อัลจาซีรา/เอเอฟพี – มาเลเซียได้ปล่อยตัวชาวอุยกูร์ 11 คนที่ถูกคุมขังเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่พวกเขาหลบหนีออกจากห้องขังในประเทศไทยและข้ามชายแดนไปมาเลเซีย แม้จะมีคำร้องขอจากจีนให้ส่งคนเหล่านี้กลับไปประเทศ
อัยการสูงสุดมาเลเซียได้ยกฟ้องพวกเขาในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายด้วยเหตุผลมนุษยธรรม และส่งตัวไปยังประเทศตุรกีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 ต.ค.) ฟะห์มี โมอิน (Fahmi Moin) ทนายความของพวกเขาระบุ
“ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกถอนออกไปเนื่องจากอัยการสูงสุดเห็นด้วยกับคำขอจากฝ่ายของเรา” ฟะห์มีกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
ชาวมุสลิมอุยกูร์เหล่านี้เดินทางมาถึงมาเลเซียหลังจากหลบหนีจากห้องขังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ประเทศไทย เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2560 โดยเจาะรูบนผนังและใช้ผ้าห่มเป็นบันได
ด้าน กลุ่มสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ออกแถลงการณ์แสดงความชื่นชมต่อการปล่อยตัวชาวอุยกูร์ทั้ง 11 คน นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “ชายทั้ง 11 คนนี้จะเผชิญกับการถูกจำคุก ทรมาน หรือเลวร้ายกว่า หากถูกส่งตัวกลับจีน”
ในเดือนกุมภาพันธ์รอยเตอร์รายงานว่า มาเลเซียอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมากจากจีนที่ต้องการให้เนรเทศชาวอุยกูร์ออกจากที่นั่น จีนถูกกล่าวหาว่ากดขี่ชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในเขตตะวันตกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
การตัดสินใจดังกล่าวของมาเลเซียอาจทำให้ความสัมพันธ์กับจีนตึงเครียดขึ้น แต่ ดร.มหาเดร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย มีจุดยืนเป็นอิสระ โดยนับตั้งแต่กลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังประสบชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ดร.มหาเดร์ ได้สั่งยกเลิกโครงการสาธารณูปโภคขนาดยักษ์ในมาเลเซีย มูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 654,840 ล้านบาท) ที่หลายบริษัทของจีนได้รับ
นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีคนที่แล้ว ถูกมองว่าเป็นมิตรกับปักกิ่งมากเกินไป ปีที่แล้วรัฐบาลของนาจิบเนรเทศชาวอุยกูร์ 29 คนไปให้จีน โดยระบุว่าเกี่ยวพันกับกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา