กรณี KFC กลายเป็นปัญหาโลกแตก ที่คณะกรรมการกลางฯ ยังหาทางออกไม่เจอ ยิ่งแก้ยิ่งมีปัญหา กลายเป็นลิงพันแห แถมนำไปสู่ความร้าวฉานภายกอท.อีกด้วย
สิ่งที่ KFC ได้เปรียบคณะกรรมการกลางฯ คือความน่าเชื่อถือของตลาด ในฐานะที่เป็นสินค้าเชิง “สัญญะ” คือ สินค้าที่ขายภาพลักษณ์ที่ผู้บริโภครู้สึกดี มีความภาคภูมิใจ หรือได้รับภาพบลักษณ์ที่ดีด้วย เมื่อใช้บริการ ซึ่งหาไม่ได้ใน “ไก่ทอดหาดใหญ่” ที่ขายตามแผงลอยหรือรถเข็ญ รับประทานเพื่อความอิ่มเพียงอย่างเดียว
KFC เคยได้รับเครื่องหมายฮาลาลก่อนประกาศใช้กฎหมายบริหารกิจการอิสลาม 2540 ในสมัยจุฬาราชมนตรีประเสริฐ มะหะหมัด ก่อนจะมายกเลิกเมื่อมีการยกงานรับรองฮาลาลให้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่ง ประเทศไทย รับผิดชอบ ด้วยเงื่อนไขที่ ตกลงกันไม่ได้ระหว่าง KFC กับ กอท. แต่เป็นเงื่อนไขที่สังคมมุสลิมส่วนหนึ่งเข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะKFC ไม่ฮาลาลกรรมการกลางฯหลายคนก็พูดไม่ชัดว่า ทำไมถึงรับประทาน KFC ไม่ได้ เพียงแต่มีข้อสงสัยในส่วนผสมว่า ฮาลาลหรือไม่ เพราะไก่ที่นำมาทอดขาย เป็นไก่จากสหฟาร์มที่ได้รับการรับรองฮาลาล
ในช่วงเวลา 16 ปี KFC ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมุสลิม ด้วยการว่าจ้างพนักงานมุสลิมะห์คลุมฮิญาบยืนให้บริการหน้าร้าน ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและหลายจังหวัดในภาคใต้ ดึงดูดคนมุสลิมเข้าร้านได้มากมายมหาศาล โดยไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัยในความเป็นฮาลาลหรือไม่อีกต่อไป เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ต้องเสียเงินให้ฝ่ายกิจการฮาลาล แต่ได้ผลมากมายมหาศาล ซึ่งคณะกรรมการกลางฯ ไม่สามารถดำเนินมาตรการเพื่อจัดการกับ KFC ได้ ไม่สามารถให้มุสลิมทำงานใน KFC ได้ ไม่สามารถไม่ให้ KFC จ้างพนักงานมุสลิมได้
สถานการณ์ดำเนินต่อไป จนเมื่อปลายปี 2556 คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต ได้ให้การรับรอง KFC ภูเก็ต 11 สาขา ดูเหมือนจะสร้างความเดือดแค้นให้กับคณะกรรมการกลาฯบางคนอย่างยิ่ง นำไปสู่การประชุมคณะกรรมการกลางฯที่จังหวัดภูเก็ต กำหนให้แฟรนไชส์ห้ามออกฮาลาลจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ถ้าจะออกจะต้องออกทั้งระบบ มีการนำประเด็นนี้ มาขยายผลโดยเจาะจงไปที่ KFC คนที่นำมาขยายผลไม่ใช่ใครทีไหน เจ้าเก่ารายเดิม “วิสุทธิ์ บินลาเต๊ะ”
ในทันควัน กอจ.ภูเก็ต ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันความถูกต้องในการให้การรับรอง KFC ประธานกอจ.ภูเก็ต ยืนยันว่า พร้อมจะรับผิดชอบทั้งโลกนี้และโลกหน้า
หลังจากนั้น คณะกรรมการกลางฯ ต้องนัดประชุมใหญ่ที่พัทยา เพื่อออกระเบียบใหม่มาสกัดกั้น เพราะหลังจากภูเก็ตออกตรารับรอง KFC มีหลายจังหวัดภาคใต้ ดำเนินรอยตาม จังหวัดในภาคกลางบางจังหวัดก็จับมือขับเคลื่อนฮาลาลร่วมกัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับคณะกรรมการฝ่ายกิจการฮาลาล
อีกด้านหนึ่ง ก็มีกระแสข่าวเรื่องผลประโยชน์ของคณะกรรมการฯบางคน ที่มีผลประโยชน์จากการจัดระบบการผลิตแบบฮาลาลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย กอจ.จังหวัดจึงไม่ให้การยอมรับ
แม้จะมีมาตรการออกมา อย่างไรก็ตาม KFC ยังเป็น “หอก” ที่คอยทิ่มแทง กอท.ตลอดเวลา แม้ กรรมการจังหวัดไม่ให้การรังรองฮาลาล แต่กลยุทธ์ให้มุสลิมเป็นพนักงานในร้าน เป็นปัญหาที่ไม่อาจแก้ได้ด้วยการสร้างกระแสผ่านสื่อโซเชียล
เป็นศึกที่ ฝ่ายทุนได้เปรียบเต็มประตู