ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและโอกาสในการออมเงินไปพร้อมกัน แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังสงสัยและมีคำถามเกี่ยวกับประกันชีวิตประเภทนี้ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกับ 5 คำถามยอดฮิตที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์กันครับ
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คืออะไร และแตกต่างจากประกันชีวิตทั่วไปอย่างไร ?
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันชีวิตที่ผสมผสานระหว่างการคุ้มครองชีวิตและการออมเงินเข้าด้วยกัน โดยผู้เอาประกันจะได้รับทั้งความคุ้มครองชีวิตและเงินคืนตามกำหนดระยะเวลาในกรมธรรม์
ความแตกต่างหลักระหว่างประกันชีวิตสะสมทรัพย์กับประกันชีวิตทั่วไป คือ:
- ประกันชีวิตทั่วไป (เช่น แบบตลอดชีพ หรือแบบชั่วระยะเวลา) จะเน้นให้ความคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก โดยจ่ายเงินสินไหมให้ผู้รับผลประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ นอกจากจะให้ความคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังมีส่วนของการออมเงินด้วย โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนตามกำหนดเวลา หรือเมื่อครบกำหนดสัญญา แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เหมาะกับใคร ?
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทั้งความคุ้มครองชีวิตและการออมเงินในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะกับ:
- ผู้ที่มีรายได้ประจำและต้องการวางแผนการเงินระยะยาว
- ผู้ที่ต้องการสร้างวินัยในการออมเงิน
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับการสะสมทรัพย์
- ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายในอนาคต เช่น การศึกษาของบุตร หรือเงินก้อนสำหรับใช้ในวัยเกษียณ
- ข้อดีและข้อเสียของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีอะไรบ้าง ?
ข้อดี:
- ได้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและการออมเงินในกรมธรรม์เดียว
- สร้างวินัยในการออมเงินระยะยาว
- มีเงินก้อนคืนตามระยะเวลาที่กำหนด
- ผลตอบแทนมีการรับประกันขั้นต่ำ
- สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ (ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด)
ข้อเสีย:
- เบี้ยประกันมักสูงกว่าประกันชีวิตแบบคุ้มครองอย่างเดียว
- ผลตอบแทนอาจน้อยกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น กองทุนรวม หรือหุ้น
- มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าการแยกทำประกันชีวิตและการออมเงิน
- อาจมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินก่อนกำหนด
- ควรทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เมื่อไหร่ และทำเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ดี ?
การเริ่มทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:
- อายุ: ยิ่งเริ่มทำเร็ว เบี้ยประกันก็จะยิ่งถูกลง และมีระยะเวลาในการสะสมทรัพย์นานขึ้น
- สถานะทางการเงิน: ควรมั่นใจว่ามีรายได้เพียงพอที่จะจ่ายเบี้ยประกันได้อย่างต่อเนื่อง
- เป้าหมายทางการเงิน: ควรพิจารณาว่าต้องการเงินก้อนเมื่อไหร่ เพื่อเลือกระยะเวลาคุ้มครองที่เหมาะสม
ส่วนระยะเวลาในการทำประกัน โดยทั่วไปมักมีตั้งแต่ 10-30 ปี ขึ้นอยู่กับแผนการเงินและความต้องการของแต่ละบุคคล แต่หากต้องการผลตอบแทนที่ดี ควรวางแผนระยะยาว 15-20 ปีขึ้นไป
- มีวิธีเลือกแบบประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่เหมาะกับตัวเองอย่างไร?
การเลือกแบบประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่เหมาะสม ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- ประเมินความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของตนเอง
- พิจารณาความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน
- เปรียบเทียบผลประโยชน์และความคุ้มครองจากหลายๆ บริษัท
- ตรวจสอบฐานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน
- ศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้นในกรมธรรม์อย่างละเอียด
- ปรึกษาตัวแทนประกันชีวิตหรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม