มุสลิมไทยรวมตัวชุมนุมหน้าสถานทูตอิสราเอล ประณามยิวไซออนิสต์ยึดครองปาเลสไตน์ เนื่องในวันอัลกุดส์สากล ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน
วันนี้ (10 ก.ค.58) ที่บริเวณถนนอโศก ช่วงบริเวณหน้าธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย อาคารคิวส์เฮ้าส์ ซอยสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา มีมุสลิมไทยราว 300-500 คนมาได้ร่วมชุมนุม เนื่องในวันอัลกุดส์สากล ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้วันศุกร์สุดท้ายในเดือนรอมฎอนหรือเดือนการถือศีลอดของทุกๆ ปี ถูกประกาศในเป็น “อัลกุดส์สากล” จากอิมามโคมัยนี นักการศาสนาและผู้นำการปฏิวัติแห่งอิหร่าน เพื่อให้มุสลิมทั่วโลกได้แสดงพลังทวงคืนมัสยิดอัลอักซอ และร่วมประณาม การยึดครองปาเลสไตน์ของรัฐเถื่อนไซออนิสต์อิสราเอล
กลุ่มผู้ชุมนุมชาวไทยมุสลิมได้เริ่มตั้งขบวนเมื่อเวลา 14.00 น. จากหน้าอาคารคิวส์เฮ้าส์ เพื่อเดินขบวนไปยังหน้าอาคารโอเชียน ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย ที่อยู่ชั้น 25 โดยผู้ชุมนุมได้ตะโกนประณาม “อิสราเอลจงพินาศ อเมริกาจงพินาศ” ตลอดเส้นทางการเดินขบวน
การตั้งขบวนชุลมุนเล็กน้อยในตอนแรก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ใช้รถขยายเสียง ซึ่งที่สุดผู้ชุมนุมก็ยินยอม แต่การไม่มีรถขยายเสียง ก็ทำให้การสั่งการเคลื่อนขบวนเป็นไปอย่างล่าช้า ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักราว 45 นาทีที่ขบวนผู้ชุมนุมอยู่บนถนนอโศก
เมื่อผู้ชุมุนมไปถึงหน้าอาคารโอเชียน ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตอิสราเอล ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้โทรโข่งสลับกันขึ้นปราศรัยประณามรัฐบาลอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา
นายศักดา บินซาเล็ม หรือ เชคฮุเซน นักการศาสนา ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม และกล่าวว่า
“เป็นประจำทุกปีที่เรามาร่วมชุมนุมกันที่นี่ เพื่อทวงสิทธิให้ชาวปาเลสไตน์และพูดถึงความชั่วร้ายของรัฐเถื่อนไซออนิสต์”
“ตราบเท่าที่ยังมีสถานทูตยิวไซออนิสต์อยู่ในประเทศไทย เราก็จะมาในทุกปี”
“ผมดีใจที่ทราบข่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อคราวที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปประชุมที่จาการ์ตานั้น ท่านได้หารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีแห่งรัฐปาเลสไตน์ด้วย เราขอประกาศว่าขอให้การสนับสนุนรัฐบาลที่อยู่กับผู้ถูกกดขี่ในทุกรัฐบาล” นายศักดา บินซาเล็ม หรือ เชคฮุเซน กล่าว
ด้านนายเลอพงษ์ ซาร์ยีด หรือ ซัยยิดมุบาร็อก ฮูซัยนี นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน ซึ่งขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย ได้กล่าวว่า “การชุมนุมครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการชุมนุมทางด้านศาสนา และเป็นการชุมนุมด้วยความสงบ ซึ่งเราทำเป็นประจำทุกปี โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้สิทธิเสรีภาพทางด้านศาสนาโดยมีพระบามสมเด็จพระเจา้อยู่หัวเป็นอัครศาสนูปถัมภกในทุกศาสนาของประเทศไทย”
“เป็นที่รู้กันว่าทุกปีของวันกุดส์สากลเราจะเจอกันที่นี่เพื่อร่วมประณามรัฐเถื่อนไซออนิสต์ต่อการรุกรานและยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่วันนี้มุสลิมทั่วทุกมุมโลกจะออกมาเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมให้แก่ชาวปาเลสไตน์” นายเลอพงษ์ กล่าว
นายเลอพงษ์ระบุบนเวทีปราศรัยด้วยว่า แต่เดิมการเดินขบวนจะใช้เวลาเพียงราว 1 ชัวโมงเท่านั้น แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้บล็อกรถขยายเสียง จึงทำให้มีการต่อรองในช่วงแรก จึงส่งผลให้เวลายืดเยื้อกว่าที่กำหนดไว้ รวมทั้งการไม่มีรถขยายเสียงก็ทำให้การสั่งการเคลื่อนขบวนมีอุปสรรค ส่งผลให้การจราจรติดขัดมาก อย่างไรก็ดีในปีนี้ผู้ชุมนุมได้ปฏิบัติตามคำขอของเจ้าหน้าที่ที่งดใช้รถขยายเสียง และไม่เผาธงอิสราเอลซึ่งทำเป็นประจำทุกปี รวมทั้งเลิกการชุมนุมก่อนเวลา 15.30 น.
