โลกอึ้ง!! ไทยเนรเทศนักเคลื่อนไหวส่งกลับจีน

รายงานของสถานีวิทยุเอเชียเสรี (RFA) เปิดเผยว่าทางการไทยได้เนรเทศชาวจีน 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีนักกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลจีน 2 ราย ที่มีสถานะ “ผู้แสวงหาที่ลี้ภัย” ด้วย โดยนักเคลื่อนไหวซึ่งหนีรัฐบาลจีนเข้ามาอยู่ประเทศไทย 2 รายดังกล่าว ถูกตม.ส่งกลับเมืองจีนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีเจ้าของร้านขายหนังสือในฮ่องกง ซึ่งจำหน่ายหนังสือวิจารณ์รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน ก็หายตัวไประหว่างที่เดินทางมาประเทศไทยเช่นกัน

นักเคลื่อนไหวทั้งสองคือ นายเจี่ยง เย่ เฟย การ์ตูนนิสต์ที่เคยถูกทางการจีนจับกุมและทรมานเมื่อปี 2551 หลังจากที่เขาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนในประเด็นการรับมือปัญหาผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเสฉวน ส่วน นายตง กว่าง ผิง ถูกจับหลังจากเข้าร่วมการชุมนุมอย่างสงบเพื่อไว้อาลัยเหยื่อจากเหตุสลายการชุมนุมที่เทียนอันเหมินปี 2532 โดยทั้งคู่หนีเข้าเมืองไทยพร้อมกับครอบครัว แต่ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ไทยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยข้อหาไม่มีวีซ่าที่ถูกต้อง

ทั้งนี้นายตงหนีออกจากประเทศจีนพร้อมครอบครัวตั้งแต่เดือนกันยายน หลังจากต้องโทษจำคุก 3 ปี ระหว่างปี 2544-2547 ซึ่งก่อนหน้านี้เขาถูกลักพาตัวเข้าไปอยู่ในสถานที่ควบคุมตัวลับ เป็นเวลา 8 เดือนในปี 2557 โดยที่ภรรยาของเขาที่หนีมาด้วยกัน ชู ชาหัว (Chu Shahua) ขณะนี้ยังอยู่ในกรุงเทพฯ

ส่วน เจียง เยเฟย หลังถูกทรมานเขาพาครอบครัวได้ลี้ภัยมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ปี 2551 ด้านภรรยาของเขา ชู หลิง ซึ่งยังอยู่ในประเทศไทย กล่าวว่า ทั้งตง กว่าง ผิง และเจียง เย่ เฟย ถูกทางการไทยดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนถูกเนรเทศกลับเมืองจีน

หยาง จง นักกิจกรรมชาวจีนซึ่งพำนักอยู่ในไทย ระบุว่าการส่งนักกิจกรรมชาวจีนกลับเมืองจีนดังกล่าวครั้งนี้ ได้สร้างภาวะความกลัวขึ้นในหมู่นักกิจกรรมและผู้ลี้ภัยชาวจีนที่ยังอยู่ในประเทศไทย

ด้าน สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ได้ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลไทย ที่ส่งตัวนักเคลื่อนไหวที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนกลับประเทศ แม้ว่าทั้งคู่จะมีเอกสารรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจาก UNHCR และทั้งสองได้รับการรับรองจะให้ไปตั้งถิ่นฐานที่ประเทศที่สามแล้ว และกำลังจะออกเดินทางในอีกไม่กี่วันนี้ แต่ไทยกลับจับตัวพวกเขาส่งให้รัฐบาลจีนอย่างเงียบๆ ทั้งที่รู้ว่า ทั้งคู่จะต้องถูกลงโทษหรือทำร้ายจากทางการจีน

UNHCR ชี้ว่า การกระทำดังกล่าวของไทยเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังมาก และยิ่งตอกย้ำให้เห็นช่องว่างในกฎหมายไทยในการปฏิบัติกับคนที่จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองจากนานาชาติอย่างเหมาะสม เนื่องจากไทยยังไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยปี 2494 จึงไม่รับรองสถานะการเป็นผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาสถานภาพการเป็นผู้ลี้ภัย แม้รัฐบาลจะบอกว่ายอมรับอนุสัญญาในทางปฏิบัติก็ตาม

ที่มา: RFA