กองทัพอากาศรัสเซียเริ่มลาดตระเวนตามแนวชายแดนที่ราบสูงโกลัน นักวิเคราะห์อิสราเอลชี้ เป้าหมายที่แท้จริงเครมลินพยายามแทรกแซงและขัดขวางอิสราเอลจากการโจมตีอิหร่าน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียลำหนึ่งที่บินใกล้แนวหยุดยิงในดินแดนซีเรียถูกพบเห็นจากที่ราบสูงโกลัน เฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียลำนี้บินไปตามเส้นทางดังกล่าวเป็นเวลาหลายนาที จากนั้นหันกลับไปทางทิศตะวันออกลึกเข้าไปในซีเรีย
กองทัพอากาศอิสราเอลติดตามเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว โดยแจ้งเตือนกองกำลัง IDF และกองกำลังป้องกันทางอากาศของตนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ข้ามแนวหยุดยิงเข้าสู่ดินแดนอิสราเอลใกล้กับที่ราบสูงโกลัน ทางกองทัพอากาศอิสราเอลจึงไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม
วันรุ่งขึ้น (18 ม.ค.) หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักข่าว TASS ของทางการรัสเซียรายงานว่า กองกำลังการบินและอวกาศของรัสเซียได้เริ่มลาดตระเวนตามแนวที่เรียกว่า “บราโวไลน์” (Bravo Line) ระหว่างอิสราเอลและซีเรียเพื่อ “ติดตามสถานการณ์”
“เพื่อติดตามสถานการณ์ หน่วยการบินของกองกำลังการบินและอวกาศรัสเซียได้จัดให้มีการลาดตระเวนทางอากาศตามแนวเส้นแบ่งกองกำลังติดอาวุธของอิสราเอลและสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย (เส้นบราโว)” พล.ร.ต. วาดิม คูลิท ของรัสเซียกล่าวตามรายงานของสำนักข่าว TASS
อย่างไรก็ตาม วายเน็ตนิวส์ สื่ออิสราเอล ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ในวันจันทร์ 22 ม.ค. ชี้ว่า เป้าหมายที่แท้จริงของมอสโกไม่ได้เป็นเพียงการติดตามเท่านั้น แต่เครมลินพยายามแทรกแซงและขัดขวางอิสราเอลจากการโจมตีเป้าหมายชาวอิหร่านในซีเรีย เช่นเดียวกับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์และเครือข่ายปาเลสไตน์ที่ปฏิบัติการในซีเรีย
“ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้หน้ากากของการเฝ้าสังเกตสถานการณ์ตามแนวหยุดยิงอิสราเอล-ซีเรียอย่างเห็นได้ชัด”
วายเน็ตนิวส์ย้ำ
บทวิเคราะห์จากสื่ออิสราเอลยังชี้ด้วยว่า เป็นที่แน่ชัดว่าการมีอยู่ของเฮลิคอปเตอร์รัสเซียหรือเครื่องบินอื่นๆ ในภูมิภาคที่ราบสูงโกลัน เป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการของอิสราเอลในน่านฟ้านี้
ทั้งนี้ตามรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่า การโจมตีส่วนใหญ่ในซีเรียที่เกิดจากอิสราเอลจะปฏิบัติการผ่านจากดินแดนที่ราบสูงโกลันและทางตอนเหนือของอิสราเอล
การปรากฏของรัสเซียและความยากลำบากของอิสราเอล
สื่ออิสราเอลระบุว่า การมีอยู่ของเครื่องบินทหารของรัสเซียในภูมิภาคนี้ขัดขวางการปฏิบัติการของกองทัพอากาศอิสราเอล และรัสเซียสามารถโต้เถียงกับอิสราเอลว่า กิจกรรมของกองทัพอากาศอิสราเอลต่อเป้าหมายในซีเรียจากที่ราบสูงโกลานและทางตอนเหนือของอิสราเอลเป็นอันตรายต่อเครื่องบินและบุคลากรของรัสเซียที่อยู่ในภูมิภาคโดยตรง
การกล่าวอ้างนี้อาจอิงจากเหตุการณ์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 เมื่อกองทัพอากาศอิสราเอลกำหนดเป้าหมายคลังอาวุธและคลังกระสุนทางตะวันตกของซีเรีย และระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียพยายามที่จะสกัดกั้นเครื่องบิน โดยได้ยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศหลายสิบลูก และได้ยิงเครื่องบินลาดตระเวนของรัสเซียลำหนึ่งที่บรรทุกทหาร 15 นายตกโดยไม่ได้ตั้งใจ
“การมีอยู่ของกองกำลังรัสเซียตามแนวชายแดนติดกับซีเรียเป็นการส่งสัญญาณไปยังอิสราเอลว่าเครมลินไม่พอใจกับการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นของอิสราเอลต่อซีเรีย ฮิซบุลเลาะห์ และผลประโยชน์ของอิหร่าน เป็นที่แน่ชัดว่ารัสเซียเรียกร้องให้มีการลดหรือยุติปฏิบัติการเหล่านี้ โดยไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน” สื่ออิสราเอลระบุ
นักวิเคราะห์ของวายเน็ตนิวส์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าคำแถลงรัสเซียว่าได้เริ่มลาดตระเวนตามแนวที่เรียกว่า “บราโวไลน์” ก็คือ ได้มีการออกแถลงการณ์ในนามของพลเรือตรีวาดิม คูลิท รองหัวหน้าศูนย์สมานฉันท์รัสเซียสำหรับซีเรีย ซึ่งเป็นกลไกที่ทำงานเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยบัญชาการรัสเซียในซีเรียและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ศูนย์สมานฉันท์รัสเซียสำหรับซีเรียทำหน้าที่เป็นสื่อกลางทางการทูตระหว่างอิสราเอลและซีเรียเมื่อประมาณห้าปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ระบอบการปกครองของซีเรียฟื้นการควบคุมที่ราบสูงโกลานผ่านข้อตกลงกับกลุ่มซุนนี ซึ่งทั้งใกล้ชิดหรือเกี่ยวข้องกับญับฮัต อัล-นุสรา องค์กรหัวรุนแรงซุนนีที่กบฏต่อการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด