สหรัฐฯ รู้สึกว่าจำเป็นต้องมีฐานขีปนาวุธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังจากปล่อยกองทัพเรือเข้าสู่น่านน้ำจีน และความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธของจีนจะคุกคามเรือเดินทะเลของตน และไทยเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!!
ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ติดอันดับต้นๆ ประเทศที่รับมือไวรัสนี้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ในเรื่องนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “ศบค.” ของไทยได้สร้างกฎและระเบียบการที่เข้มงวดมากสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการตัดสินใจนี้ได้ผลดีมาก
ทว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 07.00 น. กองทหารสหรัฐฯ 71 นายเดินทางจากเกาะกวม โดยเที่ยวบิน OAE6555 เครื่องบินโดยสารของเอกชนเช่าเหมาลำไปยังสนามบินอู่ตะเภา ในอำเภอสัตหีบ ชลบุรี ประเทศไทย
กองทหารสหรัฐฯ ชุดนี้ถูกส่งไปประจำการที่โรงแรมคอนราด ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวทางเลือกของรัฐ (Alternative State Quarantine – ASQ) เพื่อเข้าร่วมการฝึกซ้อมรบ SFAB SMEE ของกองทัพไทย
ในวันเดียวกัน 3 สิงหาคม เวลา 18.00 น. เครื่องบิน RCH-552 ของกองทัพสหรัฐฯซึ่งบรรทุกกองกำลังอื่น ๆ อีก 32 นายจากเมืองโยโกตะ ประเทศญี่ปุ่น ก็เดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภา เพื่อเข้าร่วมการฝึกซ้อม Balance Torch ของกองทัพไทย ทหารชุดนี้พักที่ โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์
วันรุ่งขึ้น 4 สิงหาคมเวลา 00:15 น. เครื่องบิน TREK-948 ของกองทัพอากาศสหรัฐเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภาจากโอกินาวา และกองทัพสหรัฐฯอีก 7 นายเดินทางถึงอนันตราริเวอร์ไซด์เพื่อเข้าร่วมการฝึก Balance Torch และอีกสามคน เพื่อเข้าร่วมการฝึก HMA เข้าพักที่โรงแรม Idel ในปทุมธานี
ศบค.ประกาศเมื่อเช้าวันที่ 3 สิงหาคมว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อความร่วมมือทางทหาร หลังการประกาศกองทัพสหรัฐฯ ก็เดินทางถึงประเทศในเวลา 8.00 น. ของวันเดียวกัน สร้างความไม่พอใจต่อพรรคการเมืองบางพรรคในประเทศไทย ศบค.ต้องมาประกาศเพื่อสงบสถานการณ์ว่า ก่อนที่ทหารอเมริกันจะมาถึง ทางศบค.ได้ขอให้กองทัพไทยระงับการเดินทางของทหารอเมริกัน แต่ศบค.เผชิญกับการปฏิเสธจากกองทัพและกองทัพได้แจ้งให้ศบค.ทราบว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงแห่งมาตุภูมิดังนั้นทหารสหรัฐฯ ต้องเข้ามาประเทศไทย
ทหารอเมริกันในเมืองโอกินาวาของญี่ปุ่นเป็นสาเหตุของการระบาดในเมืองนี้และเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของโรคนี้ในโยโกตะ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมยอดผู้เติดเชื้อล่าสุดในโอกินาวาคือ 637 คน ในจำนวนนี้เป็นทหารสหรัฐฯ 286 คนที่ฐานทัพโอกินาวา หรือร้อยละ 40 ของจำนวนผู้ติดเชื้อโอกินาวาเป็นทหารสหรัฐฯซึ่งสูงที่สุดในญี่ปุ่น กองทหารอเมริกันในโอกินาวามีสิทธิพิเศษสูงและได้รับอนุญาตให้เดินทางในเมืองได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสวมหน้ากาก ใช้ไนท์คลับในเมือง และการสัญจรไปมาท่ามกลางประชาชนทั่วไป
กองทัพสหรัฐฯ กำลังทำอะไรอยู่ในประเทศไทย?
คำถามที่เกิดขึ้นกับประชาชนและหัวหน้าพรรคบางคนก็คือ ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามหรือขัดแย้งกับประเทศใดประเทศหนึ่ง และในสถานการณ์ที่ยากลำบากเหล่านี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีสำหรับการฝึกทางทหาร แต่การปรากฏตัวของ “พล.อ.เจมส์ ซี. แมคคอนวิลล์” (ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ) เมื่อเดือนที่แล้ว และการเข้ามาของกองทัพสหรัฐฯ ในเดือนนี้มันนำกลับไปสู่ประเด็นอื่นๆ นั่นคือ สหรัฐฯ รู้สึกว่าจำเป็นต้องมีฐานขีปนาวุธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังจากปล่อยกองทัพเรือเข้าสู่น่านน้ำจีน และความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธของจีนจะคุกคามเรือเดินทะเลของตน
เมื่อมองไปที่อาเซียนและตะวันออกไกล เราจะเห็นว่ากัมพูชาเป็นพันธมิตรของจีน เวียดนามมีความเป็นศัตรูกับสหรัฐฯมายาวนาน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ไม่พร้อมที่จะร่วมมือ และสิงคโปร์ไม่มีฐานขีปนาวุธ ดังนั้นไทยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฐานทัพขีปนาวุธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากจีนเปิดตัวขีปนาวุธพิสัยกลางตงฟาง (Dong Fang) สหรัฐอเมริการู้สึกถูกคุกคามมากขึ้นดังนั้นจึงต้องการฐานขีปนาวุธที่สามารถยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงในพื้นที่ซึ่งพร้อมใช้งาน
กองทหารสหรัฐฯ ที่เข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นช่างเทคนิคและวิศวกรทางทหารของสหรัฐฯ การเดินทางมาประเทศไทยของพวกเขาก็เพื่อสำรวจสถานที่และเตรียมความพร้อมของประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์หลัก นั่นคือการสร้างฐานขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สิ่งนี้ก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่คนไทยและหลายพรรคการเมืองของประเทศนี้ จนถึงจุดที่หลายพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยไปจนถึงอนุรักษ์นิยมได้คัดค้านการมีฐานขีปนาวุธมีความเร็วเหนือเสียงของสหรัฐฯในประเทศไทย
นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังบอกอย่างเป็นทางการกับกองทัพไทยว่า หากกองทัพต้องการนำสงครามระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเข้ามาในประเทศไทยและยินยอมให้สหรัฐฯ ตั้งฐานในประเทศไทย กลุ่มของพวกเขาจะเปิดการเดินขบวนขนาดใหญ่ทั่วประเทศโดยร่วมมือกับทุกกลุ่มและทุกฝ่าย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯได้ส่งกองกำลังไปฝึกและเตรียมความพร้อมให้ทหารไทยใช้อาวุธอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการส่งทหารจำนวนน้อยมากเข้ามาโดยอ้างว่าเพื่อร่วมในการซ้อมรบ
สำหรับคนไทย เป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดสหรัฐอเมริกาซึ่งมีเกาะกวมและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศต่างๆเช่นญี่ปุ่นและเกาหลีจึงเลือกประเทศไทยให้ทำเช่นนั้น และทำไมทหารและรัฐบาลของไทยจึงตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อนำประเทศไทยเข้าไปอยู่ในวังวนความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีน?
กองทหารสหรัฐฯมีกำหนดอยู่ในประเทศไทยเต็มเดือนจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม กองทัพสหรัฐฯ ในประเทศไทยเช่นที่มาจากโอกินาวายังคงมีสิทธิพิเศษและได้รับอนุญาตให้เลือกโรงแรมและที่พักในใจกลางเมือง แม้ว่าทีม ศบค. จะประกาศว่าพวกเขาอยู่ในสถานกักตัว แต่ก็มีการสังเกตว่าทหารอเมริกันกำลังเคลื่อนย้ายเข้าและออกจากโรงแรมตามปกติและไม่สวมหน้ากากในเมือง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากนั้นคือ กลยุทธ์การยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวในประเทศไทย
การตัดสินใจของสหรัฐฯในการสร้างฐานทัพขีปนาวุธในประเทศไทยจะทำให้ไทยแลนด์กลายเป็นโปแลนด์แห่งที่สองในการเผชิญหน้ากับจีน และวัฒนธรรมและนโยบายความเป็นกลางที่ยั่งยืนของ “ประเทศแห่งรอยยิ้ม” จะถูกกัดกร่อน!!
….
เขียนโดย: Alegandroo Gomez Delacroz
แปลเรียบเรียงจาก : NOURNEWS
*** ***มุมมองในบทความนี้เป็นของผู้เขียน และไม่จำเป็นต้องสะท้อนจุดยืนของกองบรรณาธิการเดอะพับลิกโพสต์