ผู้หญิงชาวยาซีดี (Yazidi) มากกว่า 5,000 คน ที่ถูกจับและถูกกดขี่ข่มเหงโดยนักรบไอซิส (ISIS) เมื่อผู้ก่อการร้ายในนามอิสลามกลุ่มนี้โจมตีเมืองซินจาร์ (Sinjar) ทางภาคเหนือของอิรักในเดือนสิงหาคม 2014
ผู้หญิงเหล่านั้น บางส่วนเป็นเพียงวัยรุ่น ซึ่งถูกบังคับให้มองดูกลุ่มก่อการร้ายไอซิสฆ่าครอบครัวของพวกเธอ ก่อนที่ถูกนำไปขายเป็นทาสทางเพศ
ขณะที่วันนี้หลายคนยังคงอยู่ในเงื้อมมือชั่วร้ายของไอซิส แต่ก็มีบางส่วนที่สามารถหลบหนีออกมาได้ พวกเธอได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่น่ากลัวของการละเมิด ข่มขืน เป็นทาส และการทรมานที่โหดร้าย
ในบางกรณี หญิงสาวได้กลับบ้านพร้อมกับเด็กในครรภ์ของพวกปีศาจร้าย
ไซวาน ซาลิม (Seivan Salim) ช่างภาพหญิงชาวอิรักได้ติดตามเรื่องราวของผู้หญิงบางส่วนที่หลบหนีมาได้
เธอได้ให้เห็นพวกนางสวมใส่ชุดแต่งงานแบบดั้งเดิมสีขาวของชาวยาซีดี – ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์
ผู้หญิงแต่ละคนได้บอกเล่าเรื่องราวด้วยคำพูดของเธอเอง
เมื่อไอซิสมาถึง ทุกคนต่างพากันหนีไปยังภูเขา แต่ผู้ก่อการร้ายจับพวกเขาได้ระหว่างทาง และบอกให้พวกเขาอยู่ในหมู่บ้านซึ่งพวกเขาจะปลอดภัย พวกไอซิสกล่าวว่า เราจะได้รับการปลดปล่อย พวกเขาโกหก พวกเขาพาเราไปยังประเทศซีเรียโดยรถบัส ฉันเป็นหนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้นที่มีประมาณสี่ร้อยคน
ผู้ชายคนที่เลือกฉันเขาขี้โมโหมาก เขาตีฉัน และขู่ว่าจะยิงฉัน เขาบอกฉันว่า เขาจะช่วยฉันให้ได้กลับไปหาพ่อแม่ที่เขาอ้างว่ากำลังจะตายอย่างแน่นอน ฉันบอกเขาว่าถ้าเขารู้ว่าพวกเขาตายแล้วเขาก็ควรจะฆ่าฉันด้วยเช่นกัน เขาพาเราไปที่ฟาร์มที่เราแทบจะไม่ได้กินอะไรเป็นเวลาแปดวัน พวกเขาลงทะเบียนชื่อของเราแล้วพวกเขาก็ขายเราอีกครั้ง แต่ละครั้งพวกเขาจะนำหญิงสาวไปประมาณสี่หรือห้าคนแล้วก็ขายไป จากนั้นกลับมาเอาพวกเราไปใหม่
คนหนึ่งซื้อฉันและพาฉันไปเมืองรักกา (Raqqa) เขาพาฉันไปขังที่คุกใต้ดิน ฉันอยู่ที่นั่นกับหญิงสาวคนอื่นๆ สิบสองวัน พวกเขามาและทุบตีเพื่อนของฉันด้วยเหตุเพราะพวกเธอไม่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม วันหนึ่งพวกเขามาขายฉันอีกครั้ง มีห้าคนมาดูและคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส เขาจะซื้อฉันหากว่าฉันทำอาหารได้และสามารถพูดภาษาอาหรับ ฉันบอกเขาว่าไม่ได้
เขาบอกว่า ฉันต้องเรียนรู้และพาฉันไปกับเขา เขาแค่พาฉันมาเพื่อไปขายอีกครั้ง คราวนี้ขายให้ชายชราคนหนึ่งจากประเทศซาอุดิอาระเบียที่อาศัยอยู่กับชาวจอร์แดน ฉันอยู่ในบ้านของพวกเขาโดยพวกเขานำอะบายา (เสื้อคุลม) สีดำและอาหารบางส่วนมาให้ฉัน พวกเขาปล่อยฉันให้อยู่ในห้องพักชั้นล่างโดยไม่ได้ล็อค ฉันสวมอะบายาและวิ่งหนีออกมา
เราอยู่ในทัล อะฟาร์ (Tal Afar) เป็นเวลาสองเดือนแล้วพวกเขาก็นำเราไปรักกา (Raqqa) ในซีเรีย ที่นั่นมีผู้หญิงของเราประมาณสามร้อยคนในห้องโถงขนาดใหญ่ ผู้หญิงทุกคนมีทารกที่ร้องไห้เพราะพวกเขาหิวมาก เด็กได้รับเพียงไข่หนึ่งฟองต่อวัน
คืนแรกมีหญิงสาว 9 รายพยายามจะหลบหนี พวกเธอผูกเสื้อผ้าเข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นเชือกและโรยตัวลงจากหน้าต่าง แต่นักรบไอซิสพบเห็นพวกเธอ และนำพวกเธอกลับมา พวกไอซิสทุบตีเราทุกคนเหตุเพราะเราไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับการหลบหนีของพวกเธอ
พวกเขานำเราทั้งหมดไปไว้ในห้องใหญ่ ล็อคประตู และไม่ให้น้ำกับพวกเรา แล้วในวันหนึ่งพวกเขาก็นำเราไปยังอาคารหลังหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าถูกเขียนไว้ประมาณว่า “พื้นที่สำหรับการขาย” และที่นั่นฉันก็ถูกขายให้กับชายอายุ 40 ปีคนหนึ่งจากซาอุดิอาราเบีย
เขาขอให้ฉันแต่งงานกับเขา และเมื่อฉันปฏิเสธ เขาได้ชี้ไปยังวัตถุสามอย่างซึ่งวางอยู่บนโต๊ะของเขาซึ่งมี มีด ปืน และเชือก เขาบอกว่า เขาจะใช้ทั้งสามอย่างถ้าฉันไม่ตอบตกลง ฉันปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาจึงทุบตีฉัน และยังตีหลานสาวของฉันที่มีอายุเพียง 3 ขวบ
ฉันถูกขายอีกครั้ง คราวนี้เป็นชายโสดคนหนึ่งที่อยากจะแต่งงานกับฉัน ฉันปฏิเสธทุกทาง และเป็นฝ่ายถูกทุบตีอีกครั้ง และอีกครั้งที่พวกเขาทุบตีหลานสาวตัวน้อยของฉัน เขาพยายามที่จะข่มขืนฉัน และเมื่อเขาไม่สามารถทำได้เขาก็ขายฉันอีกครั้ง
ในบ้านหลังใหม่ ฉันทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งทำความสะอาด ปรุงอาหาร และซักผ้า คนที่ซื้อฉันบอกว่าเขาจะต้องนอนกับฉันเพื่อที่จะทำให้ฉันเป็นมุสลิมที่แท้จริง ฉันบอกเขาว่าถ้าเขานอนกับฉัน ฉันจะกลายเป็นภรรยาของเขาและจากนั้นฉันจะไม่เป็นทาสอีกต่อไป ภรรยาของเขาขู่ว่าจะเลิกถ้าเขานอนกับฉัน
นางโกรธหลานสาวของฉันมากที่ไม่สามารถพูดภาษาอาหรับได้ นางเอาพริกไทยใส่ในปากของเธอและขังเธอในห้องพักโดยไม่ให้น้ำ นางทุบตีเธออย่างมากซึ่งคุณยังสามารถเห็นบาดแผลได้จนวันนี้
พวกเขาไม่ให้ฉันเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กของเธอเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เราได้รับอนุญาตให้กินอาหารเพียงน้อยนิด เพราะเราตกเป็นทาสและเราไม่ควรคาดหวังว่าจะได้รับอาหารมาก
เมื่อไอซิสมาถึง พวกเขาพยายามที่จะเปลี่ยนเราให้เป็นอิสลาม เราทุกคนได้แค่ร้องไห้ แม้กระทั่งพ่อของฉัน พวกเขานำเราทั้งหมดไปที่โรงเรียน ยึดเอาเงินและทรัพย์สินของเราทั้งหมด เราได้ยินมาว่า พวกเขาฆ่าคนไปถึงสี่รถบรรทุกที่เต็มไปด้วยผู้ชายจากหมู่บ้านของเรา
เมื่อเราได้ยินเสียงเครื่องบินบินเหนือศีรษะเรา ฉันภาวนาให้พวกเขาทิ้งระเบิดใส่ผู้ชายของเรา ซึ่งมันดีกว่าจะถูกฆ่าโดยไอซิส เช่นกันกับที่ฉันปรารถนาให้พวกเขาทิ้งระเบิดใส่พวกเรา ฉันต้องการที่จะถูกฆ่าโดยลูกกระสุนดีกว่าจะถูกไอซิสจับ
ฉันไม่ได้ถูกขาย แต่พวกเขานำฉันไปเมืองรักกา (Raqqa) ในซีเรีย และมอบฉันให้กับครอบครัวของซาอุดีอาระเบียเป็นของขวัญ เป็นทาส ฉันอยู่ที่นั่นเป็นเวลาแปดเดือน พวกเขานำเราไปโรงเรียนเพื่อสอนกุรอานแก่เรา
ฉันเห็นศีรษะที่ถูกตัดและร่างกายที่ถูกตรึงกางเขนของนักรบ YPG (อาสาสมัครชาวเคิร์ดซีเรียที่ต่อสู้ต้านไอซิส) มันน่าสยองขวัญ
ซีฮาน (Syhan) ตั้งครรภ์ในระหว่างที่เธอถูกคุมขัง และหนีออกมาได้ขณะตั้งครรภ์แปดเดือน เธออยู่ในตุรกีเป็นเวลาสองเดือนจนทารกเกิด
เธอกลับมาที่ภาคเหนือของอิรัก แต่ก็ไม่สามารถที่จะนำทารกมาจากตุรกีพร้อมกับเธอ และเธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน!!
—
แปลและเรียบเรียงจาก http://www.dailymail.co.uk/