ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะในสุไวดาแตะ 100 ราย อิสราเอลโจมตีซีเรีย อ้างปกป้องชาวดรูซ

ซินหัว – ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะรุนแรงในจังหวัดสุไวดาทางตอนใต้ของซีเรีย พุ่งแตะอย่างน้อย 99 ราย และบาดเจ็บอีกราว 200 คนภายในระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธดรูซ ชนเผ่าเบดูอิน และกองกำลังรัฐบาล ตามรายงานของหอสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียที่มีฐานในอังกฤษ

รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยสมาชิกชุมชนดรูซ 60 ราย (รวมเด็ก 2 คนและผู้หญิง 2 คน) ชาวเบดูอิน 18 ราย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 14 ราย และบุคคลไม่ทราบฝ่ายที่สวมเครื่องแบบทหารอีก 7 ราย

โฆษกฝ่ายกลาโหมฮัสซัน อับเดลฆานี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า ทหารซีเรีย 18 นายเสียชีวิต และอีกหลายรายได้รับบาดเจ็บระหว่าง “ปฏิบัติหน้าที่เพื่อยุติความขัดแย้งและฟื้นฟูเสถียรภาพ” ในจังหวัดสุไวดา โดยกล่าวหาว่ากองกำลังของรัฐถูกโจมตีโดย “กลุ่มติดอาวุธนอกกฎหมาย” และเรียกการโจมตีด่านตรวจของทหารว่าเป็น “การลอบโจมตีอย่างทรยศ”

หน่วยงานความมั่นคงและกลาโหมของซีเรียประกาศว่าได้เริ่มเคลื่อนกำลังเข้าสู่พื้นที่สุไวดาอย่างเป็นทางการ เพื่อยุติความรุนแรงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

ความขัดแย้งครั้งนี้ปะทุขึ้นหลังจากกลุ่มติดอาวุธเบดูอินถูกกล่าวหาว่าได้ทำร้ายและปล้นชายหนุ่มชาวดรูซคนหนึ่งที่ด่านตรวจใกล้กับเมืองอัลมาสมียะฮ์เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้กลุ่มติดอาวุธดรูซจับตัวชาวเบดูอินหลายรายเป็นการตอบโต้ จนนำไปสู่การลักพาตัวและการปะทะอย่างต่อเนื่อง

แหล่งข่าวจาก “ริญาล อัล-กะรามะฮ์” (Rijal al-Karama) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธดรูซใหญ่ที่สุดในพื้นที่ เปิดเผยกับซินหัวว่า ชาวดรูซอย่างน้อย 11 คนถูกลักพาตัวโดยชนเผ่าเบดูอิน ขณะที่ชาวเบดูอิน 5 รายถูกจับโดยกลุ่มติดอาวุธดรูซ และกำลังมีความพยายามแลกตัวประกันเพื่อยุติความตึงเครียด

อย่างไรก็ตาม การสู้รบยังคงทวีความรุนแรงต่อเนื่องในวันจันทร์ โดยเฉพาะในเขตอัลมุกาววัสและพื้นที่ชนบทโดยรอบ ฝ่ายข่าวซินหัวรายงานว่ามีเสียงปืนและระเบิดดังขึ้นหลายจุด

ในอีกด้านหนึ่ง เครื่องบินรบอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีเป้าหมายของกองทัพซีเรียในหมู่บ้านอัลมะซรอา และใกล้เมืองกานาเกียร์ทางตะวันตกของจังหวัดสุไวดา โดยรายงานระบุว่าการโจมตีมุ่งเป้าไปที่จุดรวมพลและยานพาหนะทางทหารของฝ่ายซีเรีย

กระทรวงกลาโหมอิสราเอลอ้างว่าการโจมตีครั้งนี้เป็น “คำเตือน” ต่อรัฐบาลดามัสกัส ไม่ให้ทำร้ายชาวดรูซ โดยรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัทซ์ กล่าวว่า “อิสราเอลจะไม่อยู่เฉยหากชาวดรูซในซีเรียได้รับอันตราย”

อิสราเอลเคยแทรกแซงในซีเรียมาก่อน โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยชาวดรูซซึ่งถือเป็น “พันธมิตร”

ขณะนี้ทางหลวงสายดามัสกัส–สุไวดายังคงปิดหลายจุด รวมถึงบริเวณด่านอัลมาสมียะฮ์ เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตของพลเรือนเพิ่มเติม

สถานการณ์ในพื้นที่ยังตึงเครียดและเปราะบางอย่างยิ่ง แม้ผู้นำชุมชนและรัฐบาลจะออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดกลั้นและเร่งฟื้นฟูความสงบโดยด่วน

หน่วยทหารซีเรียได้เข้าสู่เขตชนบทของสุไวดา และอยู่ห่างจากตัวเมืองหลักไม่ถึง 10 กิโลเมตร ตามรายงานจากแหล่งข่าวท้องถิ่นในจังหวัดดังกล่าว ■