อัลจาซีรา/รอยเตอร์ – รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ เผยเตรียมเจรจารอบที่ 5 กับอิหร่าน แม้ก่อนหน้านี้จะไม่มี “ความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม”
ซาอุดีอาระเบียตัดสัมพันธ์กับอิหร่านในปี 2016 หลังสถานทูตของตนในกรุงเตหะรานถูกผู้ประท้วงโจมตีอันเนื่องจากริยาดประหารชีวิตนักการศาสนาชีอะห์คนสำคัญชาวซาอุฯ สองมหาอำนาจในภูมิภาคได้เปิดการเจรจาเมื่อปีที่แล้วโดยมีอิรักยื่นมือเข้าเป็นเจ้าภาพ
เจ้าชาย ไฟซอล ฟาร์ฮาน อัลซาอูด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (19 ก.พ.) ที่การประชุมความมั่นคงในนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี ว่า หากการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 อิหร่านบรรลุอีกครั้ง ก็ควร “จะเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ใช่จุดพบ” เพื่อแก้ปัญหาความกังวลในระดับภูมิภาค
ซาอุดีอาระเบียวิจารณ์ข้อตกลงนี้ที่ไม่จัดการกับโครงการขีปนาวุธของเตหะราน
เจ้าชาย ไฟซอลระบุว่า ซาอุดีอาระเบียยังคงสนใจในการเจรจากับอิหร่าน แต่ก็เรียกร้องให้ทางอิหร่านเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และปรารถนาอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่
“อิหร่านเพื่อนบ้านของเราจะต้องมีความปรารถนาอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่มีอยู่ … เราหวังว่าจะมีความปรารถนาอย่างจริงจังที่จะหาวิธีการใหม่” เขากล่าว
“ถ้าเราเห็นความคืบหน้าที่สำคัญในเรื่องเหล่านั้น ใช่แล้ว การสร้างสายสัมพันธ์นั้นเป็นไปได้ แต่จนถึงตอนนี้ เรายังไม่เห็นสิ่งนั้น” เขากล่าวกับการประชุมความมั่นคงมิวนิก
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นมุสลิมซุนนี และอิหร่านซึ่งเป็นมุสลิมชีอะห์ แข่งขันกันสร้างอิทธิพลในภูมิภาคและมีความขัดแย้งในหลายเหตุการณ์ทั่วตะวันออกกลาง เช่นในเยเมนที่ซาอุฯ นำกลุ่มพันธมิตรอาหรับทำสงครามกับกลุ่มกบฎฮูซีที่อิหร่านหนุนหลัง และในเลบานอน ซึ่งอิทธิพลของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลังกำลังเพิ่มสูง ได้ทำลายความสัมพันธ์ของเลบานอนกับประเทศอาหรับอื่นๆ ในภูมิภาค