เตือน 7 จังหวัด รับมือน้ำล้นตลิ่ง เตรียมขนของขึ้นที่สูง!

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 7 จังหวัดภาคกลางลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี  เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง จากระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำ ให้ติดตามสถานการณ์และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงขนย้ายสิ่งของและเครื่องใช้ขึ้นที่สูง

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 59 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำกับกรมชลประทาน คาดว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น 70 – 90 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้น 70 – 90 เซนติเมตรประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 7 จังหวัดภาคกลางลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันก็แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เกษตรกร ผู้ประกอบการ ร้านค้า เรือโดยสาร นักท่องเที่ยวประชาชนที่สัญจรทางน้ำ รวมถึงผู้ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างโครงสร้างหรือเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ติดตามสถานการณ์และประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรทางน้ำ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้นได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เรือท้องแบนสำหรับการสัญจรในพื้นที่กรณีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (OTOS) ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดวางแนวกระสอบทรายและติดตั้งเครื่องสูบน้ำป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และลำน้ำสาขา

สำหรับผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป