ซาอุฯ ประหารชีวิตรวดเดียว 81 ราย

ซาอุดีอาระเบียได้ประหารชีวิตชาย 81 คนภายในวันเดียว ในจำนวนนี้รวมชาวเยเมน 7 คนและชาวซีเรีย 1 คน ในข้อหาต่างๆ รวมถึง “จงรักภักดีต่อองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ” และยึดถือ “ความเชื่อที่ผิดเพี้ยน” อัลจาซีรารายงานอ้างอิงสำนักข่าว SPA ของทางการซาอุฯ

“บุคคลเหล่านี้ … ถูกตัดสินว่ามีความผิดหลายอย่างรวมถึงการสังหารชายหญิงและเด็กผู้บริสุทธิ์” SPA รายงานเมื่อวันเสาร์ (12 มี.ค.) โดยอ้างคำแถลงจากกระทรวงมหาดไทย

“อาชญากรรมที่กระทำโดยบุคคลเหล่านี้ยังรวมถึงการให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ เช่น ไอซิส อัลกออิดะห์ และฮูซี” รายงานระบุ

ชายเหล่านี้รวมถึงชาวซาอุดีอาระเบีย 37 คน ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีเดียว ฐานพยายามลอบสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และมุ่งเป้าไปที่สถานีตำรวจและขบวนรถ รายงานเสริม

การประหารชีวิตครั้งใหญ่ล่าสุดของซาอุดิอาระเบียเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2016 เมื่อซาอุฯประหารชีวิตผู้คน 47 ราย รวมถึงผู้นำฝ่ายค้านชาวชีอะฮ์ที่มีชื่อเสียงซึ่งได้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลซาอุฯ

ในปี 2019 ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียได้ตัดศีรษะชาวซาอุดิอาระเบีย 37 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวชีอะห์ ในการประหารชีวิตครั้งใหญ่ทั่วประเทศในข้อหาก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ “การก่อการร้าย”

การละเมิดสิทธิมนุษยชนของซาอุดิอาระเบียอยู่ภายใต้การตรวจสอบที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและพันธมิตรตะวันตก นับตั้งแต่การสังหารจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบียในปี 2018

ซาอุฯต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อกฎหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมืองและศาสนา และการใช้โทษประหารชีวิต รวมถึงจำเลยที่ถูกจับกุมทั้งที่พวกเขายังอยู่ในวัยเยาว์

ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกล่าวว่าซาอุดิอาระเบียปกป้องความมั่นคงของชาติตามกฎหมาย