ทำเนียบขาวเผยแผน 20 ข้อของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อยุติสงครามกาซา กำหนดถอนทัพอิสราเอล 3 ระยะ ตั้งคณะกรรมการปกครองชั่วคราวแบบเทคโนแครต ปลดอาวุธฮามาส แลกเชลย–นักโทษ ยุติการสู้รบทันที พร้อมจัดตั้งกองกำลังนานาชาติและฟื้นฟูเศรษฐกิจกาซา มุ่งสร้างเสถียรภาพและเส้นทางสู่สันติภาพปาเลสไตน์–อิสราเอล ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล เยือนทำเนียบขาว โดยทรัมป์เตือนหากฮามาสปฏิเสธแผน “เขาจะหนุนอิสราเอลเต็มที่ในการทำลายขบวนการดังกล่าว”
ต่อไปนี้คือท่าทีของฝ่ายต่างๆ
ทรัมป์และสหรัฐฯ
ทรัมป์ ระบุระหว่างแถลงข่าวร่วมเนทันยาฮูที่ทำเนียบขาวว่า เนทันยาฮูเห็นด้วยกับแผนยุติสงครามกาซา พร้อมเผยว่าได้หารือเชิงสร้างสรรค์กับผู้นำภูมิภาค ทั้งซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี และจอร์แดน เพื่อสนับสนุนแนวทางสันติภาพ
ทรัมป์ แถลงหลังการพบปะกับนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮูที่ทำเนียบขาวว่า ทั้งสองได้หารือแผนยุติสงครามกาซา ซึ่งถือเป็นกุญแจสู่สันติภาพตะวันออกกลาง พร้อมยืนยันว่า “เราใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว” ทรัมป์เผยว่าเนทันยาฮูยังหยิบยกประเด็นอิหร่าน การค้า และข้อตกลงอับราฮัมเข้าหารือด้วย
ทรัมป์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมเนทันยาฮูว่า เขาเชื่อว่าแม้อิหร่านก็อาจเข้าร่วมข้อตกลงอับราฮัมได้ โดยย้ำว่า “ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะเปิดรับเรื่องนี้จริงๆ และสามารถเป็นสมาชิกได้” ข้อตกลงอับราฮัมเป็นกรอบสันติภาพที่ทรัมป์ผลักดันในสมัยแรก ทำให้อิสราเอลสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับหลายประเทศอาหรับ
ทรัมป์กล่าวว่าเนทันยาฮูเห็นชอบแผนยุติสงครามกาซาและกำลังรอคำตอบเชิงบวกจากฮามาส โดยเตือนหากฮามาสปฏิเสธ “เขาจะหนุนอิสราเอลเต็มที่ในการทำลายขบวนการดังกล่าว”
ทรัมป์ ประกาศว่าแผนยุติสงครามกาซาของเขารวมถึงการตั้ง “สภาสันติภาพ” กำกับดูแลฉนวนกาซา โดยมีเขาเป็นประธาน พร้อมบุคคลสำคัญและผู้นำโลก เช่น โทนี่ แบลร์ อดีตนายกฯ อังกฤษ คณะกรรมการจะประกอบด้วยชาวปาเลสไตน์ที่มีคุณสมบัติและผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ เพื่อบริหารกาซาในช่วงเปลี่ยนผ่านภายใต้กรอบสากล
ทรัมป์ กล่าวว่า “คณะกรรมการสันติภาพ” ซึ่งจะดูแลการบริหารฉนวนกาซาจะอยู่ภายใต้การนำของเขา แต่ “ไม่ใช่ตามคำขอของผม” พร้อมระบุว่าหน่วยงานดังกล่าวจะถูกเรียกว่า “การบริหารสันติภาพ” และเป็นโครงสร้างกำกับดูแลนานาชาติชุดใหม่สำหรับกาซา
สตีฟ วิตคอฟ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง กล่าวว่า ทรัมป์ จะผลักดันทุกฝ่ายให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของแผนหยุดยิงกาซา พร้อมแสดงความมั่นใจในแผนดังกล่าว เขาย้ำว่าชาวปาเลสไตน์ต้องได้รับหลักประกันสิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง โดย “เราต้องสร้างพื้นฐานแห่งความสำเร็จให้พวกเขา” พร้อมเปิดเผยว่า แผนนี้ได้รับการสนับสนุนกว้างขวางจากชาติอ่าวและยุโรป
โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ เลวิตต์ ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หารือแผนสันติภาพ กับนายกฯ อิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูที่ทำเนียบขาว พร้อมทั้งพูดคุยกับผู้นำกาตาร์ผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย เธอย้ำว่าการตกลงต้องมีการประนีประนอมจากทุกฝ่าย แม้อาจไม่พอใจทั้งหมด แต่เป็นหนทางเดียวที่จะยุติความขัดแย้ง
เนทันยาฮูและอิสราเอล
นายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู แถลงร่วมกับทรัมป์ในกรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ ยืนยันสนับสนุนแผนยุติสงครามกาซาของสหรัฐฯ โดยชี้ว่าสหรัฐและอิสราเอลกำลังก้าวสู่ขั้นตอนสำคัญเพื่อบรรลุสันติภาพในตะวันออกกลาง พร้อมกล่าวว่า “แผนของทรัมป์จะทำให้มั่นใจได้ว่ากาซาจะไม่มีวันเป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล”
เนทันยาฮู แถลงร่วมกับทรัมป์ว่า ทางการปาเลสไตน์ไม่ควรมีบทบาทในฉนวนกาซาหลังสงคราม ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และอิสราเอลพร้อมทำการถอนกำลังแบบจำกัดหากฮามาสยอมรับแผน โดยการถอนกำลังเพิ่มเติมจะเชื่อมโยงกับการปลดอาวุธของฮามาส.
เบนนี แกนซ์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและสมาชิกรัฐสภาอิสราเอล เรียกร้องให้เดินหน้าตามแผนยุติสงครามกาซาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยย้ำว่าอิสราเอลต้องไม่พลาดโอกาสในการนำเชลยกลับคืน เสริมความมั่นคงภายใน และขยายการฟื้นฟูความสัมพันธ์ปกติในภูมิภาค.
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลเผยแพร่วิดีโอเมื่อวันอังคาร ระบุว่าอิสราเอลได้ “พลิกสถานการณ์และโดดเดี่ยวฮามาส” โดยกองกำลังอิสราเอลยังคงประจำอยู่ในฉนวนกาซาส่วนใหญ่ พร้อมย้ำว่าโลกกำลังกดดันให้ฮามาสยอมตามเงื่อนไข คือปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมด ขณะเดียวกัน สื่ออิสราเอลรายงานว่า แผนของทรัมป์เปิดทางให้อิสราเอลคงกำลังในกาซาและปฏิเสธการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
ฝ่ายต่อต้าน
แหล่งข่าวปาเลสไตน์ 2 รายเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ Asharq Al-Awsat ว่า ผู้ไกล่เกลี่ยจากอียิปต์และกาตาร์ได้ส่งมอบแผนยุติสงครามกาซาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้กับกลุ่มฮามาสเมื่อเย็นวันจันทร์ เพื่อใช้เป็นแนวทางยุติปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดฮามาสระบุว่า คณะเจรจาของกลุ่มได้แจ้งผู้ไกล่เกลี่ยว่าจะหารืออย่างละเอียดภายในผู้นำและกับกลุ่มต่างๆ ของปาเลสไตน์ เพื่อศึกษาทุกมิติของแผนและจัดทำคำตอบที่สะท้อนเสียงของชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด
กลุ่มญิฮาดอิสลามแห่งปาเลสไตน์ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (เวลาในท้องถิ่น) ประณามแผนยุติสงครามกาซาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่าเป็น “สูตรสำเร็จของการรุกราน” ต่อชาวปาเลสไตน์ แถลงการณ์ชี้ว่าอิสราเอลพยายามใช้อเมริกาเป็นเครื่องมือบังคับสิ่งที่ไม่อาจทำได้ผ่านสงคราม และถือว่าการประกาศร่วมอเมริกา-อิสราเอลนี้เป็น “สูตรลับเพื่อจุดไฟให้ภูมิภาค”
ซิยาด อัล-นัคฮะละห์ เลขาธิการขบวนการญิฮาดอิสลาม ประณามแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการยุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในกาซา” โดยให้สัมภาษณ์กับอัลอาระบีว่า แผนดังกล่าวเป็น “ข้อตกลงอเมริกา-อิสราเอล” ที่สะท้อนจุดยืนของอิสราเอลเต็มรูปแบบ พร้อมกล่าวหาว่า “อิสราเอลพยายามบังคับสิ่งที่ไม่อาจทำได้ด้วยสงคราม ผ่านทางสหรัฐฯ” ทั้งนี้ ญิฮาดอิสลามได้ออกแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ประณามแผนดังกล่าวแล้ว
ยุโรป
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง แสดงความยินดีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เสนอแผนยุติสงครามกาซาและปล่อยเชลยอิสราเอลทั้งหมด โดยมาครงกล่าวว่า “เราคาดหวังให้อิสราเอลมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันบนพื้นฐานนี้” พร้อมย้ำว่าฝรั่งเศสพร้อมร่วมมือและจะติดตามความมุ่งมั่นของแต่ละฝ่ายอย่างใกล้ชิด.
โทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวชื่นชมแผนยุติสงครามกาซาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นแผนที่ “กล้าหาญ” และหากได้รับการอนุมัติ เขาพร้อมมีส่วนร่วมเพื่อยุติสงคราม แบลร์ระบุว่า ความเต็มใจของทรัมป์ที่จะเป็นประธาน “คณะกรรมการสันติภาพ” กำกับดูแลกาซา สะท้อนการสนับสนุนและความเชื่อมั่นในอนาคตของพื้นที่นี้ โดยก่อนหน้านั้น ทรัมป์ได้ย้ำว่า คณะกรรมการดังกล่าวจะนำโดยเขาร่วมกับผู้นำโลก รวมถึงแบลร์
ทำเนียบรัฐบาลอิตาลีแถลงสนับสนุนข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการยุติสงครามกาซา พร้อมย้ำความพร้อมประสานงานใกล้ชิดกับสหรัฐฯ พันธมิตรยุโรป และประเทศในภูมิภาค ระบุว่าแผนอาจเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่นำไปสู่การหยุดยิงถาวร การปล่อยเชลยทั้งหมด และการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างปลอดภัย พร้อมกดดันให้ฮามาสปล่อยตัวประกัน ถอนตัวจากอนาคตกาซา และปลดอาวุธโดยสิ้นเชิง
นายกฯ อังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ แสดงการต้อนรับต่อความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการยุติสงครามกาซาผ่านแผนใหม่ โดยเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อทำให้ข้อตกลงเกิดขึ้นจริง พร้อมกดดันให้ฮามาสยอมรับแผน ยุติความทุกข์ยาก ด้วยการวางอาวุธและปล่อยเชลยทั้งหมดที่ยังถูกควบคุมตัว
อันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรป แสดงการต้อนรับต่อแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการยุติสงครามกาซา พร้อมแสดงความหวังต่อท่าที “เชิงบวก” ของนายกฯ อิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เขาเน้นว่าทุกฝ่ายควรใช้โอกาสนี้เพื่อ “ขับเคลื่อนสันติภาพอย่างแท้จริง” โดยชี้ว่าสถานการณ์ในกาซา “ไม่อาจทนได้” และเรียกร้องให้ยุติสงคราม ปล่อยเชลยทั้งหมดทันที พร้อมย้ำว่าการแก้ปัญหาสองรัฐยังคงเป็นหนทางเดียวสู่สันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืนในตะวันออกกลาง
รัฐบาลนอร์เวย์ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ แสดงการต้อนรับต่อแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับฉนวนกาซา โดยระบุว่าคาดหวังการตอบสนองที่ชัดเจนจากอิสราเอล พร้อมย้ำว่านอร์เวย์กำลังติดต่อใกล้ชิดกับพันธมิตรทั้งในและนอกภูมิภาคเพื่อผลักดันการเดินหน้าแผนดังกล่าว
นายกฯ แคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ แสดงการต้อนรับแผนยุติสงครามกาซาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่าเป็น “ประวัติศาสตร์เพื่อสันติภาพ” และเรียกร้องทุกฝ่ายช่วยทำให้สำเร็จ พร้อมกดดันให้ฮามาสปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมทั้งหมดทันที คาร์นีย์ย้ำว่าแคนาดาพร้อมสนับสนุนการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่องและไร้อุปสรรค และจะประสานงานกับนานาชาติเพื่อสร้างสันติภาพถาวรบนพื้นฐานการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่มีอธิปไตยและอยู่ร่วมกับอิสราเอลได้อย่างมั่นคง
รมว.ต่างประเทศเยอรมนี โยฮัน ฟาดีโฟล กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า แผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับกาซาเป็น “โอกาสพิเศษ” ที่จะยุติสงคราม พร้อมย้ำว่าเบอร์ลินพร้อมสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม เขาระบุว่าแผนดังกล่าวมอบความหวังแก่ผู้คนหลายแสนที่ทนทุกข์จากการสู้รบและวิกฤตด้านมนุษยธรรม และเป็นความหวังใหม่ของทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ พร้อมเรียกร้องฮามาสคว้าโอกาสนี้ ขณะเดียวกันชื่นชมความจริงจังของทรัมป์ที่เสนอตัวเป็นประธาน “สภาสันติภาพ” และขอบคุณประเทศอาหรับ–มุสลิมที่สนับสนุน เขาย้ำว่าข้อตกลงนี้อาจปูทางสู่การประนีประนอมที่กว้างขึ้นในตะวันออกกลาง โดยเขาจะเดินทางเยือนภูมิภาคปลายสัปดาห์เพื่อมีส่วนร่วมผลักดันเป้าหมายนี้
