ละครในทีวี บ้านเรานั้น ผมว่าหาใครเสมอเหมือน ผู้คนในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ติดละครไทยกันหนึบหนับ เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นตายร้ายดีก็ไม่ค่อยยอมพลาดละคร
ขนาดคสช. มีอำนาจมากมาย ท่วมหัวท่วมหู รายการคืนความสุขที่นายกฯประยุทธ์ออกมาพูดทุกคืนวันศุกร์ยังต้องถอยให้ ต้องเลี่ยงไม่ให้ตรงกับเวลาละครออนแอร์
แต่ใครจะไปคิดถึงว่า คนไทยเรานั้นนอกจากติดละครแล้วก็ยังได้นำละครเข้ามาในเลือดเนื้อและจิต วิญญาณ กระทั่งจะเข้าบริหารกิจการบ้านเมือง หรือกำหนดนโยบาย แก้ปัญหาของชาติ ก็ยังไม่วายนำนิสัยละครติดมาด้วย
ผมเคยสงสัยมาหลายสิบปี แล้วว่า เหตุใดคนไทยจึงมีนิสัยขี้อิจฉาริษยา และชอบใส่ร้ายป้ายสีกันจนพัง แม้แต่เรื่องไม่จริง ไม่มีการพิสูจน์ใดๆทั้งสิ้นไม่ว่าเหตุผลหรือหลักฐานทางกฎหมายใดๆ แสดงนิสัยที่เหมือนติดมาจากละครทีวีไทยนั่นแหละ “ดราม่า”เป็นที่สุด
เริ่มจากเรื่องที่ เกลียดชังทักษิณ ชินวัตรไม่เลิกมาตั้งแต่ปี 2548 พันธมิตรฯปลุกระดมด่ารัฐบาลทักษิณได้ไม่รู้ต่อกี่เรื่อง แต่ก็หาเรื่องที่เอาผิดจริงๆได้น้อยมาก สุดท้าย เอาผิดได้แค่เซ็นชื่อให้เมียไปประมูลซื้อที่ดินรัชดา
ปี 2549 กองทัพทำรัฐประหาร ด้วยข้ออ้างที่ดราม่ามากว่ากลัวฝ่ายเสื้อเหลืองจะประทะกับฝ่ายทักษิณ ก่อนจะร่างรัฐธรรมนูญดราม่าเพื่อสกัดไม่ให้ทักษิณกลับเข้ามา แต่เหตุการณ์ปี 2553 ร้ายแรงกว่านับสิบเท่า
นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ ทักษิณเกิดฮึดสู้จนสามารถ กลับมาเป็นรัฐบาลได้ถึง 3 ครั้งในรอบ 8-9 ปี เพื่อพิสูจน์ว่า พวกเขาถูกต้อง ขณะที่อีกฝ่ายก็ใช้วิธีดราม่า จัดม็อบใหญ่โตเพื่อโค่นรัฐบาลที่ทักษิณหนุน ด้วยข้อหาต่างๆที่พิสูจน์อะไรไม่ได้ทั้งนั้น มีแต่พูดขึ้นมาลอยๆ และผู้ชุมนุมก็เชื่อตามนั้น
สุดท้าย รัฐบาลชุดสมัคร-สมชายก็ถูกโค่นลงด้วยข้อหาที่ทั่วโลกพากันขบขันอันน่า สยดสยองในความเป็นดราม่าของคนไทย เพราะสุดท้าย ก่อนการรัฐประหารครั้งล่าสุด รัฐบาลประชาธิปัตย์สั่งสังหารคนเสื้อแดงตายไปร่วม100 ศพกลางเมือง ท่ามกลางสื่อต่างประเทศทั่วโลก
สุดท้าย ก็มีการพิสูจน์ว่า ความจริงที่เกิดขึ้นนั้นมันตรงข้ามกับดราม่า-ข่าวลือที่สร้างขึ้นมานานหลาย ปี ถึงอย่างนั้น เมืองไทยก็ยังจะคงดราม่าต่อไป
ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ งานดราม่ากลับมาอีก คือการโค่นยิ่งลักษณ์เรื่องการย้ายข้าราชการเพียงตำแหน่งเดียว และการใส่ร้ายโครงการจำนำข้าวที่ชาวนาได้ประโยชน์และมีการหมุนเวียนของเงิน ภายในประเทศ
แต่ม็อบกปปส.ของลุง กำนันก็เปิดฉากละครโรงใหญ่ขึ้น สร้างดราม่าชั้นเลิศเพื่อโค่นยิ่งลักษณ์ และดึงทหารที่ตัวเองเคยเป็นผู้บังคับบัญชาอยู่ให้ทำรัฐประหาร
เดือนพฤษภา 2557 กองทัพประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจ การดราม่าก็เกิดขึ้นอีก เพราะโพลบอกว่า คนไทยมีความสุขมากที่ทหารเข้ามาจัดระเบียบ เศรษฐกิจกำลังดีขึ้น (ผมไม่คิดว่านายกฯประยุทธ์จะเชื่อโพล)
โพลชื่อดังที่ว่านั้น ออกไปสำรวจพบคนกว่า 1,200 คนเท่านั้นเอง ในจำนวนนี้อาจจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบหรือเป็นญาตพี่น้องเพื่อนฝูง บางทีก็อาจไปถามคนที่มีงานทำ มีเงินเดือน 50,000-800,000 บาท/เดือน จึงไม่มีใครรู้สึกว่าเศรษฐกิจของประเทศจะแย่ลงแม้แต่น้อย แถมพวกเขายังได้เงินเดือนเพิ่ม มีโบนัสอีกหลายเดือนอีกด้วย โดยเฉพาะสถาบันการเงิน ธนาคารซึ่งมียอดขายปีหนึ่งกำไรหลายแสนล้านบาท
ผมแค่ขอถามแบบดราม่า หน่อยว่าชาวนาชาวสวนยาง 5-7 ล้านครอบครัว คูณ 5 เข้าไปสำหรับเฉลี่ยคนในครอบครัว ยังไม่นับผู้ใช้แรงงานรวมแล้วเกินครึ่งประเทศ คนนอกโพลเหล่านี้ เขาอยู่กันอย่างไร-รู้ไหม?