่เหล่านี้มีความล้มเหลวในการ “ตรวจสอบเบื้องต้น” เพื่อให้แน่ใจว่า “โคบอลต์” ที่ถูกขุดโดยแรงงานเด็กจะไม่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของตน องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) และ แอฟริวอทช์ (Afrewatch) ระบุในรายงานสำคัญชิ้นล่าสุด
รายงานอ้างว่า มีเบาะแสของการขายโคบอลต์ที่ใช้ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจากเหมืองแร่ที่เด็กและผู้ใหญ่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอันตราย
เมื่อมีการติดต่อจากองค์การนิรโทษกรรมฯและแอฟริวอทช์ บริษัทเหล่านั้นกล่าวว่าพวกเขามี “นโยบายต่อต้านการใช้แรงงานเด็กอย่างเคร่งครัด” (zero tolerance policy) แต่นักวิจารณ์กล่าวว่า มันมีเพียงกฎเกณฑ์ที่กระจ้อยร่อยสำหรับเหมืองแร่ในคองโกและตลาดโคบอลต์ทั่วโลก
เด็กสามารถทำงานได้ถึง 12 ชั่วโมงสำหรับรายได้เล็กน้อยที่เพียงได้ตาม 1-2 เหรียญสหรัฐ ต่อวัน (35-70 บาท) ในการทำงานเหมืองแร่โคบอลต์ที่ผิดกฎหมาย นักวิจัยกล่าว
โคบอลต์ส่วนใหญ่ที่มาจากเหมืองแร่โคบอลต์ผิดกฎหมายในคองโก จะขายให้กับบริษัทถลุงแร่ที่มีชาวจีนเป็นเจ้าของ ซึ่งจะถูกส่งต่อไปเป็นส่วนประกอบในการทำแบตเตอรี่ตามโรงงานทั่วโลก
แอปเปิ้ลกล่าวว่า ตนน้อมรับ “ข้อกังวลทุกประการอย่างจริงจัง และจะตรวจสอบข้อกล่าวอ้างทุกประการ” ด้านโซนี่กล่าวว่า จะดำเนินการสืบสวนหา “ข้อเท็จจริง” ขณะที่ ไมโครซอฟท์กล่าวว่า ตนไม่ได้ใช้โคบอลต์จากบริษัทจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการค้ากับคองโก