เมื่อ วันจันทร์ที่ 25 พ.ย.2556 เวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา นายราญาอี ธนชยางกูร ผู้ประสานงานเครือขายชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ประเทศไทย พร้อมด้วย ซัยยิดมุบารัก ฮูซัยนีย์ ประธานชมรมคนรักวิลายะตุ้ลฟะกีฮ์ นายเสถียรภาพ สุขสำราญ อิหม่ามมัสยิดกุฎีหลวง กรุงเทพฯ และ นายมานะ มะหะมุด ประธานชมรมเยาวชนฮัยดารี พร้อมพวกจำนวน 30 คนในฐานะตัวแทนองค์กรเครือข่ายชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ประเทศไทย 25 องค์กร อันประกอบด้วย 1.สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม 2.ชมรมคนรักวิลายะตุลฟะกีฮ์ 3.มัสยิดซอฮิบุซซะมาน(อ) ปทุมธานี 4.มูลนิธิอัลมะฮดีย์(อ) ประเทศไทย 5.เครือข่ายสิบสององค์กรอิมามียะฮ์(ภาคใต้) 6.ชมรมอิสลามนวลจิต กรุงเทพฯ 7.มัสยิดอิมามอะลีย์(อ) บางครุ กรุงเทพฯ 8.ชมรมเยาวชนฮัยดะรี9.ฮูซัยนียะฮ์บากีรุลอูลูม สวนพลู กรุงเทพฯ 10.สมาพันธุ์ชีอะฮ์อิมามียะฮ์ ประเทศไทย 11.กุฎีเจริญพาสน์ กรุงเทพฯ 12.มัสยิดกุฎีหลวง กรุงเทพฯ 13.สมาพันธ์อัล-กุดส์นานาชาติ แห่งประเทศไทย 14.ฮูซัยนียะฮ์บนีฮาชิม(อ) พระโขนง กรุงเทพฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือประท้วงกรณี สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Voice TV ได้บิดเบือนสกู๊ปข่าวต่างประเทศในช่วง culture corner ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 เรื่อง อาชูรออ์ เทศกาลแห่งชีอะห์และชาตินิยมอิหร่าน โดยกว่าว่าเนื้อหาสกู๊ปข่าวดังกล่าวข้างต้น มีเนื้อหาหลายช่วงหลายตอนที่นำเสนออย่างบิดเบือนและไร้ความเข้าใจในพิธีกรรม อันศักดิ์สิทธิ์ของมุสลิมชีอะฮ์ โดยมีนางสาวศศิกาญจน์ เลิสสิทธิชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของบริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ได้เดินทางมารับหนังสือดังกล่าว
ซัยยิดมุบารัก ฮูซัยนี ประธานชมรมคนรักวิลายะตุ้ลฟะกีฮ์ กล่าวว่า “ที่เรามาครั้งนี้ก็เพื่อแสดงเจตจำนงค์ว่าเนื้อหาที่ทางวอยซ์ทีวีได้นำเสนอ เกี่ยวกับเรื่องอาชูรออฺออกไปนั้น เป็นเนื้อหาที่บิดเบือนข้อเท็จจริงในหลายๆ ส่วนด้วยกัน ซึ่งทางวอยซ์ทีวีไดเแจ้งว่าได้แปลข่าวนี้มาจากต่างประเทศ จึงเป็นที่มาของความไม่พอใจของพี่น้องชีอะฮ์ในประเทศไทย จึงได้มีการเคลื่อนไหวกัน เพื่อที่จะประกาศถึงจุดยืนตามข้อเท็จจริงของการต่อสู้ของอิมามฮูเซนว่า เป็นการต่อสู้กับความอยุติธรรม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของนิกายตามที่วอยซ์ทีวีได้นำเสนอออกไป”
“การต่อสู้ของอิมามฮูเซน(อ) เป็นที่ยอมรับของโลกไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดู ต่างก็ได้ยกย่องการต่อสู้นี้ว่าเป็นแบบฉบับของการต่อสู้สำหรับมวลมนุษยชาติ เป็นแบบอย่างที่มหาตมะคานธี ได้นำมาเป็นแบบอย่างของการต่อสู้ในอินเดีย ภายใต้ชื่อของอหิงสาหรืออริยะขัดขืน” ซัยยิดมุบารักกล่าว.
ทางด้านนายราญาอี ธนชยางกูร ผู้ประสานงานเครือขายชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ประเทศไทย กล่าวว่า… “ทางสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ได้บิดเบือนข่าวเกี่ยวกับชีอะฮ์ มาหลายครั้งแล้ว ตนได้พยายามเตือนและแนะนำเว็บมาสเตอร์ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีกรณีการบิดเบือนกรณีนี้ สถานีวอยซ์ทีวีเคยบิดเบือนข่าวเกี่ยว การกล่าวหาว่า ชีอะฮ์ บูชาอิหม่าม บูชาศาสดา ซึ่งตนได้เตือนเว็บมาสเตอร์ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนกันยายน 2556 ที่ผ่านมา มาตอนนี้ทางรายการดังกล่าว ได้บิดเบือนอีกครั้งหนึ่ง โดยกล่าวว่าในวันอาชูรออฺเป็นการต่อสู้ระหว่างซุนหนี่กับชีอะฮ์ ทั้งที่ข้อเท็จจริงเป็นการต่อสู้ของลูกหลานศาสดา(ศ็อลฯ) กับผู้ปกครองที่อธรรมในยุคนั้น ไม่ได้เป็นการต่อสู้ของชีอะฮ์กับซุนหนี่แต่ประการใด และวอยซ์ทีวีได้กล่าวว่าทางรัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านปลูกฝังความ เป็นชาตินิยมโดยใช้พิธีกรรมอาชูรออฺ สร้างความเกลียดชาติตะวันตกและพี่น้องซุนหนี่ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่ประการ ใด เพราะประเทศอิหร่านจะเน้นในเรื่องเอกภาพระหว่างพี่น้องซุนหนี่ชีอะฮ์ และมีการจัดสัมมนาในเชิงการเสวนาในเรื่องวัฒนธรรมปีล่ะหลายครั้ง”
“นอกเหนือจากนี้ ทางคลิปดังกล่าวได้กล่าวว่า เป็นการปลุกระดม สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของคนในชาติ และได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่านนับล้านๆดอลลาร์ รวมถึงมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อาชูรออ์อย่างเอิกเกริกทางโทรทัศน์และสื่อของ รัฐทุกแขนง โดยมีข้อแม้ว่า การจัดกิจกรรมอาชูรออ์ จะต้องอยู่ในกรอบที่รัฐบาลกำหนดเท่านั้น คือต้องแสดงความเศร้าโศกเสียใจและทำร้ายตัวเอง ซึ่งการทำร้ายตัวเองดังกล่าว คือ ต้องกรีดเนื้อตัวให้เลือดไหล เพื่อระลึกถึงการเสียสละเลือดเนื้อของฮุเซนในกัรบาลาอีกด้วย ซึ่งในความเป็นจริงการกรีดเนื้อให้เลือดไหลในประเทศอิหร่าน เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และท่านผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งสาธารณรัฐอิสลามได้ของคำฟัตวาแล้วว่า เป็นการกระทำที่ฮะราม(ไม่อนุมัติ)ในทางศาสนบัญญัติสำหรับประเทศสาธารณรัฐ อิสลามแห่งอิหร่าน ใครทำก็จะถูกจับกุมเพราะเป็นเรื่องที่ผิดหลักศาสนาและผิดกฎหมายในประเทศ อิหร่าน” นายราญาอี กล่าว
นางสาวศศิกาญจน์ เลิสสิทธิชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของบริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด กล่าวว่า… “จากข้อมูงบางอย่างที่นำเสนอไปอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิด ทางสถานีได้รายงานให้ทางผู้ใหญ่ ทางผู้ใหญ่จึงฝากชี้แจงว่า…ทางเราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกไปจะสร้างปัญหากับพี่น้องมุสลิมชีอะฮ์และสุนหนี่
พร้อมกันนี้นายราญาอี ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่าย ฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องของเครือข่ายชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ ประเทศไทย 25 องค์กร ให้กับ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของบริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด โดยมีเงื่อนไขว่า
1.ทาง วอยซ์ทีวี ต้องกล่าวคำขอโทษในกรณีวอยซ์ทีวีได้นำเสนอสกู๊ปข่าวดังกล่าว โดยไม่ได้รู้หรือศึกษาข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นการเจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยการขอโทษผ่านสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ในรายการ Voice News ช่วง culture corner
2.ต้องนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวพิธีกรรม อาชูรอฮฺ ที่ ทางสถาบันส่งเสริมและวิจัยการศึกษาเกี่ยวกับอิสลามได้จัดทำมาให้ตามเวลาที่ เห็นสมควร (ไม่น้อยกว่า culture corner)
3.ต้องสัมภาษณ์นักการศาสนาและนักวิชาการชีอะฮ์ ออกรายการวอยซ์ทีวี เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเทศกาลอาชูรออฺที่เป็นข้อเท็จจริง
ซึ่งนางสาวศศิกาญจน์ ได้รับแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว พร้อมรับปากจะนำไปนำเสนอผู้ใหญ่เพื่อพิจาณาต่อไป หลังจากนั้นทางเครือขายชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ประเทศไทย จึงสลายตัวกลับไปโดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
