เพรสทีวี – ตุรกี, กาตาร์, จีน, และอิรัก ได้ประณามการเคลื่อนไหวล่าสุดของโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ขึ้นบัญชี กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) เป็น “กลุ่มก่อการร้าย”
รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี เมฟลุต คาโวโซกลู กล่าววานนี้ว่า “การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการกระทำนอกเหนือกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะปูทางไปสู่ความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่อไป”
“นี่เป็นการตัดสินใจด้านเดียวของสหรัฐฯ ในบริบทของการคว่ำบาตรและสร้างแรงกดดันต่ออิหร่าน” เขากล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับพันธมิตรกาตาร์ของตน
“ถึงแม้เราจะไม่สนับสนุน IRGC ให้อยู่ในซีเรีย แต่ไม่มีประเทศใดสามารถประกาศว่ากองทัพของประเทศอื่นเป็นองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้เรายังไม่สนับสนุนการตัดสินใจฝ่ายเดียวนี้ (ของสหรัฐ)” เขากล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์ มูฮัมหมัด บินอับดุลเลาะห์มาน อัษษานี ยังประณามสหรัฐในการขึ้นบัญชีดำกองทัพอิหร่านครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “การไม่เห็นด้วยกับ ‘พฤติกรรม’ ของกองทัพประเทศอื่น ไม่ควรแก้โดยการออกมาตรการแซงชั่น”
แบกแดดก็เช่นกันที่ออกมาเตือนสหรัฐและพันธมิตรริยาดว่า การกระทำดังกล่าวจะมี “ผลกระทบเชิงลบในอิรักและในภูมิภาค” และการเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้ภูมิภาคสั่นคลอนได้อีก นาย อาเดล อับดุลมะห์ดี นายกรัฐมนตรีอิรัก ระบุ
ตามรายงานนี้ เขายังได้ติดต่อกับกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนและรัฐบาลอียิปต์เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว
“เราพยายามที่จะหยุดการตัดสินใจของชาวอเมริกัน เรายื่นมือออกไปทุกด้านถึงสหรัฐฯ และซาอุดิอาระเบีย” นายกรัฐมนตรีอิรักอิรักกล่าวในงานแถลงข่าววันอังคาร การเพิ่มระดับใดๆ เขากล่าวว่า “จะทำให้พวกเราทุกคนพ่ายแพ้”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีอิรัก บาร์ฮาม ซาและห์ ได้พบกับเคนเนต แมคเคนไซน์ ผู้บัญชาการกองกำลังกลางสหรัฐ หรือ “เซนท์คอม” (US CENTCOM) ในเมืองหลวงของแบกแดด เรียกร้องให้ลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐก็ได้รับการประณามจากกองกำลังอาสาสมัครประชาชนปกป้องอิรัก (Iraq’s Popular Mobilization Forces ) และกลุ่มการเมืองของอิรัก
ส่วนนายหลู่ กัง (Lu Kang) โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จีนยืนยันเสมอว่าทุกประเทศควรปฏิบัติตามแนวทางขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บนพื้นฐานของวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แทนที่จะใช้อำนาจทางการเมืองและการกลั่นแกล้ง
“ เราหวังว่าประเทศที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาอำนาจสำคัญนอกภูมิภาคจะทำสิ่งต่างๆ ที่เอื้อต่อสันติภาพและความมั่นคงของตะวันออกกลาง แทนที่จะใช้มาตรการที่จะนำไปสู่ความตึงเครียดในภูมิภาค” นายหลู่กล่าวในการบรรยายสรุปตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว
ความคิดเห็นเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (8 เม.ย.) กำหนดให้ IRGC เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ (FTO) ภายใต้มาตรา 219 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐ
ในการตอบโต้ต่อการขึ้นบัญชีดังกล่าว อิหร่านก็ได้ขึ้นบัญชี กองบัญชาการกลางสหรัฐ หรือ “เซนท์คอม” (US CENTCOM) ในฐานะองค์กรก่อการร้ายเช่นเดียวกัน และขู่ว่ากองกำลังสหรัฐในภูมิภาคนี้จะไม่อาจอยู่อย่างสงบได้อีกต่อไป