ทั้งนี้การชุมนุมประท้วงอิสราเอลได้เลิกเมื่อเวลาประมาณ 15.20 น. โดยนายเลอพงษ์ ซาร์ยีด หรือ ซัยยิดมุบาร็อก ฮูซัยนี เป็นผู้นำร้องเพลงชาติไทยพร้อมกัน จากนั้นผู้ชุมนุมก็ได้แยกย้ายกันไปโดยความสงบ
แถลงการณ์ผู้ชุมนุมเนื่องในวันอัลกุดส์สากล ปี 2558
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2558
————
ด้วยพระนามแห่งอัลเลาะฮ์ผู้ทรงเมตตากรุณายิ่ง มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของพระองค์ ขอความสันติจงมีแด่ท่านทั้งหลาย
ตลอดระยะเกือบ 70 ปี ที่ขบวนการยิวไซออนิสต์ได้ยึดครองและก่อตั้งรัฐเถื่อนอิสราเอล บนผืนแผ่นดินปาเลสไตน์นั้น นอกจากปล้นสะดมแผ่นดินแม่ไปจากชาวปาเลสไตน์แล้ว ยิวไซออนิสต์ ได้ก่ออาชญากรรมและกดขี่ขมเหงชาวปาเลสไตน์ด้วยความป่าเถื่อนและโหดร้ายนานับประการอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์จะกระทำต่อมนุษย์ด้วยกันได้ถึงเพียงนั้น
ด้วยเหตุนี้ “ท่านอิมามโคมัยนี” นักการศาสนาและมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกอิสลาม จึงได้ ประกาศและกำหนดให้วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนในทุกปีเป็นวัน “วันอัลกุดส์สากล” ซึ่งได้ถูก ขานรับจากมวลมุสลิมทั่วทุกมุมโลก
เป้าหมายของ “วันอัลกุดส์สากล” ก็เพื่อเรียกร้องให้มวลประชาชาติมุสลิมและมนุษยชาติ ที่ใฝ่หาความยุติธรรมได้หันมาสนใจชะตากรรมของพี่น้องปาเลสไตน์ และเชิญชวนให้ออกมารวมพลัง ประกาศความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการปกป้องและทวงคืนสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนผู้ถูก กดขี่เหล่านั้น
วันนี้ เนื่องในวันอัลกุดส์อันศักดิ์สิทธิ์ มวลมุสลิมและผู้รักความยุติธรรมได้ออกมาร่วมชุมนุม ทั่วทุกมุมโลกเพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าพร้อมที่จะยืนเคียงข้างพี่น้องชาวปาเลสไตน์ ทั้งเป็นการส่งสาร ไปยังยิวไซออนิสต์และข้าทาสบริวารให้ได้รับรู้ว่า อีกในไม่ช้ารัฐเถื่อนอิสราเอลที่สร้างบนคราบเลือด และน้ำตาของชาวปาเลสไตน์นั้นจักต้องพังทลาย โดยที่สุดพวกเขาจะต้องวางมือจากแผ่นดิน ปาเลสไตน์และกลับไปอยู่ในที่ของตนเอง ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ก็จะได้หวนกลับสู่มาตุภูมิของตน
อันที่จริง วันอัลกุดส์สากล มิใช่เป็นวันของชาวปาเลสไตน์เพียงเท่านั้น ทว่าวันนี้คือ วันแห่งอิสลาม เป็นวันแห่งการประกาศต่อหน้าบรรดามหาอำนาจผู้กดขี่ทั้งหลายว่า อิสลามจะไม่อยู่ ภายใต้อำนาจของพวกเขาอีกต่อไป อิสลามจะไม่ให้ความร่วมมือกับผู้อธรรมบนหน้าแผ่นดินอีกต่อไป
นอกจากนั้นแล้ว วันอัลกุดส์นี้ยังเป็นวันแห่งสัญลักษณ์ของการต่อสู้และไม่ยอมแพ้ เป็นวัน แห่งเอกภาพและการร่วมมือของมนุษยชาติในการยืนหยัดเคียงข้างผู้ถูกกดขี่ทั่วโลก ไม่ว่าเขาจะเป็น มุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิม เป็นวันที่บรรดา “ผู้ถูกกดขี่” ทั่วโลกที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับผู้กดขี่ …เป็นวัน แห่งการเผชิญหน้าระหว่างผู้ด้อยโอกาสกับผู้อหังการ …เป็นวันแห่งการต่อกรของมนุษยชาติกับ มหาอำนาจผู้กดขี่ทั้งหลาย
การมาร่วมชุมนุมของเราวันนี้ก็เพื่อมาสำแดงพลังแห่งเสรีชนผู้ใฝ่หาความยุติธรรม เราขอ ประกาศว่า มุสลิมและผู้รักความยุติธรรมในประเทศไทย ขอคัดค้านและร่วมประณามรัฐเถื่อน ไซออนิสต์รวมทั้งผู้รว่มสมคบคิดในการก่ออาชญากรรมต่อชาวปาเลสไตน์ เราจะยืนหยัดเพื่อต่อต้านและหยุดยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวปาเลสไตน์ เราจะยืนหยัดเพื่อต่อต้านการกระทำอันป่าเถื่อนของโจรก่อการร้ายไอซิสที่มีต่อประชาชนอิรัก เราจะยืนหยัดเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายและการกดขี่ที่มีต่อผู้บริสุทธิ์ในทุกๆแผ่นดิน เราพร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างผู้ถูกกดขี่ในทั่วทุกมุมโลก เพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งเสรีภาพและความสันติสุขตามเจตนารมณ์แห่งพระผู้เป็นเจ้า