อาหรับและชาติมุสลิม
ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ชื่นชมบทบาทผู้นำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สามารถ “หยุดยั้งการนองเลือดในกาซาและรับรองการหยุดยิง” ตามรายงานของอนาโดลู พร้อมย้ำว่าอังการาจะยังคงมีส่วนสนับสนุนกระบวนการสร้างสันติภาพที่ยุติธรรม ยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 8 ชาติอาหรับและมุสลิม ได้แก่ ซาอุฯ จอร์แดน ยูเออี อินโดนีเซีย ปากีสถาน ตุรกี กาตาร์ และอียิปต์ ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันจันทร์ แสดงการต้อนรับข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งยุติสงครามกาซา ฟื้นฟูฉนวนกาซา ป้องกันการอพยพชาวปาเลสไตน์ และปฏิเสธการผนวกเวสต์แบงก์ พร้อมชื่นชมบทบาทนำและ “ความพยายามอย่างจริงใจ” ของทรัมป์ โดยยืนยันความเชื่อมั่นในศักยภาพของเขาในการสร้างเส้นทางสู่สันติภาพ
สำนักข่าวปาเลสไตน์รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ ทางการปาเลสไตน์ได้แสดงการต้อนรับต่อความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการยุติสงครามกาซา พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับสหรัฐฯ และพันธมิตร เพื่อบรรลุข้อตกลงครอบคลุมที่ปูทางไปสู่สันติภาพอันยุติธรรมบนพื้นฐานของแนวทางสองรัฐ
ฮุสเซน ชีค รองประธานาธิบดีปาเลสไตน์ แสดงการต้อนรับต่อ “ความพยายามอย่างจริงใจ” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการยุติสงคราม พร้อมย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของทรัมป์ที่จะนำทางสู่สันติภาพ เขายืนยันพันธะร่วมกับสหรัฐฯ และพันธมิตรเพื่อบรรลุข้อตกลงครอบคลุมบนพื้นฐานสองรัฐ โดยย้ำว่าปาเลสไตน์พร้อมมีส่วนร่วมเชิงบวกเพื่อให้ข้อตกลงเกิดขึ้นจริง และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งหยุดสงคราม การสังหาร และความอดอยากทันที
จาสซิม มูฮัมหมัด อัล-บุดวัย เลขาธิการสภาความร่วมมืออ่าว (GCC) แสดงการต้อนรับแผนยุติสงครามกาซาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยย้ำว่าการหยุดยิง การส่งความช่วยเหลือ และการป้องกันการอพยพชาวกาซา ควรเป็นหัวใจหลักของทุกความเคลื่อนไหวระหว่างประเทศ เขาระบุว่าความสำเร็จของแผนขึ้นอยู่กับความจริงจังในการปฏิบัติ คุ้มครองพลเรือน และสร้างเงื่อนไขเพื่อเสถียรภาพ พร้อมชี้ว่า GCC มองบวกต่อข้อเสนอนี้ซึ่งอาจปูทางสู่สันติภาพที่ยุติธรรมและการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์อิสระโดยมีเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้กดดันนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ให้ยอมรับแผนสันติภาพกาซาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และละทิ้งแผนผนวกเวสต์แบงก์ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอับดุลลาห์ บิน ซาเยด ได้ถ่ายทอดจุดยืนดังกล่าวระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นิวยอร์ก พร้อมเตือนว่าการผนวกเวสต์แบงก์จะขัดขวางการขยายขอบเขตข้อตกลงอับราฮัมไปยังประเทศสำคัญอย่างอินโดนีเซียและซาอุดีอาระเบีย.








