วันพุธ (6มี.ค.) รัฐบาลเวเนซุเอลาของ ปธน.นิโคลัส มาดูโร ได้ประกาศให้เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศเป็นบุคคลไม่พึงปราถนา และสั่งขับเขาให้ออกจากประเทศภาย 48 ชั่วโมง ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเมืองของเวเนซุเอลาทวีความรุนแรงมากขึ้น เดอะการ์เดียนรายงาน
การตัดสินใจขับนายเดเนียล ครีเนอร์ เอกอัครราชทูตเยอรมนี ซึ่งประจำอยู่ที่กรุงคารากัสมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้ประกาศบนทวิตเตอร์ โดยนายจอร์จ อาเรียซา (Jorge Arreaza) รัฐมนตรีต่างประเทศของเวเนซุเอลา
รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลากล่าวว่า การตัดสินใจนี้วางอยู่บนฐานการกระทำของ นายครีเนอร์ที่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ในแถลงการณ์ฝ่ายบริหารของมาดูโร กล่าวหานายครีเนอร์และรัฐบาลเยอรมันว่าไร้สมองและทำ “ผิดกฎหมาย” ด้วยการแทรกแซงกิจการของเวเนซุเอลา
รัฐบาลเยอรมันเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ให้การยอมรับนายฮวน ไกวโด คู่แข่งของมาดูโร ในฐานะผู้นำที่ถูกต้องตามกฎหมายของเวเนซุเอลาเมื่อเดือนที่แล้ว
“เป็นผลให้นายครีเนอร์ ถูกกำหนดเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อออกจากดินแดนของสาธารณรัฐโบลีวาร์แห่งเวเนซุเอลา” แถลงการณ์ระบุ
สำนักงานกิจการต่างประเทศของเยอรมัน ออกมากล่าวว่า “ เราสามารถยืนยันได้ว่าเอกอัครราชทูต เดเนียล ครีเนอร์ ได้รับการประกาศว่าเป็น ‘บุคคลไม่พึงปราถนา’ ขณะนี้เรากำลังพิจารณาเรื่องขั้นตอนเพิ่มเติม รวมถึงกับพันธมิตรของเราในพื้นที่ด้วย”
ด้าน ไฮโค มาส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีประณามสิ่งที่เขาเรียกว่า “การตัดสินใจที่เข้าใจยาก” ว่าจะทำให้สถานการณ์ในเวเนซุเอลาเลวร้ายยิ่งขึ้น เขากล่าวว่าจะเรียกอัครราชทูตกลับ “เพื่อขอคำปรึกษา” เรื่องสถานการณ์ และว่าเยอรมนีจะสนับสนุนนายไกวโดต่อไป
นายครีเนอร์ อายุ 58 ปีเป็นหนึ่งในกลุ่มนักการทูตต่างประเทศที่เดินทางไปยังสนามบินนานาชาติหลักของเวเนซุเอลาเมื่อวันจันทร์เพื่อทักทายนายไกวโดในขณะที่เขาเดินทางกลับประเทศหลังจากทัวร์อเมริกาใต้