เจ้าชายอับดุลอาซิซ บินซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า การผลิตน้ำมันที่โรงงาน ซาอุดี้ อารามโก สองแห่งได้หยุดลงชั่วคราว หลังถูกโจมตีโดยโดรนของกลุ่มกบฎฮูซีแห่งเยเมน
การโจมตีดังกล่าวทำให้การผลิตน้ำมันดิบและประมาณ 5.7 ล้านบาร์เรล หรือประมาณ 50% ของการผลิตทั้งหมดของบริษัทน้ำมันแห่งชาติหยุดชะงัก รัฐมนตรีพลังงานซาอุฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (14 ก.ย.) ตามรายงานของสำนักข่าวซาอุดีอาระเบีย (SPA)
รัฐมนตรีพลังงานซาอุฯยังอธิบายด้วยว่า การระเบิดจากการโจมตีนี้ทำให้ต้องหยุดการผลิตสารประกอบปิโตรเคมีประมาณ 2 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งใช้ในการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 700,000 บาร์เรล ลดปริมาณการจัดหาก๊าซอีเทนและก๊าซธรรมชาติอื่นๆ ประมาณ 50% สำนักข่าว SPA ระบุ
อย่างไรก็ตาม เจ้าชายอับดุลอาซิซเน้นว่า การโจมตีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการจัดหาไฟฟ้าและน้ำ หรือการส่งเชื้อเพลิงให้กับตลาดท้องถิ่น และไม่ได้ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บในหมู่คนงานที่ไซต์เหล่านี้ แม้ว่าบริษัทจะทำการประเมินผลกระทบก็ตาม
ซาอุดี้ อารามโก (Saudi Aramco) เป็นยักษ์ใหญ่ด้านเชื้อเพลิงที่รัฐเป็นเจ้าของ ดำเนินงานและควบคุมการผลิตส่วนใหญ่ของอาณาจักรซาอุฯ และโรงกลั่นน้ำมัน
โรงผลิตน้ำมัน 2 แห่งของ “อารามโก” ที่แหล่งอับคิก (Abqaiq) และกูเรซ (Khurais) ไฟไหม้โขมงอันเนื่องจากการโจมตีโดยอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน
“ฮูซี” กองกำลังติดอาวุธของเยเมน อ้างความรับผิดชอบในการโจมตีนี้
ตามคำแถลงของกองกำลังฮูซี ที่ออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์อัลมาซีร่า พวกเขาใช้โดรน 10 ลำในการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันอับคิกและกูเรซ ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการในเขตซาอุดิอาระเบียของฮูซีที่ใหญ่ที่สุดจนถึงวันนี้
