รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน อับบาส อารักชี แถลงในวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.) ต่อเอกอัครราชทูตต่างชาติประจำเตหะรานว่า อิหร่านมีหลักฐานชัดเจนว่ากองกำลังสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในการโจมตีสาธารณรัฐอิสลาม พร้อมเตือนวอชิงตันให้ถอนตัวออกจากความขัดแย้งโดยทันที
อารักชีย้ำว่า อิหร่านมีสิทธิในการป้องกันตนเองและตอบโต้ต่อการโจมตีของอิสราเอลที่พุ่งเป้าไปยังพื้นที่นิวเคลียร์ ทหาร และพลเรือนตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า “ระบอบไซออนิสต์ไม่อาจดำเนินการรุกรานเช่นนี้ได้ หากปราศจากการสนับสนุนจากสหรัฐฯ”
รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าวเพิ่มเติมว่า หลักฐานที่มีอยู่นั้นครอบคลุมและชัดเจน แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการแสดงออกอย่างเปิดเผยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนอิสราเอล ซึ่งเท่ากับทำให้สหรัฐฯ กลายเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” และต้องรับผิดชอบ
อารักชียังเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนและประณามการโจมตีของอิสราเอล พร้อมตำหนิคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เพิกเฉยต่อการรุกรานดังกล่าว
เขายืนยันว่า การโจมตีของอิหร่านต่อเป้าหมายทางทหารและเศรษฐกิจในดินแดนที่ถูกยึดครองเป็นการป้องกันตนเอง โดยระบุว่าในระลอกแรก อิหร่านมุ่งเป้าไปยังเป้าหมายทางทหาร แต่เมื่ออิสราเอลเริ่มโจมตีโครงสร้างเศรษฐกิจในวันที่สอง อิหร่านจึงขยายการตอบโต้ไปยังเป้าหมายทางเศรษฐกิจเมื่อคืนวันเสาร์
การโจมตีของอิสราเอลเมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 13 มิถุนายน ได้พุ่งเป้าไปยังย่านที่อยู่อาศัยในกรุงเตหะราน ตลอดจนสถานที่ทางทหารและนิวเคลียร์ในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ ส่งผลให้ผู้บัญชาการทหารระดับสูง นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อย่างน้อย 6 ราย และพลเรือนจำนวนมากเสียชีวิต
กองทัพอิหร่านได้ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลหลายลูกโจมตีหลายเมืองในดินแดนยึดครองของอิสราเอล สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง