ปริศนาการโจมตีของอิสราเอลในกาตาร์ หลักฐานไม่สอดคล้องกับคำอธิบายปฏิบัติการ

ภาพถ่ายดาวเทียมนี้จาก Planet Labs PBC ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 กันยายน และถ่ายไว้เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 แสดงให้เห็นอาคารที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นสถานที่พักของสมาชิกสำนักการเมืองฮามาส หลังถูกโจมตีโดยอิสราเอลในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ (Planet Labs/AFP)

รายงานของฌอน แมทธิวส์ ที่เผยแพร่โดย Middle East Eye (MEE) 10 ก.ย. 2025 ชี้ให้เห็นว่ามีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการที่อิสราเอลใช้ในการโจมตีผู้นำฮามาสในกรุงโดฮา กาตาร์ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนขีปนาวุธที่ใช้จริง หรือแม้กระทั่งการมีทีมปฏิบัติการภาคพื้นดินคอยช่วยระบุเป้าหมาย

รายงานเบื้องต้นจากสื่อหลายสำนักกล่าวว่าอิสราเอลยิงขีปนาวุธทางอากาศราว 10 ลูกใส่อาคารที่เชื่อว่ามีคณะการเมืองของฮามาสอยู่ แต่ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดกลับแสดงให้เห็นเพียงความเสียหายเล็กน้อย ไม่สอดคล้องกับคำอธิบายที่เผยแพร่ในสื่อกระแสหลัก

นักวิเคราะห์และอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกกับ MEE ว่า สถานที่ระเบิดซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการโจมตีของอิสราเอลนั้นเล็กเกินไปที่จะสนับสนุนรายงานสื่อหลายฉบับที่ระบุว่าอิสราเอลยิงขีปนาวุธจากอากาศเข้าไปในอาคารประมาณ 10 ลูก

ไมเคิล ไนท์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านทหารจาก Horizon Engage บริษัทที่ปรึกษาระดับนานาชาติ กล่าวกับ MEE ว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมสาธารณะ ความเสียหายดังกล่าว “เป็นไปได้มากที่สุดเพียงสองหรือสามลูกเท่านั้น”

แม้ผู้เห็นเหตุการณ์บางรายอ้างว่าได้ยินเสียงระเบิดไม่ต่ำกว่า 8 ครั้ง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าบางส่วนอาจเกิดจากเสียงสะท้อนในพื้นที่

ยิงจากนอกน่านฟ้ากาตาร์

อิสราเอลยังไม่เปิดเผยเกี่ยวกับวิธีการโจมตีครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ให้ข้อมูลกับ MEE รวมถึงนักวิเคราะห์อิสระหลายราย เชื่อว่าอิสราเอลไม่ได้ละเมิดน่านฟ้ากาตาร์โดยตรง แต่ยิงจากนอกเขตแดน

ซึ่งสอดคล้องกับคำยืนยันของรัฐบาลจอร์แดนที่ระบุว่า “ไม่มีเครื่องบินรบอิสราเอลใดผ่านน่านฟ้าของตน”

ขณะที่แบบแผนเดียวกันถูกใช้อยู่แล้วในการโจมตีอิหร่านเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยอิสราเอลใช้เส้นทางซีเรียและอิรัก

แอนดรูว์ เคอร์ติส อดีตผู้บัญชาการอากาศแห่งกองทัพอากาศอังกฤษ และปัจจุบันเป็นนักวิจัยอาวุโสของสถาบัน Royal United Services Institute (RUSI) กล่าวกับ MEE ว่า หากอิสราเอลต้องการหลีกเลี่ยงการละเมิดน่านฟ้าซาอุดีอาระเบียหรือคูเวต ก็สามารถใช้วิธีเดียวกัน คือยิงโจมตีกาตาร์จากน่านฟ้าอิรักได้

MEE รายงานว่า รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับการแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว และไม่ได้คัดค้านการปฏิบัติการนี้

เคอร์ติสระบุว่า มีโอกาสมากมายที่สหรัฐฯ จะต้องรับรู้ถึงภารกิจนี้ เนื่องจากการโจมตีลักษณะนี้ต้องใช้การวางแผนอย่างละเอียดและกินเวลาหลายวัน

“ข้ออ้างที่ว่า นี่คือเป้าหมายฉวยโอกาสแล้วเราลงมือเลยนั้น ฟังไม่ขึ้น” เคอร์ติสกล่าว “การปฏิบัติการเช่นนี้ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเป็นวัน ๆ อย่างน้อย”

อิสราเอลใช้ขีปนาวุธใดในการปฏิบัติการครั้งนี้?

หากอิสราเอลยิงขีปนาวุธเข้าไปยังกาตาร์จากน่านฟ้าอิรัก ก็จะตัดความเป็นไปได้ในการใช้ระเบิดขนาดเล็กแบบ GBU-39B เนื่องจากมีพิสัยการร่อนสั้นเกินไป

เจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ระบุว่า ความเสียหายขนาดเล็กที่ปรากฏในภาพถ่ายจากกาตาร์ ทำให้สามารถตัดความเป็นไปได้ของขีปนาวุธหลายชนิดออกไป เหลือเพียงไม่กี่แบบที่เหมาะสำหรับการโจมตีประเภท “stand-off” ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธจากระยะไกลนอกพื้นที่เป้าหมาย

หนึ่งในขีปนาวุธอากาศสู่พื้นขนาดเล็กที่สุดของอิสราเอลคือ Delilah cruise missile โดยหัวรบของมันมีลักษณะสอดคล้องกับความเสียหายขนาดเล็กที่เห็นได้ในภาพถ่ายมากกว่า

อีกทางเลือกหนึ่งคือ อิสราเอลอาจใช้ขีปนาวุธแบบยิงจากอากาศสู่พื้นชนิด Silver Sparrow ซึ่งมีพิสัยไกลถึง 1,500 กิโลเมตร

โดยปกติแล้ว ขีปนาวุธชนิดนี้จะสร้างความเสียหายรุนแรงกว่าที่เห็นในเป้าหมาย แต่ไมเคิล ไนท์ส อธิบายว่า อิสราเอลอาจปรับ “ชนวน” ของมันให้หัวรบระเบิดใต้ดินแทนที่จะระเบิดทันทีที่กระทบพื้น ส่งผลให้แรงสะเก็ดและความเสียหายรอบข้างถูกจำกัดลง

“อิสราเอลสามารถทำหลายวิธีเพื่อลดแรงระเบิดของหัวรบให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด” เขากล่าวกับ MEE

เครื่องบินรบ F-35I Adir ของอิสราเอลขึ้นชื่อว่าสามารถติดตั้งขีปนาวุธร่อน Delilah และ Rampage ได้ ขณะที่นักวิเคราะห์บอกกับ MEE ว่า หากเป็นการใช้ Silver Sparrow จริง ก็น่าจะต้องอาศัย F-15 หรือ F-16 ในการบรรทุก ซึ่งอาจทำให้คุณสมบัติการพรางตัวลดลง

ทีมภาคพื้นดิน?

เคอร์ติสให้สัมภาษณ์กับ MEE ว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลครั้งนี้อาจไม่ได้จบลงเพียงในอากาศ “เป็นไปได้มากว่าพวกเขามีผู้สังเกตการณ์ภาคพื้นดิน คอยเฝ้าดูอาคารดังกล่าวว่าใครกำลังเดินทางเข้าออก” เขากล่าว

เจ้าหน้าที่อาหรับรายหนึ่งบอกกับ MEE ว่า ชาติอ่าวยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อิสราเอลได้ส่งทีมปฏิบัติการภาคพื้นดินลงไปในกรุงโดฮาเพื่อร่วมปฏิบัติการครั้งนี้

ความล้มเหลวของภารกิจ

ผลลัพธ์ปฏิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่กาตาร์ แต่ผู้นำการเมืองของฮามาสซึ่งเป็นเป้าหมายหลักกลับรอดพ้น การโจมตีล้มเหลว เพราะอิสราเอลทิ้งระเบิดใส่อาคารที่อยู่ใกล้กับสถานที่ซึ่งแกนนำอาวุโสของฮามาสใช้ประชุม แต่ไม่ใช่จุดที่แท้จริง แหล่งข่าวบอกกับ MEE ว่า สถานที่ประชุมจริงถูกพรางไว้ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อวันพุธว่า อิสราเอลอาจโจมตีเจ้าหน้าที่ฮามาสในต่างประเทศอีกครั้ง ซึ่งอาจหมายถึงการปฏิบัติการในอียิปต์หรือแม้แต่ตุรกี ประเทศที่บรรดาผู้นำฮามาสมักเดินทางไปเป็นประจำ ดังนั้น การทำความเข้าใจกลไกการโจมตีในกาตาร์ครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการถอดบทเรียนทางทหาร แต่ยังเป็นการอ่านแผนที่อนาคตของสงครามเงาที่อิสราเอลอาจขยายออกไปทั่วภูมิภาค